วันนี้ (19 ก.ค.2565) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค

การเลือกตั้ง อบต.ในจังหวัดพะเยา ที่หลายฝ่ายจับตา รวมถึงกลุ่มเครือข่ายเอเชียเพื่อเลือกตั้งเสรี หรือ อันเฟรล ถึงกับต้องลงพื้นที่เพื่อจับตามการเลือกตั้งครั้งนี้เพราะคาดว่าจะแข่งขันกันสูงในพื้นที่ฐานเสียง
วันนี้ (17 มี.ค.2565) พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ในฐานะประธานกรรมาธิการ ป.ป.ช. ของสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ได้รับเรื่องจากนายสิรวิทย์ ช่วงเสน หัวหน้าพรรครวมพลังคนรุ่นใหม่ ที่อ้
“ใจแลกใจ รูปแบบใหม่ดูแลผู้สูงวัยโคราช” ในยุคแห่งกระแสทุนโหมกระหน่ำการพัฒนาของประเทศไทย ได้ส่งผลอย่างก้าวกระโดดให้สังคมไทยเกิดสภาวะผันแปรโดยเฉพาะความเปลี่บนแปลงที่เกิดขึ้นกับสัดส่วนของประชากรที่อยู่ในวัยชรา “ใจแลกใจ รูปแบบใหม่ดูแลผู้สูงวัยโคราช” ความคาดการณ์ของสำนักงานเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่ระบุว่าในอีก 15 ปีข้างหน้าต่อจากนี้จำนวนของผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปจะเพิ่มมากกว่าร้อยละ 20 ของประชากรทั้งหมด ข้อมูลนี้คงจะเป็นความจริงที่หลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องเตรียมรับมืออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ “ดอนชมพู” ตำบลเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ในอำเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา ก็เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดของระบบเศรษฐกิจของไทย พื้นที่แห่งนี้มีผู้สูงอายุจำนวนมากถูกทิ้งให้อยู่เพียงลำพังเพราะลูกหลานต้องผันตัวเองเข้าเป็นแรงงานของระบบทุนเพื่อหาค่าใช้จ่ายมาจุนเจือครอบครัว หลากหลายหน่วยงานที่นี่ ทั้งข้าราชการท้องถิ่นและชาวบ้านจึงร่วมกันระดมสมองเพื่อหาหนทางในการแก้ไขปัญหาของผู้สูงวัยที่เกิดขึ้น จนกลายเป็นที่มาของการดูแลผู้สูงอายุอย่างเป็นระบบโดยการเน้นความ “กตัญญู” สมฉวี แบ่งกุศลจิต หัวหน้าโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลดอนชมพูบอกเล่าให้เราฟังถึงการดูแลผู้สูงอายุในชุมชนของเธอว่า “พวกเราเชื่อว่าการดูแลผู้สูงอายุที่ดีที่สุดคือการใช้ใจดูแล โดยเฉพาะเรื่องค่านิยมเรื่องความกตัญญู เป็นค่านิยมที่มีประโยชน์พวกเราจึงได้นำมาปรับใช้กับรูปแบบหลายส่วนในการดูแลผู้สูงอายุในพื้นที่ของเรา การดูแลของเราได้ประสานความร่วมมือจากหลากหลายฝ่าย ทั้งอสม.อบต. กลุ่มแม่บ้าน กลุ่มเด็กเยาวชน ทุกคนมาระดมสมองช่วยกันหมดว่าจะดูและคนเฒ่าคนแก่ในพื้นที่ได้อย่างไร เราคุยกันจนเกิดต้นแบบของหลากหลายโครงการทั้งการลงพื้นที่เยี่ยมคนแก่ที่เจ็บป่วยอย่างรุนแรง และการฟื้นฟูสภาพจิตใจของคนแก่ด้วยการลงไปพูดคุย ทำอาหารและทำความสะอาดบ้านให้ในทุกๆ อาทิตย์”หัวหน้าโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลดอนชมพูบอกเล่าให้เราฟังถึงบางส่วนของโครงการที่เกิดขึ้นในพื้นที่ เธอเล่าเพิ่มว่าโครงการที่ได้รับการตอบรับอย่างดีและช่วยให้ผู้สูงอายุในพื้นที่ของเธอมีความสุขทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจคือการนำผู้สูงอายุมาดูแลผู้สูงอายุในโครงการ “อาสาสมัครดูแลที่บ้าน”ซึ่งอาสาสมัครส่วนใหญ่ที่เข้าร่วมโครงการนี้ส่วนใหญ่เป็นคนเฒ่าคนแก่ที่ยังมีพละกำลังและใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยจิตอาสา “การให้คนแก่ดูแลคนแก่เป็นเรื่องที่ดีที่สุดเพราะเขาจะเข้าใจกันมากที่สุดเหมือนเพื่อนที่ดูแลกัน เล่าเรื่องราวปรับทุกข์ปรับสุขให้กันฟัง คนที่เข้าร่วมเป็นอาสาสมัครก็ได้ความสุขทางด้านจิตใจ คนที่ได้รับการดูแลก็ได้ความสุขและรอยยิ้ม โครงการนี้ถือได้ว่าเป็นโครงการที่ประสบผลสำเร็จมากในพื้นที่ของเรา” สมฉวีบอกเล่าด้วยรอยยิ้ม พร้อมกับให้ข้อมูลว่าการทำงานในพื้นที่ของเธอนั้นสามารถดูแลผู้สูงอายุได้อย่างเป็นระบบก็เนื่องจากการทำงานที่ถูกฝึกอบรมในเรืองของการคัดแยกข้อมูลของจำนวนประชากรและความต้องการของผู้สูงอายุในท้องที่ โดยได้รับความร่วมมือจากมูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุไทย (มส.ผส.) มาฝึกอบรมองค์ความรู้ในการทำแบบประเมินเพื่อคัดกรองรูปแบบของผู้สูงอายุในพื้นที่จนทำให้เกิดการบริการได้อย่างตรงจุดให้กับผู้สูงอายุ “มส.ผส.เขาเข้ามาให้องค์ความรู้กับพวกเราในหลายๆเรื่องทั้งเรื่องการปรับสภาพแวดล้อมให้เหมาะกับผู้สูงอายุ เรื่องการคัดแยกผู้สูงอายุด้วยแบบประเมินผลทำให้การดูแลผู้สูงอายุในท้องที่ของเรามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในองค์ความรู้เรื่องการประเมินรูปแบบของผู้สูงอายุนั้นทำให้ผู้สูงอายุ 19 คนในพื้นที่ที่ตกหล่นการสำรวจได้รับการดูแลอย่างทั่วถึง”หัวหน้าโรงพยาบาลส่งเสริม ความคาดการณ์ของสำนักงานเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่ระบุว่าในอีก 15 ปีข้างหน้าต่อจากนี้จำนวนของผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปจะเพิ่มมากกว่าร้อยละ 20 ของประชากรทั้งหมด ข้อมูลนี้คงจะเป็นความจริงที่หลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องเตรียมรับมืออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ “ดอนชมพู” ตำบลเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ในอำเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา ก็เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดของระบบเศรษฐกิจของไทย พื้นที่แห่งนี้มีผู้สูงอายุจำนวนมากถูกทิ้งให้อยู่เพียงลำพังเพราะลูกหลานต้องผันตัวเองเข้าเป็นแรงงานของระบบทุนเพื่อหาค่าใช้จ่ายมาจุนเจือครอบครัว หลากหลายหน่วยงานที่นี่ ทั้งข้าราชการท้องถิ่นและชาวบ้านจึงร่วมกันระดมสมองเพื่อหาหนทางในการแก้ไขปัญหาของผู้สูงวัยที่เกิดขึ้น จนกลายเป็นที่มาของการดูแลผู้สูงอายุอย่างเป็นระบบโดยการเน้นความ “กตัญญู” สมฉวี แบ่งกุศลจิต หัวหน้าโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลดอนชมพูบอกเล่าให้เราฟังถึงการดูแลผู้สูงอายุในชุมชนของเธอว่า “พวกเราเชื่อว่าการดูแลผู้สูงอายุที่ดีที่สุดคือการใช้ใจดูแล โดยเฉพาะเรื่องค่านิยมเรื่องความกตัญญู เป็นค่านิยมที่มีประโยชน์พวกเราจึงได้นำมาปรับใช้กับรูปแบบหลายส่วนในการดูแลผู้สูงอายุในพื้นที่ของเรา การดูแลของเราได้ประสานความร่วมมือจากหลากหลายฝ่าย ทั้งอสม.อบต. กลุ่2xl xo 2xl xoมแม่บ้าน กลุ่มเด็กเยาวชน ทุกคนมาระดมสมองช่วยกันหมดว่าจะดูและคนเฒ่าคนแก่ในพื้นที่ได้อย่างไร เราคุยกันจนเกิดต้นแบบของหลากหลายโครงการทั้งการลงพื้นที่เยี่ยมคนแก่ที่เจ็บป่วยอย่างรุนแรง และการฟื้นฟูสภาพจิตใจของคนแก่ด้วยการลงไปพูดคุย ทำอาหารและทำความสะอาดบ้านให้ในทุกๆ อาทิตย์”หัวหน้าโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลดอนชมพูบอกเล่าให้เราฟังถึงบางส่วนของโครงการที่เกิดขึ้นในพื้นที่ เธอเล่าเพิ่มว่าโครงการที่ได้รับการตอบรับอย่างดีและช่วยให้ผู้สูงอายุในพื้นที่ของเธอมีความสุขทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจคือการนำผู้สูงอายุมาดูแลผู้สูงอายุในโครงการ “อาสาสมัครดูแลที่บ้าน”ซึ่งอาสาสมัครส่วนใหญ่ที่เข้าร่วมโครงการนี้ส่วนใหญ่เป็นคนเฒ่าคนแก่ที่ยังมีพละกำลังและใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยจิตอาสา “การให้คนแก่ดูแลคนแก่เป็นเรื่องที่ดีที่สุดเพราะเขาจะเข้าใจกันมากที่สุดเหมือนเพื่อนที่ดูแลกัน เล่าเรื่องราวปรับทุกข์ปรับสุขให้กันฟัง คนที่เข้าร่วมเป็นอาสาสมัครก็ได้ความสุขทางด้านจิตใจ คนที่ได้รับการดูแลก็ได้ความสุขและรอยยิ้ม โครงการนี้ถือได้ว่าเป็นโครงการที่ประสบผลสำเร็จมากในพื้นที่ของเรา” สมฉวีบอกเล่าด้วยรอยยิ้ม พร้อมกับให้ข้อมูลว่าการทำงานในพื้นที่ของเธอนั้นสามารถดูแลผู้สูงอายุได้อย่างเป็นระบบก็เนื่องจากการทำงานที่ถูกฝึกอบรมในเรืองของการคัดแยกข้อมูลของจำนวนประชากรและความต้องการของผู้สูงอายุในท้องที่ โดยได้รับความร่วมมือจากมูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุไทย (มส.ผส.) มาฝึกอบรมองค์ความรู้ในการทำแบบประเมินเพื่อคัดกรองรูปแบบของผู้สูงอายุในพื้นที่จนทำให้เกิดการบริการได้อย่างตรงจุดให้กับผู้สูงอายุ “มส.ผส.เขาเข้ามาให้องค์ความรู้กับพวกเราในหลายๆเรื่องทั้งเรื่องการปรับสภาพแวดล้อมให้เหมาะกับผู้สูงอายุ เรื่องการคัดแยกผู้สูงอายุด้วยแบบประเมินผลทำให้การดูแลผู้สูงอายุในท้องที่ของเรามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในองค์ความรู้เรื่องการประเมินรูปแบบของผู้สูงอายุนั้นทำให้ผู้สูงอายุ 19 คนในพื้นที่ที่ตกหล่นการสำรวจได้รับการดูแลอย่างทั่วถึง”หัวหน้าโรงพยาบาลส่งเสริม
วันนี้ (4 ธ.ค.2565) นายนพดล ปัทมะ รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ปฏิเสธถึงความเกี่ยวข้องร
วันนี้ (16 ธ.ค.2567) นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. กล่าว
วันที่ 10 พ.ค.2566 พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บัญชาการประจำสำนักงาน ผบ.ตร. ในฐานะโฆษก ศูนย์อำนวยการ
“ใจแลกใจ รูปแบบใหม่ดูแลผู้สูงวัยโคราช” ในยุคแห่งกระแสทุนโหมกระหน่ำการพัฒนาของประเทศไทย ได้ส่งผลอย่างก้าวกระโดดให้สังคมไทยเกิดสภาวะผันแปรโดยเฉพาะความเปลี่บนแปลงที่เกิดขึ้นกับสัดส่วนของประชากรที่อยู่ในวัยชรา “ใจแลกใจ รูปแบบใหม่ดูแลผู้สูงวัยโคราช” ความคาดการณ์ของสำนักงานเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่ระบุว่าในอีก 15 ปีข้างหน้าต่อจากนี้จำนวนของผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปจะเพิ่มมากกว่าร้อยละ 20 ของประชากรทั้งหมด ข้อมูลนี้คงจะเป็นความจริงที่หลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องเตรียมรับมืออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ “ดอนชมพู” ตำบลเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ในอำเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา ก็เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดของระบบเศรษฐกิจของไทย พื้นที่แห่งนี้มีผู้สูงอายุจำนวนมากถูกทิ้งให้อยู่เพียงลำพังเพราะลูกหลานต้องผันตัวเองเข้าเป็นแรงงานของระบบทุนเพื่อหาค่าใช้จ่ายมาจุนเจือครอบครัว หลากหลายหน่วยงานที่นี่ ทั้งข้าราชการท้องถิ่นและชาวบ้านจึงร่วมกันระดมสมองเพื่อหาหนทางในการแก้ไขปัญหาของผู้สูงวัยที่เกิดขึ้น จนกลายเป็นที่มาของการดูแลผู้สูงอายุอย่างเป็นระบบโดยการเน้นความ “กตัญญู” สมฉวี แบ่งกุศลจิต หัวหน้าโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลดอนชมพูบอกเล่าให้เราฟังถึงการดูแลผู้สูงอายุในชุมชนของเธอว่า “พวกเราเชื่อว่าการดูแลผู้สูงอายุที่ดีที่สุดคือการใช้ใจดูแล โดยเฉพาะเรื่องค่านิยมเรื่องความกตัญญู เป็นค่านิยมที่มีประโยชน์พวกเราจึงได้นำมาปรับใช้กับรูปแบบหลายส่วนในการดูแลผู้สูงอายุในพื้นที่ของเรา การดูแลของเราได้ประสานความร่วมมือจากหลากหลายฝ่าย ทั้งอสม.อบต. กลุ่มแม่บ้าน กลุ่มเด็กเยาวชน ทุกคนมาระดมสมองช่วยกันหมดว่าจะดูและคนเฒ่าคนแก่ในพื้นที่ได้อย่างไร เราคุยกันจนเกิดต้นแบบของหลากหลายโครงการทั้งการลงพื้นที่เยี่ยมคนแก่ที่เจ็บป่วยอย่างรุนแรง และการฟื้นฟูสภาพจิตใจของคนแก่ด้วยการลงไปพูดคุย ทำอาหารและทำความสะอาดบ้านให้ในทุกๆ อาทิตย์”หัวหน้าโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลดอนชมพูบอกเล่าให้เราฟังถึงบางส่วนของโครงการที่เกิดขึ้นในพื้นที่ เธอเล่าเพิ่มว่าโครงการที่ได้รับการตอบรับอย่างดีและช่วยให้ผู้สูงอายุในพื้นที่ของเธอมีความสุขทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจคือการนำผู้สูงอายุมาดูแลผู้สูงอายุในโครงการ “อาสาสมัครดูแลที่บ้าน”ซึ่งอาสาสมัครส่วนใหญ่ที่เข้าร่วมโครงการนี้ส่วนใหญ่เป็นคนเฒ่าคนแก่ที่ยังมีพละกำลังและใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยจิตอาสา “การให้คนแก่ดูแลคนแก่เป็นเรื่องที่ดีที่สุดเพราะเขาจะเข้าใจกันมากที่สุดเหมือนเพื่อนที่ดูแลกัน เล่าเรื่องราวปรับทุกข์ปรับสุขให้กันฟัง คนที่เข้าร่วมเป็นอาสาสมัครก็ได้ความสุขทางด้านจิตใจ คนที่ได้รับการดูแลก็ได้ความสุขและรอยยิ้ม โครงการนี้ถือได้ว่าเป็นโครงการที่ประสบผลสำเร็จมากในพื้นที่ของเรา” สมฉวีบอกเล่าด้วยรอยยิ้ม พร้อมกับให้ข้อมูลว่าการทำงานในพื้นที่ของเธอนั้นสามารถดูแลผู้สูงอายุได้อย่างเป็นระบบก็เนื่องจากการทำงานที่ถูกฝึกอบรมในเรืองของการคัดแยกข้อมูลของจำนวนประชากรและความต้องการของผู้สูงอายุในท้องที่ โดยได้รับความร่วมมือจากมูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุไทย (มส.ผส.) มาฝึกอบรมองค์ความรู้ในการทำแบบประเมินเพื่อคัดกรองรูปแบบของผู้สูงอายุในพื้นที่จนทำให้เกิดการบริการได้อย่างตรงจุดให้กับผู้สูงอายุ “มส.ผส.เขาเข้ามาให้องค์ความรู้กับพวกเราในหลายๆเรื่องทั้งเรื่องการปรับสภาพแวดล้อมให้เหมาะกับผู้สูงอายุ เรื่องการคัดแยกผู้สูงอายุด้วยแบบประเมินผลทำให้การดูแลผู้สูงอายุในท้องที่ของเรามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในองค์ความรู้เรื่องการประเมินรูปแบบของผู้สูงอายุนั้นทำให้ผู้สูงอายุ 19 คนในพื้นที่ที่ตกหล่นการสำรวจได้รับการดูแลอย่างทั่วถึง”หัวหน้าโรงพยาบาลส่งเสริม ความคาดการณ์ของสำนักงานเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่ระบุว่าในอีก 15 ปีข้างหน้าต่อจากนี้จำนวนของผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปจะเพิ่มมากกว่าร้อยละ 20 ของประชากรทั้งหมด ข้อมูลนี้คงจะเป็นความจริงที่หลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องเตรียมรับมืออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ “ดอนชมพู” ตำบลเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ในอำเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา ก็เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดของระบบเศรษฐกิจของไทย พื้นที่แห่งนี้มีผู้สูงอายุจำนวนมากถูกทิ้งให้อยู่เพียงลำพังเพราะลูกหลานต้องผันตัวเองเข้าเป็นแรงงานของระบบทุนเพื่อหาค่าใช้จ่ายมาจุนเจือครอบครัว หลากหลายหน่วยงานที่นี่ ทั้งข้าราชการท้องถิ่นและชาวบ้านจึงร่วมกันระดมสมองเพื่อหาหนทางในการแก้ไขปัญหาของผู้สูงวัยที่เกิดขึ้น จนกลายเป็นที่มาของการดูแลผู้สูงอายุอย่างเป็นระบบโดยการเน้นความ “กตัญญู” สมฉวี แบ่งกุศลจิต หัวหน้าโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลดอนชมพูบอกเล่าให้เราฟังถึงการดูแลผู้สูงอายุในชุมชนของเธอว่า “พวกเราเชื่อว่าการดูแลผู้สูงอายุที่ดีที่สุดคือการใช้ใจดูแล โดยเฉพาะเรื่องค่านิยมเรื่องความกตัญญู เป็นค่านิยมที่มีประโยชน์พวกเราจึงได้นำมาปรับใช้กับรูปแบบหลายส่วนในการดูแลผู้สูงอายุในพื้นที่ของเรา การดูแลของเราได้ประสานความร่วมมือจากหลากหลายฝ่าย ทั้งอสม.อบต. กลุ่2xl xo 2xl xoมแม่บ้าน กลุ่มเด็กเยาวชน ทุกคนมาระดมสมองช่วยกันหมดว่าจะดูและคนเฒ่าคนแก่ในพื้นที่ได้อย่างไร เราคุยกันจนเกิดต้นแบบของหลากหลายโครงการทั้งการลงพื้นที่เยี่ยมคนแก่ที่เจ็บป่วยอย่างรุนแรง และการฟื้นฟูสภาพจิตใจของคนแก่ด้วยการลงไปพูดคุย ทำอาหารและทำความสะอาดบ้านให้ในทุกๆ อาทิตย์”หัวหน้าโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลดอนชมพูบอกเล่าให้เราฟังถึงบางส่วนของโครงการที่เกิดขึ้นในพื้นที่ เธอเล่าเพิ่มว่าโครงการที่ได้รับการตอบรับอย่างดีและช่วยให้ผู้สูงอายุในพื้นที่ของเธอมีความสุขทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจคือการนำผู้สูงอายุมาดูแลผู้สูงอายุในโครงการ “อาสาสมัครดูแลที่บ้าน”ซึ่งอาสาสมัครส่วนใหญ่ที่เข้าร่วมโครงการนี้ส่วนใหญ่เป็นคนเฒ่าคนแก่ที่ยังมีพละกำลังและใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยจิตอาสา “การให้คนแก่ดูแลคนแก่เป็นเรื่องที่ดีที่สุดเพราะเขาจะเข้าใจกันมากที่สุดเหมือนเพื่อนที่ดูแลกัน เล่าเรื่องราวปรับทุกข์ปรับสุขให้กันฟัง คนที่เข้าร่วมเป็นอาสาสมัครก็ได้ความสุขทางด้านจิตใจ คนที่ได้รับการดูแลก็ได้ความสุขและรอยยิ้ม โครงการนี้ถือได้ว่าเป็นโครงการที่ประสบผลสำเร็จมากในพื้นที่ของเรา” สมฉวีบอกเล่าด้วยรอยยิ้ม พร้อมกับให้ข้อมูลว่าการทำงานในพื้นที่ของเธอนั้นสามารถดูแลผู้สูงอายุได้อย่างเป็นระบบก็เนื่องจากการทำงานที่ถูกฝึกอบรมในเรืองของการคัดแยกข้อมูลของจำนวนประชากรและความต้องการของผู้สูงอายุในท้องที่ โดยได้รับความร่วมมือจากมูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุไทย (มส.ผส.) มาฝึกอบรมองค์ความรู้ในการทำแบบประเมินเพื่อคัดกรองรูปแบบของผู้สูงอายุในพื้นที่จนทำให้เกิดการบริการได้อย่างตรงจุดให้กับผู้สูงอายุ “มส.ผส.เขาเข้ามาให้องค์ความรู้กับพวกเราในหลายๆเรื่องทั้งเรื่องการปรับสภาพแวดล้อมให้เหมาะกับผู้สูงอายุ เรื่องการคัดแยกผู้สูงอายุด้วยแบบประเมินผลทำให้การดูแลผู้สูงอายุในท้องที่ของเรามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในองค์ความรู้เรื่องการประเมินรูปแบบของผู้สูงอายุนั้นทำให้ผู้สูงอายุ 19 คนในพื้นที่ที่ตกหล่นการสำรวจได้รับการดูแลอย่างทั่วถึง”หัวหน้าโรงพยาบาลส่งเสริม
“ใจแลกใจ รูปแบบใหม่ดูแลผู้สูงวัยโคราช” ในยุคแห่งกระแสทุนโหมกระหน่ำการพัฒนาของประเทศไทย ได้ส่งผลอย่าง