จีนเตรียมพร้อมรับมือ “นาลแก” ถล่มเกาะไหหลำ จีนเตรียมรับมือพายุโซนร้อนนาลแกที่จะพัดเข้าถล่มเกาะไหหลำใ

วันนี้ (15 ธ.ค.2564) กองบังคับการตำรวจรถไฟ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมกันจับกุมนายมนัส (สงวนนามสกุล) อายุ 51 ปี ที่บริเวณหลังหอสัญญาณ สถานีรถไฟเด่นชัย อ.เด่นชัย จ.แพร่ โดยกล่าวหาว่า “ลักทรัพย์ในสถ

ผู้เชี่ยวชาญชี้ การก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ เออีซี เป็นปัจจัยผลักดันให้หลายประเทศเตรียมยกเลิกการอุดหนุนราคาพลังงาน เพื่อไม่ให้ประเทศอื่นเข้ามาซื้อในราคาต่ำกว่าราคาตลาด โดยเฉพาะมาเลเซียที่เตรียมลอยตัวราคาก๊าซธรรมชาติที่ปากหลุม ผู้เชี่ยวชาญชี้ ภายหลังการหารือระดับทวิภาคีกับรัฐมนตรีพลังงานของมาเลเซียระหว่างการประชุมรัฐมนตรีอาเซียน ที่ประเทศบรูไน นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า มาเลเซียเห็นด้วยกับนโยบายลอยตัวราคาพลังงานของไทย และมีแนวโน้มว่า จะขึ้นราคาก๊าซธรรมชาติที่ปากหลุมทุก ๆ 6 เดือน ในอัตรา 1 ดอลลาร์สหรัฐต่อล้านบีทียู จากราคาปัจจุบันที่ 1 ดอลลาร์ 70 เซนต์ ถึง 2 ดอลลาร์ต่อล้านบีทียู ซึ่งเป็นราคาที่อุดหนุนมานาน ทำให้ต้องขาดเงินลงทุนในแหล่งปิโตรเลียมขนาดเล็ก และ ทำให้ประเทศอื่นเข้าซื้อก๊าซในราคาถูก ขณะที่ราคาก๊าซธรรมชาติที่ปากหลุมของไทยอยู่ที่ 7 ดอลลาร์สหรัฐต่อล้านบีทียู ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานมองว่า แนวโน้มการลอยตัวราคาพลังงานเป็นกระแสโลก ส่วนการอุดหนุนราคาจะมีแต่ผลเสีย ทั้งการสิ้นเปลืองพลังงาน ประชาชนไม่มีความตระหนักถึงการประหยัด และทำให้เกิดภาวะโลกร้อน รวมถึงเป็นภาระงบประมาณที่ต้องอุดหนุนเพิ่มขึ้นทุกปี จากยอดการใช้ที่ขยายตัว แต่การเกิดขึ้นของเออีซีเป็นเพียงหนึ่งปัจจัยเร่งเท่านั้น หากรัฐบาลทำให้ราคาพลังงานในประเทศถูกกว่าราคาส่งออกอาจถูกกล่าวหาว่า ใช้เป็นมาตรการกีดกันทางการค้า และ เป็นปัญหาในการเจรจาการค้ากับต่างประเทศ ทบวงการพลังงานระหว่างประเทศ ระบุว่า ในอาเซียนอินโดนีเซีย เป็นประเทศที่อุดหนุนราคาพลังงานมากที่สุด และใช้งบประมาณปีละ 300,00 -400,000 ล้านบาท ส่วนมาเลเซีย เป็นอันดับสอง แต่ทั้งสองประเทศเป็นผู้ผลิตและส่งออกพลังงานฟอสซิล ทำให้มีรายได้มาอุดหนุนราคาในประเทศต่างจากไทยที่อุดหนุนมากเป็นอันดับสาม ซึ่งเคยเป็นหนี้จากการชดเชยราคาน้ำมันช่วงปี 2547-2548 กว่า 92,000 ล้านบาท และ ลดภาษีสรรพสามิตเกือบ 80,000 ล้านบาท ในปี 2553 จนถึงปัจจุบัน ภายหลังการหารือระดับทวิภาคีกับรัฐมนตรีพลังงานของมาเลเซียระหว่างการประชุมรัฐมนตรีอาเซียน ที่ประเทศบรูไน นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า มาเลเซียเห็นด้วยกับนโยบายลอยตัวราคาพลังงานของไทย และมีแนวโน้มว่า จะขึ้นราคาก๊าซธรรมชาติที่ปากหลุมทุก ๆ 6 เดือน ในอัตรา 1 ดอลลาร์สหรัฐต่อล้านบีทียู จากราคาปัจจุบันที่ 1 ดอลลาร์ 70 เซนต์ ถึง 2 ดอลลาร์ต่อล้านบีทียู ซึ่งเป็นราคาที่อุดหนุนมานาน ทำให้ต้องขาดเงินลงทุนในแหล่งปิโตรเลียมขนาดเล็ก และ ทำให้ประเทศอื่นเข้าซื้อก๊าซในราคาถูก ขณะที่ราคาก๊าซธรรมชาติที่ปากหลุมของไทยอยู่ที่ 7 ดอลลาร์สหรัฐต่อล้านบีทียู ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานมองว่า แนวโน้มการลอยตัวราคาพลังงานเป็นกระแสโลก ส่วนการอุดหนุนราคาจะมีแต่ผลเสีย ทั้งการสิ้นเปลืองพลังงาน ประชาชนไม่มีความตระหนักถึงการประหยัด และทำให้เกิดภาวะโลกร้อน รวมถึงเป็นภาระงบประมาณที่ต้องอุดหนุนเพิ่มขึ้นทุกปี จากยอดการใช้ที่ขยายตัว แต่การเกิดขึ้นของเออีซีเป็นเพียงหนึ่งปัจจัยเร่งเท่านั้น หากรัฐบาลทำให้ร123goal ดี ไหม 123goal ดี ไหมาคาพลังงานในประเทศถูกกว่าราคาส่งออกอาจถูกกล่าวหาว่า ใช้เป็นมาตรการกีดกันทางการค้า และ เป็นปัญหาในการเจรจาการค้ากับต่างประเทศ ทบวงการพลังงานระหว่างประเทศ ระบุว่า ในอาเซียนอินโดนีเซีย เป็นประเทศที่อุดหนุนราคาพลังงานมากที่สุด และใช้งบประมาณปีละ 300,00 -400,000 ล้านบาท ส่วนมาเลเซีย เป็นอันดับสอง แต่ทั้งสองประเทศเป็นผู้ผลิตและส่งออกพลังงานฟอสซิล ทำให้มีรายได้มาอุดหนุนราคาในประเทศต่างจากไทยที่อุดหนุนมากเป็นอันดับสาม ซึ่งเคยเป็นหนี้จากการชดเชยราคาน้ำมันช่วงปี 2547-2548 กว่า 92,000 ล้านบาท และ ลดภาษีสรรพสามิตเกือบ 80,000 ล้านบาท ในปี 2553 จนถึงปัจจุบัน

ผู้เชี่ยวชาญชี้ การก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ เออีซี เป็นปัจจัยผลักดันให้หลายประเทศเตรียมยกเลิกการอุดหนุนราคาพลังงาน เพื่อไม่ให้ประเทศอื่นเข้ามาซื้อในราคาต่ำกว่าราคาตลาด โดยเฉพาะมาเลเซียที่เตร