เฟซบุ๊ก ของ นพ.อารักษ์ วงศ์วรชาติ ผู้อำนวยการโรงพย

เพจเฟซบุ๊ก โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เปิดเผยข้อความเกี่ยวกับความหวังใหม่ในการสู้กับไวรัส COVID-19 สายพันธุ์โอมิครอน Omicron (B.1.1.529) โดยระบุว่า จากผลการศึกษาระยะเริ่มต้นแสดงให้เห็นว่า ย
กรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า กรณีข่าวทางสื่อโซเซียล บิดเบือนข้อมูลให้สังคมเกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนว่า การดูแลรักษาพยาบาลผู้ต้องขังที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ไม่มีแม้แต่ยาพารา ผ้าก๊อซ หรือส
กรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า กรณีข่าวทางสื่อโซเซียล บิดเบือนข้อมูลให้สังคมเกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนว่า การดูแลรักษาพยาบาลผู้ต้องขังที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ไม่มีแม้แต่ยาพารา ผ้าก๊อซ หรือสำลี เรือนจำขาดแคลนยา และการรักษาพยาบาลพื้นฐานนั้น กรมราชทัณฑ์ ได้รับรายงานจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ชี้แจงว่า ปัจจุบันการดูแลรักษาพยาบาลผู้ต้องขังในเรือนจำเป็นไปตามมาตรฐานการปฏิบัติงานของเรือนจำ ซึ่งภายในสถานพยาบาลของเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร มีพยาบาลวิชาชีพ พยาบาลเฉพาะทาง นักจิตวิทยา เภสัชกร อีกทั้งยังได้ฝึกอบรมผู้ช่วยงานอาสาสมัครสาธารณสุขเรือนจำ (อสรจ.) จำนวนรวม 119 คน อัตราส่วน อสรจ. 1 คน ต่อผู้ต้องขัง 33 คน (มาตรฐาน 1 : 50) ซึ่งอยู่ประจำทุกแดน การดูแลรักษาผู้ป่วยในเรือนจำ พยาบาลวิชาชีพประจำแดน จะเข้าตรวจรักษาทุกวัน หากพบอาการป่วยเบื้องต้นจะรักษาและจ่ายยาในแดน กรณีที่จำเป็นต้องตรวจเพิ่มเติม จะเบิกตัวส่งมาตรวจที่สถานพยาบาล แดน 7 เพื่อประเมินอาการจากพยาบาลเวร และเมื่อพบว่า อาการป่วยเกินศักยภาพในการรักษาของสถานพยาบาล จะส่งต่อไปยังทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ซึ่งถือเป็นโรงพยาบาลแม่ข่ายของเรือนจำ กรณีอาการป่วยเกินขีดความสามารถของทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์จะรักษาได้ จะส่งต่อไปรักษายังโรงพยาบาลภายนอกที่มีศักยภาพมากกว่า นอกจากนั้น เรือนจำฯ จะมีแพทย์จากทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เข้าตรวจรักษาเป็นประจำ ซึ่งประกอบด้วยแพทย์เวชกรรมทั่วไป แพทย์จิตเวช และแพทย์ทันตกรรม นอกจากนี้ สถานพยาบาลเรือนจำมีระบบ Telemedicine ปรึกษากับแพทย์โรงพยาบาลแม่ข่ายอีกด้วย ส่วนประเด็นเรื่องการจ่ายยาสามัญประจำบ้าน จะจ่ายให้กินเท่าที่จำเป็น ไม่อนุญาตให้เก็บไว้ส่วนตัวในปริมาณมาก เพื่อป้องกันการกินยาเกินขนาด หรือนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ ส่วนการจ่ายสำสี และผ้าก๊อซปิดแผล จะแนะนำให้มาล้างแผลที่สถานพยาบาล เพื่อป้องกันการติดเชื้อ ส่วนการจ่ายยาควบคุม เช่น ยาจิตเวชที่มีอาการมึนเมา หรือง่วงซึม จะให้กินต่อหน้าเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุม แลหวยะกรณีที่มียากินประจำที่รักษาจากโรงพยาบาลเดิม สามารถนำมาฝากไว้กับเภสัชกรเรือนจำ เพื่อตรวจและจ่ายให้ผู้ต้องขังด้วย เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ยืนยันว่า ยังมียาและเวชภัณฑ์อย่างเพียงพอ โดยได้รับการสนับสนุนจากทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ อีกทั้งยังมีระบบการส่งต่อผู้ป่วยเป็นไปตามมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งปัจจุบัน ไม่มีสถานการณ์โรคระบาดใด ๆ ภายในเรือนจำ
วันนี้ (27 ม.ค.2564) กรุงเทพมหานคร รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19 ระลอกใหม่ ตั้งแต่วันที่ 20 ธ
วันนี้ (11 พ.ค.2566) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้เผยภาพภาพล่าสุด “
วันนี้ (7 มิ.ย.2566) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อม 8 พรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แถลงผล
กรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า กรณีข่าวทางสื่อโซเซียล บิดเบือนข้อมูลให้สังคมเกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนว่า การดูแลรักษาพยาบาลผู้ต้องขังที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ไม่มีแม้แต่ยาพารา ผ้าก๊อซ หรือสำลี เรือนจำขาดแคลนยา และการรักษาพยาบาลพื้นฐานนั้น กรมราชทัณฑ์ ได้รับรายงานจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ชี้แจงว่า ปัจจุบันการดูแลรักษาพยาบาลผู้ต้องขังในเรือนจำเป็นไปตามมาตรฐานการปฏิบัติงานของเรือนจำ ซึ่งภายในสถานพยาบาลของเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร มีพยาบาลวิชาชีพ พยาบาลเฉพาะทาง นักจิตวิทยา เภสัชกร อีกทั้งยังได้ฝึกอบรมผู้ช่วยงานอาสาสมัครสาธารณสุขเรือนจำ (อสรจ.) จำนวนรวม 119 คน อัตราส่วน อสรจ. 1 คน ต่อผู้ต้องขัง 33 คน (มาตรฐาน 1 : 50) ซึ่งอยู่ประจำทุกแดน การดูแลรักษาผู้ป่วยในเรือนจำ พยาบาลวิชาชีพประจำแดน จะเข้าตรวจรักษาทุกวัน หากพบอาการป่วยเบื้องต้นจะรักษาและจ่ายยาในแดน กรณีที่จำเป็นต้องตรวจเพิ่มเติม จะเบิกตัวส่งมาตรวจที่สถานพยาบาล แดน 7 เพื่อประเมินอาการจากพยาบาลเวร และเมื่อพบว่า อาการป่วยเกินศักยภาพในการรักษาของสถานพยาบาล จะส่งต่อไปยังทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ซึ่งถือเป็นโรงพยาบาลแม่ข่ายของเรือนจำ กรณีอาการป่วยเกินขีดความสามารถของทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์จะรักษาได้ จะส่งต่อไปรักษายังโรงพยาบาลภายนอกที่มีศักยภาพมากกว่า นอกจากนั้น เรือนจำฯ จะมีแพทย์จากทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เข้าตรวจรักษาเป็นประจำ ซึ่งประกอบด้วยแพทย์เวชกรรมทั่วไป แพทย์จิตเวช และแพทย์ทันตกรรม นอกจากนี้ สถานพยาบาลเรือนจำมีระบบ Telemedicine ปรึกษากับแพทย์โรงพยาบาลแม่ข่ายอีกด้วย ส่วนประเด็นเรื่องการจ่ายยาสามัญประจำบ้าน จะจ่ายให้กินเท่าที่จำเป็น ไม่อนุญาตให้เก็บไว้ส่วนตัวในปริมาณมาก เพื่อป้องกันการกินยาเกินขนาด หรือนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ ส่วนการจ่ายสำสี และผ้าก๊อซปิดแผล จะแนะนำให้มาล้างแผลที่สถานพยาบาล เพื่อป้องกันการติดเชื้อ ส่วนการจ่ายยาควบคุม เช่น ยาจิตเวชที่มีอาการมึนเมา หรือง่วงซึม จะให้กินต่อหน้าเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุม แลหวยะกรณีที่มียากินประจำที่รักษาจากโรงพยาบาลเดิม สามารถนำมาฝากไว้กับเภสัชกรเรือนจำ เพื่อตรวจและจ่ายให้ผู้ต้องขังด้วย เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ยืนยันว่า ยังมียาและเวชภัณฑ์อย่างเพียงพอ โดยได้รับการสนับสนุนจากทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ อีกทั้งยังมีระบบการส่งต่อผู้ป่วยเป็นไปตามมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งปัจจุบัน ไม่มีสถานการณ์โรคระบาดใด ๆ ภายในเรือนจำ
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เตรียมประสานกองทัพส่งทหารมาร่วมกับสำนักการระบายน้ำ