วันนี้ (19 มี.ค.2566) "ฮาย" ปวิศรัฐฐ์ ติยะไพรัช ปร
(23 ก.พ.67) เวลา 09.00 น. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้การต้อนรับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ในโอกาสเดินทางมาเยือนศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร พร้อมทั้งประชุมติดตามเร่
วันนี้ (22 ธ.ค.2565) เมื่อเวลา 19.40 น. ตำรวจเชิญตัวเป็นเลขาฯ ของนายประสิทธิ์ เจียวก๊ก และคนใกล้ชิด มาที่ห้องสืบสวน สน.พหลโยธิน เพื่อทำการสอบปากคำเกี่ยวกับกรณีนายประสิทธิ์ เจียวก๊ก ผู้ต้องหาในความผิดฐ
วันนี้ (22 ธ.ค.2565) เมื่อเวลา 19.40 น. ตำรวจเชิญตัวเป็นเลขาฯ ของนายประสิทธิ์ เจียวก๊ก และคนใกล้ชิด มาที่ห้องสืบสวน สน.พหลโยธิน เพื่อทำการสอบปากคำเกี่ยวกับกรณีนายประสิทธิ์ เจียวก๊ก ผู้ต้องหาในความผิดฐานร่วมกันกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พยายามหลบหนีระหว่างการนัดสอบคำให้การและตรวจพยานหลักฐานที่ศาลอาญาเมื่อช่วงเช้าวันนี้ โดยก่อนหน้านี้ตำรวจได้เชิญตัว 1 ในผู้ต้องสงสัยที่คาดว่าจะเป็นผู้ที่ถือกระเป๋าเสื้อผ้าเข้าไปไว้ในห้องน้ำ มาสอบปากคำก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งตำรวจ สน.พหลโยธิน อยู่ระหว่างการสอบปากคำ ทั้ง 3 คน อ่านข่าว : ศาลสั่งสอบภาพกล้องวงจรปิดใครช่วย "ประสิทธิ์ เจียวก๊ก" หนีศาล พ.ต.อ.ชิศณุพงศ์ สุริยานนท์ ผกก.สน.พหลโยธิน เปิดเผยว่า ผู้ต้องสงสัย 3 ราย ที่ปรากฏเครดิต ฟรี 50 100ภายในภาพวงจรปิด คือเลขาฯ และคนสนิทของนายประสิทธิ์ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา โดยอยู่ระหว่างการสอบถามที่ศาลอาญาและรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐานต่างๆ ว่าทั้ง 3 คน มีส่วนเกี่ยวข้องกับการพยายามหลบหนีของนายประสิทธิ์หรือไม่ โดยขั้นตอนหลังจากนี้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกิดขึ้นภายในพื้นที่ของศาล จะต้องมีการพิจารณาว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายการละเมิดศาลหรือไม่ หากการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายการละเมิดศาล ทางศาลอาญามีอำนาจในการพิจารณาและตัดสินโทษเอง หรือจะส่งตัวมาที่ สน.พหลโยธิน พื้นที่เกิดเหตุเพื่อดำเนินการก็ได้ ส่วนประเด็นการหลบหนีของนายประสิทธิ์ เป็นการหลบหนีจากการคุมตัวของเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ ซึ่งหลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ก็จะต้องเดินทางมาร้องทุกข์กล่าวโทษที่ สน.พหลโยธินต่อไป สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นายประสิทธิ์ ถือว่าเข้าข่ายความผิดผู้ใดหลบหนีระหว่างที่ถูกคุมขังตามอำนาจของศาล ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 190 ส่วนผู้สมรู้ร่วมคิดก็จะเข้าข่ายร่วมกันกระทำความผิด ต้องรับโทษเท่ากัน อย่างไรก็ตามทางศาลก็จะดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดในข้อหาละเมิดอำนาจศาล ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ข่าวที่เกี่ยวข้อง : "ราชทัณฑ์" ตั้ง กก.สอบ กรณี "ประสิทธิ์" หนีศาล
วันนี้ (17 ก.ย.2564) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานะโฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล
การเดินทางจากกรุงเทพมหานคร - อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ที่ค่อนข้างสะดวกสบาย ทำให้
วันนี้ (29 ม.ค.2568) สำนักงาน กกต. เปิดเลขผู้มีสิทธิเลือกตั้งนายกและสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวั
วันนี้ (22 ธ.ค.2565) เมื่อเวลา 19.40 น. ตำรวจเชิญตัวเป็นเลขาฯ ของนายประสิทธิ์ เจียวก๊ก และคนใกล้ชิด มาที่ห้องสืบสวน สน.พหลโยธิน เพื่อทำการสอบปากคำเกี่ยวกับกรณีนายประสิทธิ์ เจียวก๊ก ผู้ต้องหาในความผิดฐานร่วมกันกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พยายามหลบหนีระหว่างการนัดสอบคำให้การและตรวจพยานหลักฐานที่ศาลอาญาเมื่อช่วงเช้าวันนี้ โดยก่อนหน้านี้ตำรวจได้เชิญตัว 1 ในผู้ต้องสงสัยที่คาดว่าจะเป็นผู้ที่ถือกระเป๋าเสื้อผ้าเข้าไปไว้ในห้องน้ำ มาสอบปากคำก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งตำรวจ สน.พหลโยธิน อยู่ระหว่างการสอบปากคำ ทั้ง 3 คน อ่านข่าว : ศาลสั่งสอบภาพกล้องวงจรปิดใครช่วย "ประสิทธิ์ เจียวก๊ก" หนีศาล พ.ต.อ.ชิศณุพงศ์ สุริยานนท์ ผกก.สน.พหลโยธิน เปิดเผยว่า ผู้ต้องสงสัย 3 ราย ที่ปรากฏเครดิต ฟรี 50 100ภายในภาพวงจรปิด คือเลขาฯ และคนสนิทของนายประสิทธิ์ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา โดยอยู่ระหว่างการสอบถามที่ศาลอาญาและรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐานต่างๆ ว่าทั้ง 3 คน มีส่วนเกี่ยวข้องกับการพยายามหลบหนีของนายประสิทธิ์หรือไม่ โดยขั้นตอนหลังจากนี้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกิดขึ้นภายในพื้นที่ของศาล จะต้องมีการพิจารณาว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายการละเมิดศาลหรือไม่ หากการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายการละเมิดศาล ทางศาลอาญามีอำนาจในการพิจารณาและตัดสินโทษเอง หรือจะส่งตัวมาที่ สน.พหลโยธิน พื้นที่เกิดเหตุเพื่อดำเนินการก็ได้ ส่วนประเด็นการหลบหนีของนายประสิทธิ์ เป็นการหลบหนีจากการคุมตัวของเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ ซึ่งหลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ก็จะต้องเดินทางมาร้องทุกข์กล่าวโทษที่ สน.พหลโยธินต่อไป สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นายประสิทธิ์ ถือว่าเข้าข่ายความผิดผู้ใดหลบหนีระหว่างที่ถูกคุมขังตามอำนาจของศาล ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 190 ส่วนผู้สมรู้ร่วมคิดก็จะเข้าข่ายร่วมกันกระทำความผิด ต้องรับโทษเท่ากัน อย่างไรก็ตามทางศาลก็จะดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดในข้อหาละเมิดอำนาจศาล ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ข่าวที่เกี่ยวข้อง : "ราชทัณฑ์" ตั้ง กก.สอบ กรณี "ประสิทธิ์" หนีศาล
วันนี้ (3 ธ.ค.2565) รัฐสภาอินโดนีเซียเตรียมผ่านกฎหมายอาญาฉบับใหม่ภายในเดือนนี้ ซึ่งมีบทลงโทษการมีเพศ