ชาวบ้านหมู่บ้านห้วยขวาง หมู่ 11 ตำบลท่าผา อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ทะยอยขุดหน่อกล้วยที่ปลูกไว้ ม

วันนี้ (22 มี.ค.2567) ความคืบหน้ากรณีมีการติดป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ ซึ่งมีเนื้อหาข้อความระบุถึง "ผู้สาวโคราช" โดยมีแอปพลิเคชันหาคู่เจ้าหนึ่งนำมาติดตั้งบนอาคารพาณิชย์ ริมถนนโพธิ์กลาง เขตเทศบาลนครนครราชสีมา

วันนี้ (22 มี.ค.2567) ความคืบหน้ากรณีมีการติดป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ ซึ่งมีเนื้อหาข้อความระบุถึง "ผู้สาวโคราช" โดยมีแอปพลิเคชันหาคู่เจ้าหนึ่งนำมาติดตั้งบนอาคารพาณิชย์ ริมถนนโพธิ์กลาง เขตเทศบาลนครนครราชสีมา ห่างจากลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารีไม่ถึง 500 เมตร นอกจากนี้ยังพบว่ามีป้ายลักษณะนี้ติดกระจายในหลายพื้นที่ ป้ายข้อความนี้ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างแพร่หลาย บางคนมองว่าเนื้อหาส่อไปในทางดูถูกเหยียดหยามผู้หญิงโคราช ในขณะที่บางคนมองว่าเป็นเพียงการโฆษณาและไม่อยากให้ดรามา ล่าสุด กรรมการสภาทนายความ จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นสุภาพสตรีทั้ง 5 คน ประชุมหารือกันเพื่อให้มีการปลดป้ายโดยเร็ว น.ส.ลภัสรดา ณัฐอาภาพล รองประธานสภาทนายความ จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า จากข้อความโฆษณาของป้ายดังกล่าว ทำให้เกิดข้อถกเถียงกันในสื่อสังคมออนไลน์ทั้ง 2 แง่มุม ไม่ว่าจะเป็นแง่ลบและแง่บวก ซึ่งผู้ทำป้ายโฆษณาอาจมีเป้าหมายเพื่อให้เกิดกระแสถกเถียงในวงกว้างและให้มีคนสนใจเข้าไปสมัครเว็บหาคู่เพิ่มขึ้น แต่ในส่วนของความรู้สึกของชาวโคราช ไม่ส่งผลดีต่อภาพลักษณ์ของผัดหมี่โคราชและสาวโคราชอย่างแน่นอน ดังนั้นในแง่ของกฎหมาย ถ้าคำโฆษณานั้นๆ เป็นการลดทอนคุณค่าของหญิงสาวชาวโคราช หรือนำไปเปรียบกับอาหาร ก็มีความผิดเข้าข่ายฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา มีโทษปรับไม่เกิน 200,000 บาท จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ รองประธานสภาทนายความ จ.นครราชสีมา กล่าวอีกว่า วันนี้ (22 มี.ค.) ทางสภาทนายความจะแจ้งไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบ แจ้งให้เจ้าของป้ายโฆษณาดังกล่าวนำป้ายออกโดเครดิต ฟรี แค่ กรอก เบอร์ ล่าสุดแจก ฟรี ไม่ ต้อง แชร์ ล่าสุดยเร็วภายใน 7 วัน หากไม่นำป้ายโฆษณาออก สภาทนายความ จ.นครราชสีมา และเครือข่ายปกป้องสิทธิสตรีโคราช จะเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองนครราชสีมา เพื่อให้ดำเนินคดีกับเจ้าของแอปพลิเคชัน อ่านข่าวอื่นๆ ตร.ส่งหมายเรียกรอบ 2 ไม่เจอ "บิ๊กโจ๊ก" ลางานถึง 1 เม.ย. "บิ๊กต่าย" ยัน ตร.มีขั้วเดียว ปัดตอบ "บิ๊กโจ๊ก" ลางานยาวไป ตปท. ป่วนกลางดึก! ลอบเผา-วางระเบิด หลายจุด ปัตตานี-นราธิวาส-ยะลา

การโจมตีของรัสเซียตลอด 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้เกิดคลื่นผู้ลี้ภัยระลอกใหม่ขึ้นในแถบยุโรปตะวันออก โดยบรรยากาศบริเวณด่านพรมแดนระหว่างโปแลนด์กับยูเครน เต็มไปด้วยกลุ่มชาวยูเครนที่ลี้ภัยสงคราม การรอข้ามพรม