วันนี้ (2 ก.ย.2564) นางศิรินุช ชีวันพิศาลนุกูล รองผอ.องค์การเภสัชกรรม (อภ.) กล่าวว่า ตามที่มีการเสนอข่าวทางสื่อมวลชน และสื่อสังคมออนไลน์ว่า การที่อภ.ซ็นสัญญาซื้อ ATK กับบริษัท เวิลด์ เมดิคอล อัลไลแอนซ
มาตรา 158 วรรคสี่ กำหนดว่า “นายกรัฐมนตรีจะดำรงตำแหน่งรวมกันแล้วเกิน 8 ปี มิได้ ไม่ว่าจะเป็นการดำรงตำ
วันนี้ (1 มี.ค.2565) เวลา 18.50 น. บริเวณหน้า สภ.นนทบุรี นายตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ (ปอ) นำพวงมาลัยมาขอขมา นางพนิดา ศิริยุทธโยธิน แม่ของ น.ส.นิดา พัชรวีระพงษ์ หรือ แตงโม ดาราสาวที่เสียชีวิตระหว่างการนั่ง
เป็นเวลากว่า 3 ปีที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เปลี่ยนเป็นกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โดยใน พ.รscr888918 kiss http //m.918kiss.com/.บ. สภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติได้มีการให้นิยามของคำว่า “นวัตกรรม” ไว้ว่า “ผลิตภัณฑ์ สิ่งประดิษฐ์ บริการ กรรมวิธีที่เกี่ยวกับการผลิต การจัดโครงสร้างองค์กร ระบบบริหารจัดการ การบริหารการเงิน ธุรกิจ การตลาด หรือในการอื่นใด ทั้งนี้ ซึ่งเป็นสิ่งใหม่หรือพัฒนาให้ดีขึ้นกว่าเดิมอย่างมีนัยสำคัญและนำไปใช้ประโยชน์ได้ในวงกว้างทั้งในเชิงพาณิชย์ และสาธารณะ” ซึ่งจะสังเกตได้ว่า มีการเพิ่มคำว่านวัตกรรมเข้ามาในชื่อกระทรวง และได้พูดถึงการใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ และสาธารณะ เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่านวัตกรรมเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากในการพัฒนาประเทศ และเป็นสิ่งที่ได้มาจากการพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แต่จริง ๆ แล้วบ่อเกิดของนวัตกรรมคืออะไร และการพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนั้นสร้างนวัตกรรมได้อย่างไร บทความนี้ ชวนมองกรณีขององค์การวิจัยนิวเคลียร์ยุโรป (CERN) ที่เป็นหนึ่งในหน่วยงานวิจัยวิทยาศาสตร์พรมแดน (Frontier Science) ที่หมายถึงการศึกษาวิทยาศาสตร์บริสุทธิ์ เช่น ฟิสิกส์ หรือคณิตศาสตร์ ว่าเหตุใดในทุก ๆ ปี จึงมีการทุ่มเงินมหาศาลเพื่อทำให้หน่วยงานนี้ดำเนินการได้อยู่ ทั้งที่คนทั่วไปอาจไม่ได้ยินชื่อนี้มานานตั้งแต่ข่าวใหญ่เรื่องการค้นพบอนุภาคฮิกส์โบซอน (Higgs Boson) ในปี 2012 ที่ผ่านมา ในปี 2022 CERN ได้รับการอนุมัติงบประมาณสนับสนุนจากประเทศสมาชิกในกลุ่มยุโรปมากกว่า 1,400 ล้านฟรังก์สวิส คิดเป็นเงินไทยประมาณ 56,000 ล้านบาท โดยเงินเหล่านี้ประกอบไปด้วยค่าทุนวิจัย ค่าใช้จ่ายในการวิจัยด้านฟิสิกส์ ทุนการศึกษา ค่าอุปกรณ์การทดลอง และการบำรุงดูแลเครื่องจักรที่มูลค่าสูงที่สุดในโลกอย่าง เครื่องเร่งอนุภาค Large Hadron Collider (LHC) ที่มีมูลค่าสูงเกือบ 200,000 ล้านบาท และนับเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่มีราคาแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ รองจากสถานีอวกาศนานาชาติ ในเว็บไซต์ของ CERN ระบุว่า เป้าหมายของ CERN “คือการศึกษาว่าจักรวาลถูกสร้างขึ้นมาได้อย่างไร และมีกลไกการทำงานอย่างไร ผ่านเครื่องเร่งอนุภาค ที่จะช่วยเพิ่มขอบเขตของความรู้ของมนุษยชาติ” ซึ่งสิ่งนี้อาจนำมาซึ่งคำถามว่า แล้วประชาชนผู้จ่ายภาษีได้อะไรจากการจ่ายเงินปริมาณมหาศาลให้นักฟิสิกส์กลุ่มหนึ่งที่หมกมุ่นกับคำถามว่าจักรวาลถูกสร้างขึ้นมาได้อย่างไร แต่หากเราย้อนมองในประวัติศาสตร์แล้ว เทคโนโลยี นวัตกรรม และผลิตภัณฑ์ ล้วนมีบ่อเกิดมาจากการทำงานวิทยาศาสตร์และการค้นพบใหม่ ๆ หากไม่มีการทดลองทางไฟฟ้า ทุกวันนี้การนำไฟฟ้ามาใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ก็ไม่อาจเกิดขึ้นได้ หรือแม้กระทั่ง CERN เอง ที่เป็นจุดเริ่มต้นของเทคโนโลยี World Wide Web (WWW) ที่เราใช้กันในปัจจุบัน เราจึงอาจมองได้ว่าองค์กรเหล่านี้คือบ่อเกิดของนวัตกรรม ที่การตั้งคำถาม การศึกษา จะนำพามนุษย์เดินหน้าไปค้นพบสิ่งใหม่เสมอ การตั้งคำถามลักษณะ “เครื่องเร่งอนุภาคจะสามารถทำเงินให้กับประเทศได้เท่าไหร่ มีระยะเวลากี่ปี” จึงอาจเป็นคำถามที่ไม่ตรงจุด เพราะหากเรามองว่าวิทยาศาสตร์เป็นกระบวนการคิด ผลจากวิทยาศาสตร์ก็ควรเป็นกระบวนการคิดเช่นกันไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ รูปแบบการจ่ายเงินเพื่อสนับสนุนของ CERN นั้นก็น่าสนใจไม่แพ้กัน ประเทศสมาชิกต้องจ่ายเงินตามรายได้ของประเทศ โดยคิดจากปัจจัยเช่น Gross National Product (GNP) หรือ Gross Domestic Product (GDP) เป็นต้น นั่นทำให้ประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ ก็มาพร้อมกับภาระในการต้องสนับสนุนหน่วยงานด้านวิทยาศาสตร์นี้อย่างไม่มีเงื่อนไข กรณีของ CERN นั้นเป็นเพียงหนึ่งตัวอย่างของการสนับสนุนองค์กรด้านวิทยาศาสตร์ที่เป็นวิทยาศาสตร์บริสุทธิ์ โดยองค์กรอื่น ๆ ที่มีลักษณะการดำเนินการใกล้เคียงกัน เช่น ห้องวิจัย LIGO (Laser Interferometer Gravitational-Wave Observatory) ในสหรัฐฯ หรือ สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (NARIT) ของประเทศไทย ที่มีการศึกษาศาสตร์เชิงลึก ที่อาจยากจะมองเป็นผลิตภัณฑ์ทางเศรษฐกิจได้โดยตรง สิ่งนี้จึงน่าทำให้เรากลับมามองย้อนกระบวนการจัดการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในประเทศของเราว่า เราได้ออกแบบโครงสร้างและรูปแบบการสนับสนุนงานวิจัยที่เป็นวิทยาศาสตร์บริสุทธิ์มากเพียงใด และรูปแบบการให้ทุนนั้นเหมาะสมกับลักษณะงานหรือไม่ และเราจะออกแบบการวัดผลอย่างไร นี่จึงเป็นความท้าทายสำหรับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ที่จะต้องคอยเลี้ยงสภาพแวดล้อมที่กระตุ้นให้นักวิทยาศาสตร์ สามารถทำงานวิจัยได้ ในขณะที่สามารถหาแหล่งเงินทุนเพื่อสนับสนุนกระบวนการนี้ได้ด้วยเช่นกัน ที่มาภาพ: CERN “รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech
เป็นเวลากว่า 3 ปีที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เปลี่ยนเป็นกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โดยใน พ.รscr888918 kiss http //m.918kiss.com/.บ. สภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติได้มีการ
- scr888918 kiss http //m.918kiss.com/
- เว็บ ดู ฟุตบอล ฟรี
- เกม ใน nintendo switch
- หวย งวด เลข เด็ด
- ทาง เข้า slotxo 888
- ดู บอล แมน ยู สด คืน นี้