วันนี้ (9 มิ.ย.2565) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงาน

วันนี้ (16 มิ.ย.2566) นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตามที่ได้ปรากฏข่าวเกี่ยวกับบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ทำให้เกิดข้อสงสัยจากสาธารณชนหลากหลายประเด็น โดยเฉพาะ
วันที่ 12 พ.ศ.2565 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐฯ ครั้งที่ 10 ซึ่งเป็นการประชุมแบบเต็มคณะ (plenary) โดยมีสมเด็จอัคคมหาเส
วันที่ 12 พ.ศ.2565 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐฯ ครั้งที่ 10 ซึ่งเป็นการประชุมแบบเต็มคณะ (plenary) โดยมีสมเด็จอัคคมหาเสนาบดีเดโชฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเป็นประธานการประชุม และมีผู้นำประเทศสมาชิกอาเซียน 9 ประเทศ (เมียนมาไม่เข้าร่วม) นายโจเซฟ อาร์. ไบเดน จูเนียร์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และเลขาธิการอาเซียน เข้าร่วม โดยในการประชุมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ ทบทวนความคืบหน้าและกำหนดทิศทางการขับเคลื่อนความสัมพันธ์อาเซียน-สหรัฐฯ ด้านการเมืองและความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม พร้อมทั้งแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นภูมิภาคและระหว่างประเทศ โดยภายหลังการประชุม นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เปิดเผยสาระสำคัญจากคำกล่าวของนายกรัฐมนตรี ดังนี้ นายกรัฐมนตรีถือว่าการประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมสำคัญที่จะได้ทบทวน กำหนดทิศทางความสัมพันธ์ว่าจะก้าวไปข้างหน้าร่วมกันอย่างไร ท่ามกลางวิกฤตและความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในโลกและในภูมิภาค ความท้าทายในโลกยังทวีความรุนแรงและซับซ้อนยิ่งขึ้น เกิดความเหลื่อมล้ำด้านการพัฒนา วิกฤตด้านอาหารและพลังงาน ภัยพิบัติจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และความขัดแย้งระหว่างประเทศ นายกรัฐมนตรีเห็นว่าการจะก้าวข้ามผ่านอุปสรรคเหล่านี้ได้ต้องสร้างความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์แบบรอบด้านระหว่างอาเซียนกับสหรัฐฯ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้เสนอให้กระชับความเป็น “หุ้นส่วน” ใน 3 ประเด็น ดังนี้ 1. “หุ้นส่วนเพื่อสร้างบรรยากาศของความร่วมมือในภูมิภาค” ยินดีที่สหรัฐฯ สนับสนุนความเป็นแกนกลางของอาเซียนอย่างต่อเนื่อง และหวังว่ายุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก และข้อริเริ่มอื่น ๆ ของสหรัฐฯ อาทิ “ออคัส” กลุ่มภาคี “คว้อด” และกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจอินโด-แปซิฟิกจะเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ และหวังที่จะเห็นมหาอำนาจและผู้เล่นสำคัญในภูมิภาคทำงานร่วมกัน เพื่อส่งเสริมความร่วมมือภายใต้หลักการของมุมมองอาเซียนต่ออินโด-แปซิฟิก โดยควรคว้าโอกาสทองจากการประชุมใหญ่สามการประชุมในภูมิภาคในห้วงสัปดาห์นี้ เพื่อหารือทางออกที่เป็นไปได้สำหรับวิกฤตที่เร่งด่วน 2. “หุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาขีดความสามารถด้านเศรษฐกิจ” สหรัฐฯ ควรส่งเสริมการพัฒนาด้านดิจิทัลและเศรษฐกิจดิจิทัล ทั้งการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลในภูมิภาค ซึ่งรวมถึงในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และการพัฒนาขีดความสามารถให้แก่แรงงานและผู้ประกอบการ โดยเฉพาะ MSMEs สตาร์ทอัพ และผู้ประกอบการสตรี นายกรัฐมนตรีหวังว่า กิจกรรม “เทรดวินส์บิสซิเนสฟอรั่ม” ที่ไทยในปีหน้า จะช่วยสร้างโอกาสทางธุรกิจในสาขาเหล่านี้ด้วย 3. “หุ้นส่วนเพื่อการดำเนินการด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ” ยินดีที่สหรัฐฯ ให้ความสำคัญกับวาระนี้ เพื่อให้การดำเนินการด้านการเปลีมา เก่า ซัน ซิตี้ ค่า สิ โน่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศบรรลุผลต้องสนับสนุนกลไกทางการเงินสีเขียว การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสีเขียว และการลงทุนและการสร้างงานในอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ในโอกาสนี้ ไทยในฐานะเจ้าภาพการประชุมเอเปคจะมุ่งเน้นการสร้างภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกที่เปิดกว้าง เชื่อมโยง และสมดุลแบบองค์รวม โดยมีโมเดลเศรษฐกิจ BCG เป็นแนวคิดพื้นฐาน ซึ่งไทยพร้อมที่จะทำงานร่วมกับสหรัฐฯ ในฐานะเจ้าภาพการประชุมเอเปคในปีหน้า เพื่อขับเคลื่อนวาระนี้อย่างต่อเนื่องและให้เกิดผลเป็นรูปธรรม นายกรัฐมนตรีเชื่อว่าความเป็นหุ้นส่วนในประเด็นเหล่านี้จะเป็นแกนหลักสำคัญช่วยให้ความสัมพันธ์อาเซียน-สหรัฐฯ มีความเข้มแข็ง และเป็น “พลัง” พาภูมิภาคและโลกเดินหน้าต่อไปได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนกว่าเดิม
โปรแกรมการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ 2022 ที่เมืองหางโจว ประเทศจีน ของทัพนักกีฬาทีมชาติไทย วันที่ 26 ก.
วันนี้ (24 ม.ค.2564) ตำรวจปราบจลาจลในเมืองเยคาเตรินเบิร์ก สลายการชุมนุมของกลุ่มผู้สนับสนุนอเล็กซี นา
เรือบรรทุกน้ำมันขนาดใหญ่ ถูกคลื่นซัดเกยตื้นบริเวณปลายแหลมสนอ่อน อ.เมืองสงขลา ตั้งแต่เมื่อวานนี้ เป็น
วันที่ 12 พ.ศ.2565 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐฯ ครั้งที่ 10 ซึ่งเป็นการประชุมแบบเต็มคณะ (plenary) โดยมีสมเด็จอัคคมหาเสนาบดีเดโชฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเป็นประธานการประชุม และมีผู้นำประเทศสมาชิกอาเซียน 9 ประเทศ (เมียนมาไม่เข้าร่วม) นายโจเซฟ อาร์. ไบเดน จูเนียร์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และเลขาธิการอาเซียน เข้าร่วม โดยในการประชุมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ ทบทวนความคืบหน้าและกำหนดทิศทางการขับเคลื่อนความสัมพันธ์อาเซียน-สหรัฐฯ ด้านการเมืองและความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม พร้อมทั้งแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นภูมิภาคและระหว่างประเทศ โดยภายหลังการประชุม นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เปิดเผยสาระสำคัญจากคำกล่าวของนายกรัฐมนตรี ดังนี้ นายกรัฐมนตรีถือว่าการประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมสำคัญที่จะได้ทบทวน กำหนดทิศทางความสัมพันธ์ว่าจะก้าวไปข้างหน้าร่วมกันอย่างไร ท่ามกลางวิกฤตและความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในโลกและในภูมิภาค ความท้าทายในโลกยังทวีความรุนแรงและซับซ้อนยิ่งขึ้น เกิดความเหลื่อมล้ำด้านการพัฒนา วิกฤตด้านอาหารและพลังงาน ภัยพิบัติจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และความขัดแย้งระหว่างประเทศ นายกรัฐมนตรีเห็นว่าการจะก้าวข้ามผ่านอุปสรรคเหล่านี้ได้ต้องสร้างความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์แบบรอบด้านระหว่างอาเซียนกับสหรัฐฯ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้เสนอให้กระชับความเป็น “หุ้นส่วน” ใน 3 ประเด็น ดังนี้ 1. “หุ้นส่วนเพื่อสร้างบรรยากาศของความร่วมมือในภูมิภาค” ยินดีที่สหรัฐฯ สนับสนุนความเป็นแกนกลางของอาเซียนอย่างต่อเนื่อง และหวังว่ายุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก และข้อริเริ่มอื่น ๆ ของสหรัฐฯ อาทิ “ออคัส” กลุ่มภาคี “คว้อด” และกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจอินโด-แปซิฟิกจะเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ และหวังที่จะเห็นมหาอำนาจและผู้เล่นสำคัญในภูมิภาคทำงานร่วมกัน เพื่อส่งเสริมความร่วมมือภายใต้หลักการของมุมมองอาเซียนต่ออินโด-แปซิฟิก โดยควรคว้าโอกาสทองจากการประชุมใหญ่สามการประชุมในภูมิภาคในห้วงสัปดาห์นี้ เพื่อหารือทางออกที่เป็นไปได้สำหรับวิกฤตที่เร่งด่วน 2. “หุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาขีดความสามารถด้านเศรษฐกิจ” สหรัฐฯ ควรส่งเสริมการพัฒนาด้านดิจิทัลและเศรษฐกิจดิจิทัล ทั้งการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลในภูมิภาค ซึ่งรวมถึงในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และการพัฒนาขีดความสามารถให้แก่แรงงานและผู้ประกอบการ โดยเฉพาะ MSMEs สตาร์ทอัพ และผู้ประกอบการสตรี นายกรัฐมนตรีหวังว่า กิจกรรม “เทรดวินส์บิสซิเนสฟอรั่ม” ที่ไทยในปีหน้า จะช่วยสร้างโอกาสทางธุรกิจในสาขาเหล่านี้ด้วย 3. “หุ้นส่วนเพื่อการดำเนินการด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ” ยินดีที่สหรัฐฯ ให้ความสำคัญกับวาระนี้ เพื่อให้การดำเนินการด้านการเปลีมา เก่า ซัน ซิตี้ ค่า สิ โน่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศบรรลุผลต้องสนับสนุนกลไกทางการเงินสีเขียว การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสีเขียว และการลงทุนและการสร้างงานในอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ในโอกาสนี้ ไทยในฐานะเจ้าภาพการประชุมเอเปคจะมุ่งเน้นการสร้างภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกที่เปิดกว้าง เชื่อมโยง และสมดุลแบบองค์รวม โดยมีโมเดลเศรษฐกิจ BCG เป็นแนวคิดพื้นฐาน ซึ่งไทยพร้อมที่จะทำงานร่วมกับสหรัฐฯ ในฐานะเจ้าภาพการประชุมเอเปคในปีหน้า เพื่อขับเคลื่อนวาระนี้อย่างต่อเนื่องและให้เกิดผลเป็นรูปธรรม นายกรัฐมนตรีเชื่อว่าความเป็นหุ้นส่วนในประเด็นเหล่านี้จะเป็นแกนหลักสำคัญช่วยให้ความสัมพันธ์อาเซียน-สหรัฐฯ มีความเข้มแข็ง และเป็น “พลัง” พาภูมิภาคและโลกเดินหน้าต่อไปได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนกว่าเดิม
วันนี้ (6 พ.ย.2564) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธ