วันนี้ (4 เม.ย.2567) น.ส.วิริฒิพา ภักดีประสงค์ หรือ วุ้นเส้น, น.ส.ปณิตา พัฒนาหิรัญ หรือ หนิง และ น.ส

วันนี้ (30 ก.ย.2565) ชุดลาดตระเวนออนไลน์ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 ร่วมกับ ชุดปฏิบัติการที่ 5 ศปอส.ตร หรือ PCT จับกุมตัวนายกิตติศักดิ์ อายุ 40 ปี อดีตรองผู้จัดการเขตของธนาคารแห่งหนึ่ง ผู้

วันนี้ (4 เม.ย.2567) น.ส.วิริฒิพา ภักดีประสงค์ หรือ วุ้นเส้น, น.ส.ปณิตา พัฒนาหิรัญ หรือ หนิง และ น.ส.เบญจกิติ เมฆแสน ผู้ก่อตั้งและเจ้าของผลิตภัณฑ์ เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้า เข้าพบตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ตำรวจไซเบอร์ หลังเข้าจับกุมโกดังเก็บเครื่องสำอางที่มีการอ้างชื่อผลิตภัณฑ์ของกลุ่มตนเอง เมื่อ 2 วันก่อน ทั้งนี้ ตำรวจสืบสวนสอบสวนทางเทคโนโลยี ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สืบสวนพบร้านค้าออนไลน์ที่มีพฤติการณ์ลักลอบจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางผิดกฎหมายจึงรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอหมายค้นต่อศาลแขวงสมุทรปราการ ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดตรวจค้นและเจ้าหน้าที่​ อย. ได้ร่วมกันตรวจค้น 2 จุดเป้าหมายในพื้นที่หมู่ 32 ซอยที่ดินไทย ถนนเทพารักษ์ ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี​ จ.สมุทรปราการ ผลการตรวจค้นพบของกลางผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางผิดกฎหมายจำนวนมาก จึงตรวจยึดผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง รวม 4,491 ชิ้น มูลค่ากว่า 1,000,000 บาท เบื้องต้นพบว่า โกดังสินค้าดังกล่าวมีคนไทยทำงานอยู่ แต่อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าผู้เช่าเป็นคนไทย หรือเป็นทุนจีนสีเทา ส่วนผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางจำนวนมากที่ตรวจยึดได้อยู่ระหว่างส่งกรมวิทยาศาสตร์ตรวจสอบว่ามีสารอันตรายหรือไม่ น.ส.วิริฒิพา กล่าวว่า กรณีดังกล่าวพบว่ามีคนนำคลิปวิดีโอแmm99winนะนำผลิตภัณฑ์ของตนไปโพสต์ในโซเชียลฯ เพื่อโฆษณาขายสินค้า แต่สินค้าที่ส่งให้ไม่ใช่สินค้าของตน ซึ่งอาจทำให้ลูกค้าเข้าใจผิดว่าสินค้าตนไม่มีคุณภาพ โดยพบว่ามีหลายเพจที่โพสต์คลิปแอบอ้างเป็นคลิปเดียวกัน จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบและสืบหาให้พบต้นตอ เพื่อเอาผิดและไม่ให้ก่อเหตุอีก ขณะที่ น.ส.ปณิตา ตั้งคำถามเกี่ยวกับการลักลอบนำเข้าสินค้าเครื่องสำอางจากต่างประเทศ ว่า การทำธุรกิจของตนเองและผู้ประกอบการคนไทยจำนวนมากที่ถูกกฎหมาย พบว่ามีขั้นตอนยุ่งยาก เข้มงวด ต้องขออนุญาตจากหลายหน่วยงาน แต่เหตุใดเจ้าหน้าที่จึงละเลยปล่อยให้คนที่ทำธุรกิจผิดกฎหมายนำสินค้าเข้ามาจำหน่ายอย่างง่ายดาย จนทำให้คนที่ทำธุรกิจถูกกฎหมายเดือดร้อน ด้าน พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผู้บังคับการกองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 กล่าวว่า ขณะนี้ ยังไม่มีเจ้าของร้านค้าออนไลน์แสดงตนว่าเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางผิดกฎหมายที่ตรวจยึดในครั้งนี้ พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดตรวจเร่งรวบรวมพยานหลักฐานในส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อส่งมอบให้พนักงานสอบสวน สภ.บางพลี เพื่อออกหมายเรียกเจ้าของร้านค้าออนไลน์ต่างๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องมารับทราบข้อกล่าวหา รวมถึงเร่งขยายผลจับกุมผู้ลักลอบจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางผิดกฎหมายรายอื่นๆ อ่านข่าวอื่นๆ จับ "ตำรวจไซเบอร์" ผลิตปืนอัดลมขายออนไลน์ จับคาโรงแรมกลางกรุงฯ "ไอซ์ 100 กก." เปิดห้องพักยาเสพติด "อุทยาน" แจ้งเอาผิด "ทางพินัย" นักท่องเที่ยวจับหางฉลามวาฬ

DSI เล็งสอบคดีแชร์ลอตเตอรี่ คาดส่งฟ้องศาลได้อาทิตย์หน้า ผู้บัญชาการสำนักคดีทรัพย์สินทางปัญญา กรมสอบสวนคดีพิเศษ เร่งรวบรวมพยานหลักฐานคดีแชร์ลอตเตอรี่จังหวัดเลย เนื่องจากคดีนี้มีผู้เสียหายกว่า 1,000 คน