รถยนต์พลังงานไฟฟ้าพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ขับเคลื่อนด้วยพ

รมว.เกษตรฯ เร่งสอบข่าวลือหักค่าหัวคิวช่วยน้ำท่วม กระทรวงคมนาคมเตรียมขอเงินงบประมาณ 5,000 ล้านบาทเพื่อใช้ซ่อมแซมถนนที่เสียหายจากน้ำท่วม ขณะที่ รมว.เกษตรและสหกรณ์เตรียมตรวจสอบข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับกา
วันนี้ (5 ก.พ.2564) ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ติดแฮชแท็ก #AsiansAreHuman และ #JusticeForVicha เพื่อเรียกร้องความเท่าเทียมด้านสิทธิมนุษยชนและต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติหลังเกิดกรณีนายวิชา รัตนภักดี ชายไทยวัย
วันนี้ (25 ธ.ค.66) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ กล่าวถึงผลสำรวจความคิดเห็นของสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง การสำรวจคะแนนนิยมทางการเมืองที่มีคะแนน ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สูงกว่า นายเศรษฐา ทวีสิน และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ว่า ไม่แปลกอะไร เพราะการสำรวจของโพลต้องดูว่าขึ้นอยู่กับสถาบันฯใดบ้างและกลุ่มตัวอย่างมีจำนวนเท่าไหร่ หรือส่วนใดบ้าง ส่วนกรณีที่มีลักษณะคนเมืองหรือคนกลุ่มหนุ่มสาว นายภูมิธรรม ยอมรับว่า เสียงความนิยมของนายพิธา ยังมีความนิยมอยู่ แต่จริง ๆ ต้องอยู่ที่การทำงาน ซึ่งรัฐบาลนี้เข้ามาในช่วงแรกก็ยังยุ่งอยู่ในช่วงการทำงานมาก แต่หลังการทำงานก็ต้องดูกันว่าประชาชนจะรู้สึกหรือยอมรับอย่างไร พร้อมย้ำว่า ความนิยมไม่เท่ากับผลงานรับใช้ประชาชน อ่านข่าว : "พิธา" เข้าไต่สวนคดี 112 ยันไม่มีเจตนาล้มล้างการปกครอง เมื่อถามว่าระยะเวลา 3 เดือน เร็วเกินไปสำหรับการสำรวจความคิดเห็นประชาชนหรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่า 3 เดือนเร็วไปนิดนึง เหมือนกับที่จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เพราะรัฐบาลเพิ่งเข้ามาทำงาน พร้อมขอให้เข้าใจว่ารัฐบาลเข้ามาทำงานก็เจอแต่ปัญหาเยอะ ซึ่งเป็นปัญหาที่สะสมมา 9-10 ปี จากการรัฐประหารของประเทศ ซึ่งการดำเนินการขณะนี้ถือเป็นการปูรากฐาน โดยสิ่งที่สำคัญขณะนี้คือรัฐบาลไม่มีเงินลงทุนเกี่ยวกับงบในการดำเนินงาน โดยส่วนใหญ่เป็นงบประมาณประจำ เพราะงบประมาณเป็นช่วงรอยต่อ ขณะนี้งบประมาณปี 67 กำลังจะเข้าต้นปีที่จะถึงนี้ เพราะฉะนั้นขณะนี้จึงไม่มีเงินทำงาน แต่เงินที่จะสามารถจะมาดำเนินการได้ก็จะเป็นช่วง พ.ค.67 เป็นต้นไป พร้อมย้ำว่าที่ผ่านมาเราใช้เงินในการบริหาร โดยนำธนาคารของรัฐเข้ามาช่วยบ้างหรือเป็นเงินที่หยิบตรงนั้นมาโปะตรงนี้ ฉะนั้นการทำงานในวันนี้คือการสร้างรากฐาน และเป็นการเตรียมพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาในอนาคตต่อไป นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ พร้อมยืนยันว่าปี 67 จะเป็นปีที่ทุกคนจะได้เห็นว่าฝีมือการทำงาน พร้อมมองว่าตั้งแต่ปี 67 คนก็จะเริ่มเข้าใจแล้วว่า ในช่วง 3 เดือนที่รัฐบาลดำเนินการมาได้ปูรากฐานอะไรไว้บ้าง โดยในส่วนของตนที่กำกับดูแลกระทรวงพาณิชย์ ก็ทำนโยบายเรื่องลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ ซึ่งไม่มีการใช้เงินรัฐ เพราะมีการดึงบริษัทต่าง ๆ เข้ามาช่วยกัน เพื่อแก้ไขปัญหาของประชาชน และบริษัทหลายบริษัทก็ยอมขาดทุนเพราะเป็นการช่วยเหลือประชาชน เพราะถ้าประชาชนแข็งแรงก็จะเอื้อในเรื่องเศรษฐกิจได้ดี และทำให้ระบบขับเคลื่อนไปได้ และจะเชื่อมโยงไปถึงการขยับขึ้นทางด้านเศรษฐกิจ อ่านข่าว : ศาลรธน. ไต่สวน "พิธา" แก้ไข ม.112 ล้มล้างการปกครอง ส่วนมั่นใจว่าผลงานรัฐบาลจะเป็นตัวดึงคะแนนความนิยมกลับคืนมาได้ใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่า ตนมองว่าเรื่องผลงานเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด ในการดึงความรู้สึกของประชาชน เพราะถ้าเห็นว่าถ้าเห็นว่ารัฐบาลตั้งใจจริงและสามารถแก้ไขปัญหาได้ ประชาชนก็จะพึงพอใจ แต่สิ่งสำคัญเหนือสิ่งอื่นใดคือเรามีความสามารถเหนือกว่าพรรคการเมืองอื่น คือการลงไปพบปะกับประชาชนโดยตรง เพราะสมาชิกพรรคเพื่อไทยลงพื้นที่ ก็ได้รับเสียงสนับสนุนแนบแน่นและแข็งแรง เราก็ยังเชื่อมั่นในตรงนี้ แต่อาจจะต้องปรับปรุงการสื่อสารให้กับประชาชนและเยาวชนให้มากขึ้น โดยการใช้ โซเชียลมีเดีย อ่านข่าว : “รัฐบาลเศรษฐา” เปิดผลงาน 3 เดือน “ลดรายจ่าย-เพิ่มรายได้” รอดูดอกผลปีหน้า พร้อมยอมรับว่าพรรคเพื่อไทย ยังไม่แข็งแรงในเรื่องของการใช้โซเชียลมีเดีย ทำให้การสื่อสารยังคงมีข้อจำกัด แต่เชื่อว่าหลังจากที่มีการปรับปรุงพรรคใหม่และมีหัวหน้าพรรคคนใหม่ คือ น.ส.แพทองธาร รวมถึง มีกรรมการบริหารพรรครุ่นใหม่ ก็เชื่อว่าการปรับตัวต่างๆจะทำให้เข้าถึงทุกกลุ่มทุกวิชาชีพ และเยาวชนกลุ่มต่างๆได้มากขึ้น ความเชื่อว่าการสื่อสารในเรื่องของวิสัยทัศน์ผลงาน สื่อสารประชาชนมากขึ้น ก็จะเป็นผลทำให้สิ่งต่างๆได้พัฒนาดีขึ้น นายภูมิธรรมยังกล่าวย้ำว่าขณะนี้ยังเร็วเกินไป เพราะรัฐบาลplaytech asia reviewมีเวลา 4 ปีแต่หลังจาก 4 ปีประชาชนก็จะเป็นผู้ตัดสิน ว่าใครพูดใครทำและสร้างประโยชน์ให้ประชาชนได้ดีที่สุด ข่าวที่เกี่ยวข้อง "ชัยธวัช" เตรียมซักฟอกงบฯ ปี 67 โอดมีเวลาอ่านเอกสารแค่ 7 วัน "เศรษฐา" ยะก๋านเมืองน่าน แก้หนี้นอกระบบพรุ่งนี้
วันนี้ (1 ก.ย.2567) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่เวลา 17.00 น.หลังปิดหีบเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่ว
วันนี้ (25 ธ.ค.66) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ กล่าวถึงผลสำรวจความคิดเห็น
วันนี้ (20 มี.ค.2567) ฟุตบอลทีมชาติไทย ประกาศ หมายเลขเสื้อ นักเตะทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ในศึกฟุตบอลโลกรอ
วันนี้ (25 ธ.ค.66) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ กล่าวถึงผลสำรวจความคิดเห็นของสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง การสำรวจคะแนนนิยมทางการเมืองที่มีคะแนน ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สูงกว่า นายเศรษฐา ทวีสิน และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ว่า ไม่แปลกอะไร เพราะการสำรวจของโพลต้องดูว่าขึ้นอยู่กับสถาบันฯใดบ้างและกลุ่มตัวอย่างมีจำนวนเท่าไหร่ หรือส่วนใดบ้าง ส่วนกรณีที่มีลักษณะคนเมืองหรือคนกลุ่มหนุ่มสาว นายภูมิธรรม ยอมรับว่า เสียงความนิยมของนายพิธา ยังมีความนิยมอยู่ แต่จริง ๆ ต้องอยู่ที่การทำงาน ซึ่งรัฐบาลนี้เข้ามาในช่วงแรกก็ยังยุ่งอยู่ในช่วงการทำงานมาก แต่หลังการทำงานก็ต้องดูกันว่าประชาชนจะรู้สึกหรือยอมรับอย่างไร พร้อมย้ำว่า ความนิยมไม่เท่ากับผลงานรับใช้ประชาชน อ่านข่าว : "พิธา" เข้าไต่สวนคดี 112 ยันไม่มีเจตนาล้มล้างการปกครอง เมื่อถามว่าระยะเวลา 3 เดือน เร็วเกินไปสำหรับการสำรวจความคิดเห็นประชาชนหรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่า 3 เดือนเร็วไปนิดนึง เหมือนกับที่จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เพราะรัฐบาลเพิ่งเข้ามาทำงาน พร้อมขอให้เข้าใจว่ารัฐบาลเข้ามาทำงานก็เจอแต่ปัญหาเยอะ ซึ่งเป็นปัญหาที่สะสมมา 9-10 ปี จากการรัฐประหารของประเทศ ซึ่งการดำเนินการขณะนี้ถือเป็นการปูรากฐาน โดยสิ่งที่สำคัญขณะนี้คือรัฐบาลไม่มีเงินลงทุนเกี่ยวกับงบในการดำเนินงาน โดยส่วนใหญ่เป็นงบประมาณประจำ เพราะงบประมาณเป็นช่วงรอยต่อ ขณะนี้งบประมาณปี 67 กำลังจะเข้าต้นปีที่จะถึงนี้ เพราะฉะนั้นขณะนี้จึงไม่มีเงินทำงาน แต่เงินที่จะสามารถจะมาดำเนินการได้ก็จะเป็นช่วง พ.ค.67 เป็นต้นไป พร้อมย้ำว่าที่ผ่านมาเราใช้เงินในการบริหาร โดยนำธนาคารของรัฐเข้ามาช่วยบ้างหรือเป็นเงินที่หยิบตรงนั้นมาโปะตรงนี้ ฉะนั้นการทำงานในวันนี้คือการสร้างรากฐาน และเป็นการเตรียมพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาในอนาคตต่อไป นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ พร้อมยืนยันว่าปี 67 จะเป็นปีที่ทุกคนจะได้เห็นว่าฝีมือการทำงาน พร้อมมองว่าตั้งแต่ปี 67 คนก็จะเริ่มเข้าใจแล้วว่า ในช่วง 3 เดือนที่รัฐบาลดำเนินการมาได้ปูรากฐานอะไรไว้บ้าง โดยในส่วนของตนที่กำกับดูแลกระทรวงพาณิชย์ ก็ทำนโยบายเรื่องลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ ซึ่งไม่มีการใช้เงินรัฐ เพราะมีการดึงบริษัทต่าง ๆ เข้ามาช่วยกัน เพื่อแก้ไขปัญหาของประชาชน และบริษัทหลายบริษัทก็ยอมขาดทุนเพราะเป็นการช่วยเหลือประชาชน เพราะถ้าประชาชนแข็งแรงก็จะเอื้อในเรื่องเศรษฐกิจได้ดี และทำให้ระบบขับเคลื่อนไปได้ และจะเชื่อมโยงไปถึงการขยับขึ้นทางด้านเศรษฐกิจ อ่านข่าว : ศาลรธน. ไต่สวน "พิธา" แก้ไข ม.112 ล้มล้างการปกครอง ส่วนมั่นใจว่าผลงานรัฐบาลจะเป็นตัวดึงคะแนนความนิยมกลับคืนมาได้ใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่า ตนมองว่าเรื่องผลงานเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด ในการดึงความรู้สึกของประชาชน เพราะถ้าเห็นว่าถ้าเห็นว่ารัฐบาลตั้งใจจริงและสามารถแก้ไขปัญหาได้ ประชาชนก็จะพึงพอใจ แต่สิ่งสำคัญเหนือสิ่งอื่นใดคือเรามีความสามารถเหนือกว่าพรรคการเมืองอื่น คือการลงไปพบปะกับประชาชนโดยตรง เพราะสมาชิกพรรคเพื่อไทยลงพื้นที่ ก็ได้รับเสียงสนับสนุนแนบแน่นและแข็งแรง เราก็ยังเชื่อมั่นในตรงนี้ แต่อาจจะต้องปรับปรุงการสื่อสารให้กับประชาชนและเยาวชนให้มากขึ้น โดยการใช้ โซเชียลมีเดีย อ่านข่าว : “รัฐบาลเศรษฐา” เปิดผลงาน 3 เดือน “ลดรายจ่าย-เพิ่มรายได้” รอดูดอกผลปีหน้า พร้อมยอมรับว่าพรรคเพื่อไทย ยังไม่แข็งแรงในเรื่องของการใช้โซเชียลมีเดีย ทำให้การสื่อสารยังคงมีข้อจำกัด แต่เชื่อว่าหลังจากที่มีการปรับปรุงพรรคใหม่และมีหัวหน้าพรรคคนใหม่ คือ น.ส.แพทองธาร รวมถึง มีกรรมการบริหารพรรครุ่นใหม่ ก็เชื่อว่าการปรับตัวต่างๆจะทำให้เข้าถึงทุกกลุ่มทุกวิชาชีพ และเยาวชนกลุ่มต่างๆได้มากขึ้น ความเชื่อว่าการสื่อสารในเรื่องของวิสัยทัศน์ผลงาน สื่อสารประชาชนมากขึ้น ก็จะเป็นผลทำให้สิ่งต่างๆได้พัฒนาดีขึ้น นายภูมิธรรมยังกล่าวย้ำว่าขณะนี้ยังเร็วเกินไป เพราะรัฐบาลplaytech asia reviewมีเวลา 4 ปีแต่หลังจาก 4 ปีประชาชนก็จะเป็นผู้ตัดสิน ว่าใครพูดใครทำและสร้างประโยชน์ให้ประชาชนได้ดีที่สุด ข่าวที่เกี่ยวข้อง "ชัยธวัช" เตรียมซักฟอกงบฯ ปี 67 โอดมีเวลาอ่านเอกสารแค่ 7 วัน "เศรษฐา" ยะก๋านเมืองน่าน แก้หนี้นอกระบบพรุ่งนี้
วันนี้ (1 ส.ค.2567) ความคืบหน้ากรณีการแก้ไขปัญหาปลาหมอคางดำจำนวนมากในแหล่งน้ำหลายพื้นที่ โดยหนึ่งในแ