วันนี้ (14 ต.ค.2564) สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า

"ออฟฟิศซินโดรม" เรื่องใกล้ตัวคนวัยทำงาน ที่สร้างความรำคาญให้ร่างกาย ตึงไปทั่วร่างไม่ว่าจะเป็น อาการปวดหลัง ปวดศีรษะเรื้อรัง นิ้วล๊อก สาเหตุสส่วนหนึ่งมาจากพฤติกรรมหรือไลฟ์สไตล์การทำงานของแต่ละคน ฉะนั้น
เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.2567 สื่ออินโดนีเซีย kaltim.idntimes รายงานข่าวที่เป็นอุทธาหรณ์กรณีหญิงอายุ 22 ปีตกลงมาจากชั้น 3 ของ K-Gym Pontianak หลังจากตกจากลู่วิ่งชัน 3 ในฟิตเนสดังกล่าว เหตุการณ์ดังกล่าวเกิด
"ออฟฟิศซินโดรม" เรื่องใกล้ตัวคนวัยทำงาน ที่สร้างความรำคาญให้ร่างกาย ตึงไปทั่วร่างไม่ว่าจะเป็น อาการปวดหลัง ปวดศีรษะเรื้อรัง นิ้วล๊อก สาเหตุสส่วนหนึ่งมาจากพฤติกรรมหรือไลฟ์สไตล์การทำงานของแต่ละคน ฉะนั้นหากไม่อยากเจออาการออฟฟิศซินโดรมควรต้องปรับพฤติกรรมกันก่อน มีการเปิดเผยจาก นพ.สมฤกษ์ จึงสมาน อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพufabet8x เครดิต ฟรีทย์ทางเลือก ว่า ในปี 2567 มีประชาชนเข้ารับบริการรักษาโรคออฟฟิศซินโดรม ปวดกล้ามเนื้อ คอ บ่า ไหล่ และหลัง ในสถานบริการการแพทย์แผนไทยของรัฐทั่วประเทศ จำนวน 483,850 คน (ณ วันที่ 23 ม.ค.2568) ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนถึงพฤติกรรมการทำงานที่อาจเป็นสาเหตุของ "ออฟฟิศซินโดรม" หรือกลุ่มอาการปวดเมื่อยเรื้อรังที่พบในคนวัยทำงาน มีสาเหตุมาจากการทำงานในท่าเดิมซ้ำ ๆ เป็นเวลานาน โดยเฉพาะผู้ที่นั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ ซึ่งอาจนำไปสู่อาการที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว สำหรับวิธีสังเกต 3 สัญญาณเตือนโรคออฟฟิศซินโดรมที่พบบ่อย มีดังนี้ ในการการรักษาแบบด้วยศาสตร์แพทย์แผนไทย และ แผนจีน สามารถดูแลอาการได้ วิธีการป้องกันออฟฟิศซินโดรม ทำได้เริ่มต้นจาก การจัดสภาพแวดล้อมในการทำงานให้ถูกวิธี จัดท่านั่งให้ถูก ควรปรับเปลี่ยนอิริยาบถบ่อยๆ ไม่นั่งในท่าเดิมนานๆ และยืดเหยียดกล้ามเนื้อ ด้วย ท่าฤๅษี ดัดตน : ช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิตได้ ส่วนศาสตร์การแพทย์แผนจีน การฝังเข็ม : ลดอาการปวดตึงของกล้ามเนื้อ เช่น คอ บ่า ไหล่ และหลัง ครอบแก้ว : เพิ่มการไหลเวียนโลหิต ลดอักเสบได้ โรคของคนทำงาน หรือที่มักเรียกว่า "โรคจากการทำงาน" เป็นกลุ่มอาการหรือโรคที่เกิดจากลักษณะงาน การทำงานในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม และพฤติกรรมที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของคนทำงาน โดยเฉพาะคนที่ทำงานในสำนักงาน โรงงาน หรืออาชีพที่มีความเครียดสูง 1. จัดท่าทางการทำงานที่เหมาะสม - ปรับระดับโต๊ะและเก้าอี้ให้เหมาะกับสรีระ ใช้คอมพิวเตอร์ในระดับสายตา 2. พักเบรกระหว่างวัน - ลุกขึ้นยืดเส้นยืดสายทุก 30-60 นาที เดินเปลี่ยนอิริยาบถเพื่อผ่อนคลาย 3. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ - การออกกำลังกายช่วยลดความเสี่ยงของโรคออฟฟิศซินโดรมและโรคเรื้อรังอื่น ๆ 4. จัดการความเครียด ใช้เทคนิคการผ่อนคลาย เช่น การทำสมาธิ การหายใจลึก ๆ แบ่งเวลาทำงานและพักผ่อนให้สมดุล 5. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงอาหารฟาสต์ฟู้ดและอาหารที่มีไขมันสูง ดื่มน้ำให้เพียงพอ 6. ตรวจสุขภาพประจำปี ตรวจเช็กความเสี่ยงของโรคต่าง ๆ เพื่อการป้องกันและรักษาได้ทันเวลา อ่านข่าว : เมื่อโลกของเกม มาบรรจบกับโลกจริง บนแอปฯ "Jagat - Pokemon Go" "ทรัมป์" ถอนตัวข้อตกลงปารีส เป้าหมายกู้อุณหภูมิโลก 1.5 องศาฯ สะดุด? ฝันที่เป็นจริง "พอร์ช-อาม" คู่รักคนดังจูงมือจดทะเบียนสมรส
วันนี้ ( 4 ก.ย.64) ศูนย์ข้อมูลCOVID-19 แจ้งพบผู้ติดเชื้อ COVID-19 รวม 15,942 คน ติดเชื้อใหม่ 15,665
ใบมรณบัตรที่แจ้งสาเหตุการเสียชีวิตของ "บุ้ง ทะลุวัง" นักกิจกรรม วัย 29 ปี ผู้ต้องหาในคดีความผิดตามปร
รายงานฉบับที่ 6 ของคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ( Intergovernmental Pan
"ออฟฟิศซินโดรม" เรื่องใกล้ตัวคนวัยทำงาน ที่สร้างความรำคาญให้ร่างกาย ตึงไปทั่วร่างไม่ว่าจะเป็น อาการปวดหลัง ปวดศีรษะเรื้อรัง นิ้วล๊อก สาเหตุสส่วนหนึ่งมาจากพฤติกรรมหรือไลฟ์สไตล์การทำงานของแต่ละคน ฉะนั้นหากไม่อยากเจออาการออฟฟิศซินโดรมควรต้องปรับพฤติกรรมกันก่อน มีการเปิดเผยจาก นพ.สมฤกษ์ จึงสมาน อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพufabet8x เครดิต ฟรีทย์ทางเลือก ว่า ในปี 2567 มีประชาชนเข้ารับบริการรักษาโรคออฟฟิศซินโดรม ปวดกล้ามเนื้อ คอ บ่า ไหล่ และหลัง ในสถานบริการการแพทย์แผนไทยของรัฐทั่วประเทศ จำนวน 483,850 คน (ณ วันที่ 23 ม.ค.2568) ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนถึงพฤติกรรมการทำงานที่อาจเป็นสาเหตุของ "ออฟฟิศซินโดรม" หรือกลุ่มอาการปวดเมื่อยเรื้อรังที่พบในคนวัยทำงาน มีสาเหตุมาจากการทำงานในท่าเดิมซ้ำ ๆ เป็นเวลานาน โดยเฉพาะผู้ที่นั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ ซึ่งอาจนำไปสู่อาการที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว สำหรับวิธีสังเกต 3 สัญญาณเตือนโรคออฟฟิศซินโดรมที่พบบ่อย มีดังนี้ ในการการรักษาแบบด้วยศาสตร์แพทย์แผนไทย และ แผนจีน สามารถดูแลอาการได้ วิธีการป้องกันออฟฟิศซินโดรม ทำได้เริ่มต้นจาก การจัดสภาพแวดล้อมในการทำงานให้ถูกวิธี จัดท่านั่งให้ถูก ควรปรับเปลี่ยนอิริยาบถบ่อยๆ ไม่นั่งในท่าเดิมนานๆ และยืดเหยียดกล้ามเนื้อ ด้วย ท่าฤๅษี ดัดตน : ช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิตได้ ส่วนศาสตร์การแพทย์แผนจีน การฝังเข็ม : ลดอาการปวดตึงของกล้ามเนื้อ เช่น คอ บ่า ไหล่ และหลัง ครอบแก้ว : เพิ่มการไหลเวียนโลหิต ลดอักเสบได้ โรคของคนทำงาน หรือที่มักเรียกว่า "โรคจากการทำงาน" เป็นกลุ่มอาการหรือโรคที่เกิดจากลักษณะงาน การทำงานในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม และพฤติกรรมที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของคนทำงาน โดยเฉพาะคนที่ทำงานในสำนักงาน โรงงาน หรืออาชีพที่มีความเครียดสูง 1. จัดท่าทางการทำงานที่เหมาะสม - ปรับระดับโต๊ะและเก้าอี้ให้เหมาะกับสรีระ ใช้คอมพิวเตอร์ในระดับสายตา 2. พักเบรกระหว่างวัน - ลุกขึ้นยืดเส้นยืดสายทุก 30-60 นาที เดินเปลี่ยนอิริยาบถเพื่อผ่อนคลาย 3. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ - การออกกำลังกายช่วยลดความเสี่ยงของโรคออฟฟิศซินโดรมและโรคเรื้อรังอื่น ๆ 4. จัดการความเครียด ใช้เทคนิคการผ่อนคลาย เช่น การทำสมาธิ การหายใจลึก ๆ แบ่งเวลาทำงานและพักผ่อนให้สมดุล 5. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงอาหารฟาสต์ฟู้ดและอาหารที่มีไขมันสูง ดื่มน้ำให้เพียงพอ 6. ตรวจสุขภาพประจำปี ตรวจเช็กความเสี่ยงของโรคต่าง ๆ เพื่อการป้องกันและรักษาได้ทันเวลา อ่านข่าว : เมื่อโลกของเกม มาบรรจบกับโลกจริง บนแอปฯ "Jagat - Pokemon Go" "ทรัมป์" ถอนตัวข้อตกลงปารีส เป้าหมายกู้อุณหภูมิโลก 1.5 องศาฯ สะดุด? ฝันที่เป็นจริง "พอร์ช-อาม" คู่รักคนดังจูงมือจดทะเบียนสมรส
วันนี้ (28 พ.ย.2564) นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ "ทนายตั้ม" โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีการถอนตัวจากการเป็นทน