8 bit slot
เมื่อวันที่ 17 มี.ค.2565 ลูกค้าผู้ถือกรมธรรม์โควิด
฿10370
บาท0
ห้องนอน
94
ห้องน้ำ
458
ตร.ม.
฿ 6213
/ ตารางเมตร
8 bit slot
สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) จะเปิดจำหน่ายพันธ
UID: 24954
วันนี้ (16 พ.ค.2565) ที่องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย หรือ ไทยพีบีเอส เวลา 16.30
หลังจาก "โจชัว แอรอน เฮิร์น" และ แม่ของเขา ชาวเมืองราวน์ร็อค รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา ติดตามสื่อท้องถ
การจ้างงานแย่เกินคาด ศก.สหรัฐฯชะลอตัว ถ่วงตลาดการเงินโลกในอีก 12-15 เดือนข้างหน้า การจ้างงานแย่เกินคาด ศก.สหรัฐฯชะลอตัว ถ่วงตลาดการเงินโลกในอีก 12-15 เดือนข้างหน้า หากกล่าวถึงเหตุการณ์ในตลาดโลกที่กำลังอยู่ในความสนใจในระยะนี้ คงหนีไม่พ้นปัญหาเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่เผชิญหลายสัญญาณลบและปัจจัยถ่วงพร้อมๆ กัน ทั้งนี้ มุมมองเชิงลบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ เริ่มชัดเจนขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายไตรมาส 2/2554 จากหลายปัจจัย กล่าวคือ ประการแรก การที่เครื่องชี้เศรษฐกิจสำคัญหลายๆ ด้านออกมาย่ำแย่กว่าความคาดหมาย อาทิ การร่วงลงของความเชื่อมั่นผู้บริโภค การทบทวนจีดีพี ไตรมาส 2/2554 และล่าสุด ได้แก่ ข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Non-farm payrolls) เดือนสิงหาคม 2554 ที่ไม่มีการเพิ่มขึ้นของตำแหน่งงานจากเดือนก่อนหน้า ซึ่งทำให้ตลาดตั้งคำถามถึงเสถียรภาพการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ประการที่สอง ปัญหาภาคการคลังของสหรัฐฯ ที่ทวีความรุนแรงขึ้น หลังจากการใช้หลากมาตรการทางการคลังเพื่อฟื้นเศรษฐกิจจากภาวะถดถอยในช่วงปี 2551 (2008) ซึ่งส่งผลให้ระดับหนี้สาธารณะของสหรัฐฯ พุ่งชนเพดานการก่อหนี้ตามกฎหมายในเดือนพฤษภาคม 2554 ท่ามกลางภาพความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างสองพรรคใหญ่ที่ยังเป็นหนึ่งในตัวแปรหลักที่สร้างความไม่แน่นอนให้กับเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในระยะข้างหน้า จนนำไปสู่นำไปสู่ปัจจัยลบประการที่สาม คือ การที่สหรัฐฯ ถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ (โดย S&P’s) จากระดับ AAA สู่ระดับ AA-Plus (AA+) แม้ว่าเมื่อพิจารณาจากโครงสร้างพื้นฐานเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในปี 2554 เปรียบเทียบกับช่วงวิกฤตเศรษฐกิจปี 2551 แล้ว จะเห็นถึงความเข้มแข็งที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะจากฝั่งธุรกิจและสถาบันการเงินเอกชนที่เคยเป็นต้นตอของวิกฤตรอบก่อนหน้า แต่ความอ่อนแอในตลาดแรงงาน รวมถึงสถานการณ์ด้านการคลังที่ถดถอยลงมาก ทำให้รัฐบาลสหรัฐฯ ขาดกระสุนในการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ท่ามกลางภาวะที่สหรัฐฯ คงไม่สามารถพึ่งพิงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกได้มากเท่าเดิม หลังจากที่ยุโรปและจีนต่างก็เห็นสัญญาณการชะลอตัวทางเศรษฐกิจเช่นกัน ท้ายที่สุดแล้ว ก็อาจทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ เติบโตต่ำกว่าระดับศักยภาพต่อเนื่องไปอีกไม่น้อยกว่า 1 ปีข้างหน้า แม้ว่าอาจไม่ได้ย่ำแย่ลงจนถึงขั้นเข้าสู่ภาวะถดถอยรอบสองก็ตาม นอกจากนี้ ก็ทำให้มีความเป็นไปได้ไม่น้อยกว่า 4 ใน 5 ที่เฟดอาจต้องออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ภายใต้มุมมองดังกล่าว อาจทำให้สินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยสูงและชดเชยความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ อาทิ ทองคำ มีแรงหนุนต่อเนื่องไปในระยะปานกลาง เช่นเดียวกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ อาจทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ ขณะที่ ตลาดหุ้นอาจปรับขึ้นได้ในระยะสั้น รับกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่น่าจะได้รับแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่อาจออกมาเพิ่มเติม เพื่อหาจังหวะการทำกำไรจากทั้งราคาทองคำและพันธบัตรสหรัฐฯ ที่ปรับขึ้นไปมากแล้ว คาดว่าตลาดคงจะติดตามเหตุการณ์สำคัญทางเศรษฐกิจของทั้งสหรัฐฯและประเทศแกนหลักของโลก บทสรุปจากการประชุมด้านงบประมาณของสหรัฐฯ (ท8 bit slotี่จะมีขึ้นภายในช่วง 3-4 เดือนข้างหน้า) การเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ในเดือนพฤศจิกายน 2555 รวมถึงความเคลื่อนไหว มุมมองของสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ อย่างใกล้ชิด อันย่อมหมายถึงความผันผวนของสินทรัพย์ต่างๆ ที่น่าจะยังอยู่ในระดับสูงอย่างยากจะหลีกเลี่ยง ขณะที่ หากเหตุการณ์พลิกผันไปจากที่คาดการณ์ไว้ข้างต้น ก็คงส่งผลกระทบต่อความเคลื่อนไหวของตลาดการเงินโลกและสินทรัพย์ทางการเงินต่างๆ ให้แตกต่างไปจากทิศทางที่คาดไว้ข้างต้นได้เช่นกัน หากกล่าวถึงเหตุการณ์ในตลาดโลกที่กำลังอยู่ในความสนใจในระยะนี้ คงหนีไม่พ้นปัญหาเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่เผชิญหลายสัญญาณลบและปัจจัยถ่วงพร้อมๆ กัน ทั้งนี้ มุมมองเชิงลบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ เริ่มชัดเจนขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายไตรมาส 2/2554 จากหลายปัจจัย กล่าวคือ ประการแรก การที่เครื่องชี้เศรษฐกิจสำคัญหลายๆ ด้านออกมาย่ำแย่กว่าความคาดหมาย อาทิ การร่วงลงของความเชื่อมั่นผู้บริโภค การทบทวนจีดีพี ไตรมาส 2/2554 และล่าสุด ได้แก่ ข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Non-farm payrolls) เดือนสิงหาคม 2554 ที่ไม่มีการเพิ่มขึ้นของตำแหน่งงานจากเดือนก่อนหน้า ซึ่งทำให้ตลาดตั้งคำถามถึงเสถียรภาพการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ประการที่สอง ปัญหาภาคการคลังของสหรัฐฯ ที่ทวีความรุนแรงขึ้น หลังจากการใช้หลากมาตรการทางการคลังเพื่อฟื้นเศรษฐกิจจากภาวะถดถอยในช่วงปี 2551 (2008) ซึ่งส่งผลให้ระดับหนี้สาธารณะของสหรัฐฯ พุ่งชนเพดานการก่อหนี้ตามกฎหมายในเดือนพฤษภาคม 2554 ท่ามกลางภาพความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างสองพรรคใหญ่ที่ยังเป็นหนึ่งในตัวแปรหลักที่สร้างความไม่แน่นอนให้กับเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในระยะข้างหน้า จนนำไปสู่นำไปสู่ปัจจัยลบประการที่สาม คือ การที่สหรัฐฯ ถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ (โดย S&P’s) จากระดับ AAA สู่ระดับ AA-Plus (AA+) แม้ว่าเมื่อพิจารณาจากโครงสร้างพื้นฐานเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในปี 2554 เปรียบเทียบกับช่วงวิกฤตเศรษฐกิจปี 2551 แล้ว จะเห็นถึงความเข้มแข็งที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะจากฝั่งธุรกิจและสถาบันการเงินเอกชนที่เคยเป็นต้นตอของวิกฤตรอบก่อนหน้า แต่ความอ่อนแอในตลาดแรงงาน รวมถึงสถานการณ์ด้านการคลังที่ถดถอยลงมาก ทำให้รัฐบาลสหรัฐฯ ขาดกระสุนในการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ท่ามกลางภาวะที่สหรัฐฯ คงไม่สามารถพึ่งพิงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกได้มากเท่าเดิม หลังจากที่ยุโรปและจีนต่างก็เห็นสัญญาณการชะลอตัวทางเศรษฐกิจเช่นกัน ท้ายที่สุดแล้ว ก็อาจทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ เติบโตต่ำกว่าระดับศักยภาพต่อเนื่องไปอีกไม่น้อยกว่า 1 ปีข้างหน้า แม้ว่าอาจไม่ได้ย่ำแย่ลงจนถึงขั้นเข้าสู่ภาวะถดถอยรอบสองก็ตาม นอกจากนี้ ก็ทำให้มีความเป็นไปได้ไม่น้อยกว่า 4 ใน 5 ที่เฟดอาจต้องออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ภายใต้มุมมองดังกล่าว อาจทำให้สินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยสูงและชดเชยความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ อาทิ ทองคำ มีแรงหนุนต่อเนื่องไปในระยะปานกลาง เช่นเดียวกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ อาจทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ ขณะที่ ตลาดหุ้นอาจปรับขึ้นได้ในระยะสั้น รับกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่น่าจะได้รับแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่อาจออกมาเพิ่มเติม เพื่อหาจังหวะการทำกำไรจากทั้งราคาทองคำและพันธบัตรสหรัฐฯ ที่ปรับขึ้นไปมากแล้ว คาดว่าตลาดคงจะติดตามเหตุการณ์สำคัญทางเศรษฐกิจของทั้งสหรัฐฯและประเทศแกนหลักของโลก บทสรุปจากการประชุมด้านงบประมาณของสหรัฐฯ (ที่จะมีขึ้นภายในช่วง 3-4 เดือนข้างหน้า) การเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ในเดือนพฤศจิกายน 2555 รวมถึงความเคลื่อนไหว มุมมองของสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ อย่างใกล้ชิด อันย่อมหมายถึงความผันผวนของสินทรัพย์ต่างๆ ที่น่าจะยังอยู่ในระดับสูงอย่างยากจะหลีกเลี่ยง ขณะที่ หากเหตุการณ์พลิกผันไปจากที่คาดการณ์ไว้ข้างต้น ก็คงส่งผลกระทบต่อความเคลื่อนไหวของตลาดการเงินโลกและสินทรัพย์ทางการเงินต่างๆ ให้แตกต่างไปจากทิศทางที่คาดไว้ข้างต้นได้เช่นกัน
การจ้างงานแย่เกินคาด ศก.สหรัฐฯชะลอตัว ถ่วงตลาดการเงินโลกในอีก 12-15 เดือนข้างหน้า การจ้างงานแย่เกินค
วันนี้ (16 พ.ค.2565) ที่องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย หรือ ไทยพีบีเอส เวลา 16.30
หลังจาก "โจชัว แอรอน เฮิร์น" และ แม่ของเขา ชาวเมืองราวน์ร็อค รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา ติดตามสื่อท้องถ
การจ้างงานแย่เกินคาด ศก.สหรัฐฯชะลอตัว ถ่วงตลาดการเงินโลกในอีก 12-15 เดือนข้างหน้า การจ้างงานแย่เกินคาด ศก.สหรัฐฯชะลอตัว ถ่วงตลาดการเงินโลกในอีก 12-15 เดือนข้างหน้า หากกล่าวถึงเหตุการณ์ในตลาดโลกที่กำลังอยู่ในความสนใจในระยะนี้ คงหนีไม่พ้นปัญหาเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่เผชิญหลายสัญญาณลบและปัจจัยถ่วงพร้อมๆ กัน ทั้งนี้ มุมมองเชิงลบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ เริ่มชัดเจนขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายไตรมาส 2/2554 จากหลายปัจจัย กล่าวคือ ประการแรก การที่เครื่องชี้เศรษฐกิจสำคัญหลายๆ ด้านออกมาย่ำแย่กว่าความคาดหมาย อาทิ การร่วงลงของความเชื่อมั่นผู้บริโภค การทบทวนจีดีพี ไตรมาส 2/2554 และล่าสุด ได้แก่ ข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Non-farm payrolls) เดือนสิงหาคม 2554 ที่ไม่มีการเพิ่มขึ้นของตำแหน่งงานจากเดือนก่อนหน้า ซึ่งทำให้ตลาดตั้งคำถามถึงเสถียรภาพการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ประการที่สอง ปัญหาภาคการคลังของสหรัฐฯ ที่ทวีความรุนแรงขึ้น หลังจากการใช้หลากมาตรการทางการคลังเพื่อฟื้นเศรษฐกิจจากภาวะถดถอยในช่วงปี 2551 (2008) ซึ่งส่งผลให้ระดับหนี้สาธารณะของสหรัฐฯ พุ่งชนเพดานการก่อหนี้ตามกฎหมายในเดือนพฤษภาคม 2554 ท่ามกลางภาพความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างสองพรรคใหญ่ที่ยังเป็นหนึ่งในตัวแปรหลักที่สร้างความไม่แน่นอนให้กับเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในระยะข้างหน้า จนนำไปสู่นำไปสู่ปัจจัยลบประการที่สาม คือ การที่สหรัฐฯ ถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ (โดย S&P’s) จากระดับ AAA สู่ระดับ AA-Plus (AA+) แม้ว่าเมื่อพิจารณาจากโครงสร้างพื้นฐานเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในปี 2554 เปรียบเทียบกับช่วงวิกฤตเศรษฐกิจปี 2551 แล้ว จะเห็นถึงความเข้มแข็งที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะจากฝั่งธุรกิจและสถาบันการเงินเอกชนที่เคยเป็นต้นตอของวิกฤตรอบก่อนหน้า แต่ความอ่อนแอในตลาดแรงงาน รวมถึงสถานการณ์ด้านการคลังที่ถดถอยลงมาก ทำให้รัฐบาลสหรัฐฯ ขาดกระสุนในการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ท่ามกลางภาวะที่สหรัฐฯ คงไม่สามารถพึ่งพิงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกได้มากเท่าเดิม หลังจากที่ยุโรปและจีนต่างก็เห็นสัญญาณการชะลอตัวทางเศรษฐกิจเช่นกัน ท้ายที่สุดแล้ว ก็อาจทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ เติบโตต่ำกว่าระดับศักยภาพต่อเนื่องไปอีกไม่น้อยกว่า 1 ปีข้างหน้า แม้ว่าอาจไม่ได้ย่ำแย่ลงจนถึงขั้นเข้าสู่ภาวะถดถอยรอบสองก็ตาม นอกจากนี้ ก็ทำให้มีความเป็นไปได้ไม่น้อยกว่า 4 ใน 5 ที่เฟดอาจต้องออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ภายใต้มุมมองดังกล่าว อาจทำให้สินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยสูงและชดเชยความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ อาทิ ทองคำ มีแรงหนุนต่อเนื่องไปในระยะปานกลาง เช่นเดียวกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ อาจทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ ขณะที่ ตลาดหุ้นอาจปรับขึ้นได้ในระยะสั้น รับกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่น่าจะได้รับแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่อาจออกมาเพิ่มเติม เพื่อหาจังหวะการทำกำไรจากทั้งราคาทองคำและพันธบัตรสหรัฐฯ ที่ปรับขึ้นไปมากแล้ว คาดว่าตลาดคงจะติดตามเหตุการณ์สำคัญทางเศรษฐกิจของทั้งสหรัฐฯและประเทศแกนหลักของโลก บทสรุปจากการประชุมด้านงบประมาณของสหรัฐฯ (ท8 bit slotี่จะมีขึ้นภายในช่วง 3-4 เดือนข้างหน้า) การเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ในเดือนพฤศจิกายน 2555 รวมถึงความเคลื่อนไหว มุมมองของสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ อย่างใกล้ชิด อันย่อมหมายถึงความผันผวนของสินทรัพย์ต่างๆ ที่น่าจะยังอยู่ในระดับสูงอย่างยากจะหลีกเลี่ยง ขณะที่ หากเหตุการณ์พลิกผันไปจากที่คาดการณ์ไว้ข้างต้น ก็คงส่งผลกระทบต่อความเคลื่อนไหวของตลาดการเงินโลกและสินทรัพย์ทางการเงินต่างๆ ให้แตกต่างไปจากทิศทางที่คาดไว้ข้างต้นได้เช่นกัน หากกล่าวถึงเหตุการณ์ในตลาดโลกที่กำลังอยู่ในความสนใจในระยะนี้ คงหนีไม่พ้นปัญหาเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่เผชิญหลายสัญญาณลบและปัจจัยถ่วงพร้อมๆ กัน ทั้งนี้ มุมมองเชิงลบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ เริ่มชัดเจนขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายไตรมาส 2/2554 จากหลายปัจจัย กล่าวคือ ประการแรก การที่เครื่องชี้เศรษฐกิจสำคัญหลายๆ ด้านออกมาย่ำแย่กว่าความคาดหมาย อาทิ การร่วงลงของความเชื่อมั่นผู้บริโภค การทบทวนจีดีพี ไตรมาส 2/2554 และล่าสุด ได้แก่ ข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Non-farm payrolls) เดือนสิงหาคม 2554 ที่ไม่มีการเพิ่มขึ้นของตำแหน่งงานจากเดือนก่อนหน้า ซึ่งทำให้ตลาดตั้งคำถามถึงเสถียรภาพการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ประการที่สอง ปัญหาภาคการคลังของสหรัฐฯ ที่ทวีความรุนแรงขึ้น หลังจากการใช้หลากมาตรการทางการคลังเพื่อฟื้นเศรษฐกิจจากภาวะถดถอยในช่วงปี 2551 (2008) ซึ่งส่งผลให้ระดับหนี้สาธารณะของสหรัฐฯ พุ่งชนเพดานการก่อหนี้ตามกฎหมายในเดือนพฤษภาคม 2554 ท่ามกลางภาพความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างสองพรรคใหญ่ที่ยังเป็นหนึ่งในตัวแปรหลักที่สร้างความไม่แน่นอนให้กับเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในระยะข้างหน้า จนนำไปสู่นำไปสู่ปัจจัยลบประการที่สาม คือ การที่สหรัฐฯ ถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ (โดย S&P’s) จากระดับ AAA สู่ระดับ AA-Plus (AA+) แม้ว่าเมื่อพิจารณาจากโครงสร้างพื้นฐานเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในปี 2554 เปรียบเทียบกับช่วงวิกฤตเศรษฐกิจปี 2551 แล้ว จะเห็นถึงความเข้มแข็งที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะจากฝั่งธุรกิจและสถาบันการเงินเอกชนที่เคยเป็นต้นตอของวิกฤตรอบก่อนหน้า แต่ความอ่อนแอในตลาดแรงงาน รวมถึงสถานการณ์ด้านการคลังที่ถดถอยลงมาก ทำให้รัฐบาลสหรัฐฯ ขาดกระสุนในการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ท่ามกลางภาวะที่สหรัฐฯ คงไม่สามารถพึ่งพิงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกได้มากเท่าเดิม หลังจากที่ยุโรปและจีนต่างก็เห็นสัญญาณการชะลอตัวทางเศรษฐกิจเช่นกัน ท้ายที่สุดแล้ว ก็อาจทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ เติบโตต่ำกว่าระดับศักยภาพต่อเนื่องไปอีกไม่น้อยกว่า 1 ปีข้างหน้า แม้ว่าอาจไม่ได้ย่ำแย่ลงจนถึงขั้นเข้าสู่ภาวะถดถอยรอบสองก็ตาม นอกจากนี้ ก็ทำให้มีความเป็นไปได้ไม่น้อยกว่า 4 ใน 5 ที่เฟดอาจต้องออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ภายใต้มุมมองดังกล่าว อาจทำให้สินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยสูงและชดเชยความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ อาทิ ทองคำ มีแรงหนุนต่อเนื่องไปในระยะปานกลาง เช่นเดียวกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ อาจทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ ขณะที่ ตลาดหุ้นอาจปรับขึ้นได้ในระยะสั้น รับกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่น่าจะได้รับแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่อาจออกมาเพิ่มเติม เพื่อหาจังหวะการทำกำไรจากทั้งราคาทองคำและพันธบัตรสหรัฐฯ ที่ปรับขึ้นไปมากแล้ว คาดว่าตลาดคงจะติดตามเหตุการณ์สำคัญทางเศรษฐกิจของทั้งสหรัฐฯและประเทศแกนหลักของโลก บทสรุปจากการประชุมด้านงบประมาณของสหรัฐฯ (ที่จะมีขึ้นภายในช่วง 3-4 เดือนข้างหน้า) การเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ในเดือนพฤศจิกายน 2555 รวมถึงความเคลื่อนไหว มุมมองของสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ อย่างใกล้ชิด อันย่อมหมายถึงความผันผวนของสินทรัพย์ต่างๆ ที่น่าจะยังอยู่ในระดับสูงอย่างยากจะหลีกเลี่ยง ขณะที่ หากเหตุการณ์พลิกผันไปจากที่คาดการณ์ไว้ข้างต้น ก็คงส่งผลกระทบต่อความเคลื่อนไหวของตลาดการเงินโลกและสินทรัพย์ทางการเงินต่างๆ ให้แตกต่างไปจากทิศทางที่คาดไว้ข้างต้นได้เช่นกัน
การจ้างงานแย่เกินคาด ศก.สหรัฐฯชะลอตัว ถ่วงตลาดการเงินโลกในอีก 12-15 เดือนข้างหน้า การจ้างงานแย่เกินค
สิ่งอำนวยความสะดวก
การตกแต่ง
เครื่องปรับอากาศ
ชั้นบน
เตาอบ/ไมโครเวฟ
ความสะดวกโดยรอบ
กล้องวงจรปิด
เครืองปรับอากาศ
โถงรอลิฟท์ร้านอาหาร
ทางเข้าหลัก
ยอดสินเชื่อโดยประมาณ
รายละเอียดสินเชื่อ
ยอดสินเชื่อที่ต้องชำระต่อเดือนโดยประมาณ
฿ 0 / เดือน
฿ 0 เงินต้น
฿ 0 ดอกเบี้ย
ค่าใช้จ่ายที่อาจต้องมีเบื้องต้น
เงินดาวน์ทั้งหมด
฿ 0
เงินดาวน์
จำนวนสินเชื่อ ฿ 0 ในอัตรา 0% ของสินเชื่อต่อราคาบ้าน (Loan-to-value)
วันนี้ (11 ส.ค.2567) นายศรายุทธิ์ ใจหลัก เลขาธิการ

นายวีระพงศ์ มาลัย สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า ภาพรวมประมาณเศรษฐกิจเอสเอ็มอี ไตรมาส 1 ปี 2564 คาดว่าจะติดลบร้อยละ 4.8 จากเดิมที่คาดไว้ติดลบร้อย 2-2.4 เนื่องจากผลกระทบข
ดูรายละเอียดโครงการคำถามที่พบบ่อย
วันนี้ (20 มิ.ย.2565) นายสัญลักข์ ปัญวัฒนลิขิต กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เปิดเผ
Bangkok Active Forum: ฟังเสียงกรุงเทพฯ ครั้งที่ 2 ในหัวข้อ “เมืองปลอดภัย” เกิดขึ้นที่ หอศิลปวัฒนธรรม
วันนี้ (11 เม.ย.2565) น.ต.ศิธา ทิวารี ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 11 พรรคไทยสร้างไทย ถื
วันนี้ (13 พ.ค.2567) คณะกรรมการการเลือกตั้ง ประกาศกำหนดวันเลือกและวันรับสมัครรับเลือกสมาชิกวุฒิสภา ต
คะแนนเสียงท้วมท้นล้นหลามกับมติสภาที่เห็นชอบรายงานศึกษาผลกระทบการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร 253 : 0 ดูเหม
ค้นหาประกาศอื่นรอบๆ ทุ่งพญาไท
จากสิ่งที่คุณค้นหา คุณอาจจะสนใจตัวเลือกต่อไปนี้
เสือดาว รอ กิน สล็อต
ที่ เด็ด บอล 4 ตัว