UID: 41875

วันนี้ (20 ธ.ค.2565) เวลา 17.30 น. พล.ร.อ.ชลธิศ นาวานุเคราะห์ เสนาธิการทหารเรือ แถลงต่อจากผู้บัญชากา

กรณีตำรวจควบคุมตัวนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม และภรรยา พร้อมของกลางรถยนต์หรู Porsche ทะเบียน

กรณีตำรวจควบคุมตัวนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม และภรรยา พร้อมของกลางรถยนต์หรู Porsche ทะเบียน ธก 999 หลังจับกุมตัวได้ที่ จ.ฉะเชิงเทรา คดีที่นางจตุพร หรือเจ๊อ้อย แจ้งความดำเนินคดีปมเงิน 71 ล้านบาท วันนี้ (7 พ.ย.2567) นายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา โพสต์เพจเฟซบุ๊ก "ทนายลิงค์ ดู บอล โลกคลายทุกข์" ถึงกรณีดังกล่าว โดยระบุข้อความว่า อ่านข่าว จับ "ทนายตั้ม-ภรรยา" ข้อหาฉ้อโกง-ฟอกเงิน นายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา นายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา นอกจากนี้ระบุว่ามีแหล่งข่าวใกล้ชิดตำรวจ อธิบายเกี่ยวกับพยานหลักฐาน ทำให้ต้องกลับลำ เพราะมีพยานหลักฐานชัด เกี่ยวกับเรื่องสแกมเมอร์ มันไม่มีอยู่จริง มันกลายเป็นว่ากลุ่มผู้ต้องหา บางคนเป็นสแกมเมอร์ มีการมาหลอกผู้เสียหายให้จ่ายแคชเชียร์เช็ค หลังจากนั้นก็ให้คนมารับ แล้วก็ไปเบิกเงินสด สุดท้ายเอาเงินไปแบ่งกัน อ่านข่าว "ทนายตั้ม" ชิงพบ ตร.ปมฉ้อโกงเงิน 71 ล้านบาท "เจ๊อ้อย" ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เช่นเดียวกับ ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม กล่าวว่า การออกหมายจับถ้าอัตราโทษเกิน 3 ปีสามารถขอศาลออกหมายจับได้โดยไม่ต้องออกหมายเรียก ทนายรณณรงค์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาตำรวจมีพยานหลักฐาน และสอบปากคำเจ๊อ้อยมาหลายรอบ หลายวัน จึงไปยื่นต่อศาลว่าผู้ต้องหามีส่วนเกี่ยวข้องทำความผิดอย่างไร จึงออกหมายจับให้และนำตัวมากองปราบ แต่หลักกฎหมายถ้าต้องไปยื่นประกันในชั้นศาลจะได้ประกันหรือไม่ เพราะวงเงินเยอะ และขออยู่ห่างอย่างห่วง ๆ และถ้าถามว่าผมจะไป รอบนี้ไม่ประกันให้ เพราะต้องไปประกันในศาล ไม่ต้องเดือดร้อนแทนเขามีทนาย ทนายตั้ม ถูกรวบตัวและนำมาสอบปากคำที่กองปราบหลังตำรวจออกหมายจับ ทนายตั้ม ถูกรวบตัวและนำมาสอบปากคำที่กองปราบหลังตำรวจออกหมายจับ ส่วนนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม กล่าวว่า เคยพูดเอาไว้ว่าจุดจบของทนายตั้ม ต้องไปที่เรือนจำ มั่นใจแต่แรกเริ่มว่าเรื่องนี้พฤติการณ์ร้ายแรง และเป็นถึงนักกฎหมาย และเป็นความเสียหายสูง โดยเฉพาะพฤติการณ์หลอกลวงจากคนที่มีความรู้ด้านกฎหมาย ด้วยเชื่อว่าพฤติกรรมเช่นนี้เกิดขึ้นมานานแล้ว นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ส่วนน้องมี่ เชื่อว่าตำรวจจะกันไว้เป็นพยาน เนื่องจากรู้เห็นเหตุการณ์ต่าง ๆ ข้อมูลข้อเท็จจริงระหว่างทนายตั้ม กับภรรยาที่ไปหลอกลวงพี่อ้อย นอกจากนี้จะเปิดคดีที่ 5 ที่ดำเนินคดีเกี่ยวกับการฉ้อโกงค่าออกแบบบ้านส่วนตัวของสามีพี่อ้อย มูลค่า 3 ล้านบาท เป็นอีกประเด็นที่เข้าข่ายเรื่องการปลอมแปลงเอกสาร โดยยืนยันมีเอกสารหลักฐานหลังจากที่ช่อง 7 ลงไปเกาะติด นายอัจฉริยะ กล่าวว่า มูลค่าความเสียหายทั้งหมดในคดีที่เกิดขึ้น แบ่งเป็นรถเบ้น 1.5 ล้านบาท ,มี มีคดี 71 ล้านบาท และคดีออกแบบบ้าน 39 ล้านบาท ค่าออดแบบ 5.5 ล้านบาท โดยยังไม่ยืนยันตัวเลขโดยรวมทั้งหมด และมองว่าพฤติการณ์ที่ไปแถลงข่าวที่กองปราบนั้นส่งผลร้ายต่อทนายตั้มเอง เนื่องจากมีการพาดพิงถึงสื่อมวลชน อ้างว่ามีการคุกคาม อุ้มพยาน และอ้างว่าตำรวจไปคุกคาม ซึ่งการให้ความเห็นมีลักษณะแทรกแซงพาดพิง เข้าข่ายการข่มขู่พยานหากมีการปล่อยตัวอาจจะไปข่มขู่พยานและผู้เสียหาย อ่านข่าว คุมตัว "ทนายตั้ม-ภรรยา" สอบปากคำที่กองปราบ พบกระเป๋าเดินทาง-อุปกรณ์นอนในรถหรูของทนายตั้ม พบกระเป๋าเดินทาง-อุปกรณ์นอนในรถหรูของทนายตั้ม ในวันพรุ่งนี้ (8 พ.ย.) จะไปยื่นตรวจสอบที่สอบสวนกลางอีก 1 เรื่อง คือ เรื่องทีโอที กรณีการปลอมสูติบัตรและการปลอม บัตรประชาชน ที่นำไปต่ออายุราชการ จะเปิดหลักฐาน ที่มีข้าราชการกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้ให้การช่วยเหลือ และทนายตั้ม นำหลักฐานไปเปิดเผยในรายการดนัยหมาแก่ และยังอ้างว่ายังมีกรณีบุคคลที่ร้องหลายเคสถูกเรียกค่าใช้จ่ายเคสละ 1 ล้านบาท จำนวนหลายคน นายอัจฉริยะ ยังกล่าวในเชิงพาดพิงว่าทนายตั้มสามารถวิ่งเต้นให้ได้รับความช่วยเหลือจากอัยการให้หลุดคดีได้ อ่านข่าว “เจ๊อ้อย” ให้ปากคำนาน 12 ชม. มั่นใจไม่ได้ให้ 71 ล้านบาทโดยเสน่หา โอนคดี "ทนายตั้ม" ฉ้อโกงเงิน 71 ล้าน ให้สอบสวนกลาง

เมื่อวันที่ 21 ก.พ.2567 ตำรวจนอกเครื่องแบบ สภ.เมืองพิษณุโลก ตรวจยึดกางเกงลายไก่ชนเมืองพิษณุโลกละเมิด