Home
|
วิเคราะห์ บรา ก้า

วันนี้ (16 มี.ค.67) หลังทีมกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์

วิเคราะห์ บรา ก้า

วันนี้ (25 ธ.ค.66) สวท.สุไหงโก-ลก รายงานว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ประกาศปิดเส้นทางเดินรถสายใต้จากสุไหงโก-ลก - จ.ยะลา เนื่องจากรางรถไฟขาด บริเวณเส้นทางตันหยงมัส-ป่าไผ่ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส จากเหต

วันนี้ (13 มิ.ย.2567) นายปกรณ์ มหรรณพ และนายฐิติเชฏฐ์ นุชนาฏ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พร้อมด้วยนายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต.ร่วมแถลงกรณีคำร้องยุบพรรคก้าวไกล ชี้แจงเหตุต้องยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจ

ในสังคมพหุวัฒนธรรม การพูดภาษาต่างชาติในที่สาธารณะ เช่น ภาษาสเปนในสหรัฐฯ หรือภาษาโปแลนด์ในอังกฤษ มักถูกมองว่าเป็นทั้งสัญลักษณ์ของควิเคราะห์ บรา ก้าวามหลากหลายและจุดเริ่มต้นของความขัดแย้ง Emily Post นักเขียนด้านมารยาทชื่อดังของสหรัฐฯ ผู้ล่วงลับไปแล้ว ระบุว่า ตามทฤษฎีบรรทัดฐานทางสังคม (Social Norms) ของ Robert Cialdini การกระทำที่ขัดต่อความคาดหวังของกลุ่ม เช่น การพูดภาษาที่คนอื่นไม่เข้าใจ อาจถูกตีความว่าไม่สุภาพ เพราะสร้างความรู้สึกไม่ไว้วางใจหรือระแวง Janet Nixon ที่ปรึกษาด้านมารยาทในนิวยอร์ก อธิบายว่า เมื่อผู้ฟังไม่เข้าใจภาษาที่ผู้อื่นพูด สมองมักตีความว่าเป็นภัยคุกคาม หรือสงสัยว่าถูกพูดถึงในแง่ลบ ความรู้สึกนี้จะยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นในบริบทที่ตึงเครียด เช่น ในชุมชนที่มีความหลากหลายด้านภาษาสูง แต่ขาดความเข้าใจข้ามวัฒนธรรม สถิติจาก Pew Research Center ในปี 2563 ระบุว่า สหรัฐฯ มีผู้อพยพกว่า 40 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 13.7 ของประชากร ทำให้การใช้ภาษาต่างชาติในที่สาธารณะกลายเป็นเรื่องปกติ แต่ก็เพิ่มโอกาสของความเข้าใจผิด ภาพประกอบข่าว ภาพประกอบข่าว ในปี 2561 ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในแมนฮัตตัน สหรัฐฯ ลูกค้า 2 คนพูดภาษาสเปนขณะสั่งอาหาร แต่ถูก Aaron Schlossberg ทนายความชาวอเมริกัน ตะโกนต่อว่าด้วยถ้อยคำเหยียดเชื้อชาติ "ที่นี่คืออเมริกา พวกคุณต้องพูดภาษาอังกฤษ!" เหตุการณ์นี้ถูกบันทึกวิดีโอและแพร่กระจายในโซเชียลมีเดีย The New York Times รายงานในเวลาต่อมาว่า ทนายความผู้ตะโกนเสียงดังลั่นร้านอาหารนั้น ถูกวิจารณ์อย่างหนักและถูกระงับใบอนุญาตทนายความชั่วคราว ในเดือน ต.ค.2562 ผู้โดยสารชาวโปแลนด์ 2 คน บนรถไฟในลอนดอน ถูกผู้โดยสารชาวอังกฤษตำหนิที่พูดภาษาโปแลนด์กันเอง ชาวอังกฤษผู้ตำหนิอ้างว่ารู้สึก "ไม่สบายใจ" เพราะคิดว่าถูกนินทา The Guardian รายงานว่าเหตุการณ์นี้จุดประเด็นถกเถียงในสื่ออังกฤษเกี่ยวกับเสรีภาพในการใช้ภาษาและมารยาทในที่สาธารณะ บางคนมองว่าเป็นการแสดงอคติต่อผู้อพยพจากยุโรปตะวันออกหลัง Brexit มี.ค.2565 ที่ร้านกาแฟในมอนทรีออล ประเทศแคนาดา พนักงานที่พูดภาษาฝรั่งเศสและอังกฤษ ถูกกลุ่มลูกค้าต่อว่าที่ใช้ภาษาอังกฤษกับลูกค้าชาวต่างชาติ ลูกค้าบางคนอ้างว่าในรัฐควิเบก ควรใช้ภาษาฝรั่งเศสเท่านั้น เพื่อรักษาวัฒนธรรมท้องถิ่น CBC News รายงานว่าเหตุการณ์นี้จุดถกเถียงเกี่ยวกับมารยาทในพื้นที่ที่มี 2 ภาษาอย่างเป็นทางการ ภาพประกอบข่าว ภาพประกอบข่าว ฝ่ายที่เห็นว่าไม่ควรพูดภาษาอื่นในที่สาธารณะ อ้างว่าการใช้ภาษาที่คนรอบข้างไม่เข้าใจอาจสร้างความรู้สึกไม่ครอบคลุม โดยเฉพาะในบริบทที่ต้องการความร่วมมือ เช่น การประชุมงานหรือการให้บริการลูกค้า เว็บไซต์ Collage ซึ่งให้คำแนะนำด้านการจัดการทรัพยากรบุคคล ระบุว่า ในที่ทำงาน การพูดภาษาต่างชาติอาจทำให้เพื่อนร่วมงานรู้สึกถูกแยกออกจากวงสนทนา ส่งผลต่อความสัมพันธ์ในทีม นอกจากนี้ ในบริบทสาธารณะ เช่น ร้านอาหาร การพูดภาษาอื่นอาจถูกมองว่าไม่ให้เกียรติพนักงานหรือลูกค้าคนอื่นที่ไม่เข้าใจ ส่วนฝ่ายที่สนับสนุนการใช้ภาษาต่างชาติ ยืนยันว่าเป็นสิทธิส่วนบุคคลและส่วนหนึ่งของอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรม The Equal Employment Opportunity Commission (EEOC) ของสหรัฐฯ ระบุว่า การห้ามพูดภาษาอื่นในที่ทำงานโดยไม่มีเหตุผลทางธุรกิจที่ชัดเจน อาจละเมิดกฎหมายต่อต้านการเลือกปฏิบัติ Alice Foucart นักวิจัยด้านจิตวิทยาการสื่อสารจาก Ghent University กล่าวว่า "ภาษาคือส่วนหนึ่งของตัวตน การห้ามใช้ภาษาแม่ในที่สาธารณะอาจทำให้ผู้อพยพหรือชนกลุ่มน้อยรู้สึกสูญเสียอัตลักษณ์" นอกจากนี้ ในบริบทส่วนตัว เช่น การคุยกับเพื่อนหรือครอบครัว การใช้ภาษาต่างชาติไม่ควรถูกมองว่าผิด ภาพประกอบข่าว ภาพประกอบข่าว ภาพประกอบข่าว ภาพประกอบข่าว ภาพประกอบข่าว ภาพประกอบข่าว ด้วยการย้ายถิ่นและการทำงานข้ามชาติที่เพิ่มขึ้น การพูดภาษาต่างชาติในที่สาธารณะจะยังคงเป็นประเด็นถกเถียง นักมารยามสหรัฐฯ เน้นว่า การส่งเสริม "ความฉลาดทางวัฒนธรรม" ผ่านการศึกษาและการรณรงค์จะช่วยลดความขัดแย้ง โดยเฉพาะในสังคมที่มีความหลากหลายสูง เช่น สหรัฐฯ ที่มีผู้อพยพจากกว่า 200 ประเทศ นอกจากนี้ การใช้เทคโนโลยี เช่น แอปพลิเคชันแปลภาษา อาจช่วยเชื่อมช่องว่างระหว่างภาษาและลดความรู้สึกไม่สบายใจ ที่สุดแล้ว การพูดภาษาอื่นในที่สาธารณะ ไม่ใช่เรื่องผิดแต่อย่างใด แต่ผู้พูดต้องคำนึงถึงบริบทและความรู้สึกของคนรอบข้าง การสร้างสมดุลระหว่างสิทธิส่วนบุคคลและความเคารพต่อผู้อื่น จะเป็น "กุญแจสำคัญ" ในการอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรม ที่มา : The New York Times , The Guardian, CBC News, Pew Research Center, EEOC (2022). "Language Discrimination in the Workplace." อ่านข่าวอื่น : ไม่ใช่แค่หนึ่ง นักวิจัยขึ้น-ลง 15 ครั้ง สำรวจพบ "เฟิร์นชนิดใหม่" ภูกระดึง "สว.สำรอง" ยื่นคำร้อง กกต.จี้ทบทวนสั่ง​ "แสวง" ยุติปฏิบัติหน้าที่ การเมือง 21 พ.ค. 68 14:23 112 “เจ๊แมว-กุสุมาลวตี” สว.สำรอง”ตัวตึง”ท้าชนแหลก "อนุทิน-ภูมิใจไทย"

วันนี้ (17 ม.ค.2566) นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ย้ำตรงกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.

วันนี้ (26 ก.ย.66) การแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 ในการแข่งขันกีฬาเทควันโดชาย รุ่นน้ำหนักไม่

วันนี้ (15 ก.ค.2567) พรรคพลังประชารัฐ เป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงอาหารมื้อค่ำพรรคร่วมรัฐบาล ที่ปาร์คนายเลิศ

ในสังคมพหุวัฒนธรรม การพูดภาษาต่างชาติในที่สาธารณะ เช่น ภาษาสเปนในสหรัฐฯ หรือภาษาโปแลนด์ในอังกฤษ มักถูกมองว่าเป็นทั้งสัญลักษณ์ของควิเคราะห์ บรา ก้าวามหลากหลายและจุดเริ่มต้นของความขัดแย้ง Emily Post นักเขียนด้านมารยาทชื่อดังของสหรัฐฯ ผู้ล่วงลับไปแล้ว ระบุว่า ตามทฤษฎีบรรทัดฐานทางสังคม (Social Norms) ของ Robert Cialdini การกระทำที่ขัดต่อความคาดหวังของกลุ่ม เช่น การพูดภาษาที่คนอื่นไม่เข้าใจ อาจถูกตีความว่าไม่สุภาพ เพราะสร้างความรู้สึกไม่ไว้วางใจหรือระแวง Janet Nixon ที่ปรึกษาด้านมารยาทในนิวยอร์ก อธิบายว่า เมื่อผู้ฟังไม่เข้าใจภาษาที่ผู้อื่นพูด สมองมักตีความว่าเป็นภัยคุกคาม หรือสงสัยว่าถูกพูดถึงในแง่ลบ ความรู้สึกนี้จะยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นในบริบทที่ตึงเครียด เช่น ในชุมชนที่มีความหลากหลายด้านภาษาสูง แต่ขาดความเข้าใจข้ามวัฒนธรรม สถิติจาก Pew Research Center ในปี 2563 ระบุว่า สหรัฐฯ มีผู้อพยพกว่า 40 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 13.7 ของประชากร ทำให้การใช้ภาษาต่างชาติในที่สาธารณะกลายเป็นเรื่องปกติ แต่ก็เพิ่มโอกาสของความเข้าใจผิด ภาพประกอบข่าว ภาพประกอบข่าว ในปี 2561 ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในแมนฮัตตัน สหรัฐฯ ลูกค้า 2 คนพูดภาษาสเปนขณะสั่งอาหาร แต่ถูก Aaron Schlossberg ทนายความชาวอเมริกัน ตะโกนต่อว่าด้วยถ้อยคำเหยียดเชื้อชาติ "ที่นี่คืออเมริกา พวกคุณต้องพูดภาษาอังกฤษ!" เหตุการณ์นี้ถูกบันทึกวิดีโอและแพร่กระจายในโซเชียลมีเดีย The New York Times รายงานในเวลาต่อมาว่า ทนายความผู้ตะโกนเสียงดังลั่นร้านอาหารนั้น ถูกวิจารณ์อย่างหนักและถูกระงับใบอนุญาตทนายความชั่วคราว ในเดือน ต.ค.2562 ผู้โดยสารชาวโปแลนด์ 2 คน บนรถไฟในลอนดอน ถูกผู้โดยสารชาวอังกฤษตำหนิที่พูดภาษาโปแลนด์กันเอง ชาวอังกฤษผู้ตำหนิอ้างว่ารู้สึก "ไม่สบายใจ" เพราะคิดว่าถูกนินทา The Guardian รายงานว่าเหตุการณ์นี้จุดประเด็นถกเถียงในสื่ออังกฤษเกี่ยวกับเสรีภาพในการใช้ภาษาและมารยาทในที่สาธารณะ บางคนมองว่าเป็นการแสดงอคติต่อผู้อพยพจากยุโรปตะวันออกหลัง Brexit มี.ค.2565 ที่ร้านกาแฟในมอนทรีออล ประเทศแคนาดา พนักงานที่พูดภาษาฝรั่งเศสและอังกฤษ ถูกกลุ่มลูกค้าต่อว่าที่ใช้ภาษาอังกฤษกับลูกค้าชาวต่างชาติ ลูกค้าบางคนอ้างว่าในรัฐควิเบก ควรใช้ภาษาฝรั่งเศสเท่านั้น เพื่อรักษาวัฒนธรรมท้องถิ่น CBC News รายงานว่าเหตุการณ์นี้จุดถกเถียงเกี่ยวกับมารยาทในพื้นที่ที่มี 2 ภาษาอย่างเป็นทางการ ภาพประกอบข่าว ภาพประกอบข่าว ฝ่ายที่เห็นว่าไม่ควรพูดภาษาอื่นในที่สาธารณะ อ้างว่าการใช้ภาษาที่คนรอบข้างไม่เข้าใจอาจสร้างความรู้สึกไม่ครอบคลุม โดยเฉพาะในบริบทที่ต้องการความร่วมมือ เช่น การประชุมงานหรือการให้บริการลูกค้า เว็บไซต์ Collage ซึ่งให้คำแนะนำด้านการจัดการทรัพยากรบุคคล ระบุว่า ในที่ทำงาน การพูดภาษาต่างชาติอาจทำให้เพื่อนร่วมงานรู้สึกถูกแยกออกจากวงสนทนา ส่งผลต่อความสัมพันธ์ในทีม นอกจากนี้ ในบริบทสาธารณะ เช่น ร้านอาหาร การพูดภาษาอื่นอาจถูกมองว่าไม่ให้เกียรติพนักงานหรือลูกค้าคนอื่นที่ไม่เข้าใจ ส่วนฝ่ายที่สนับสนุนการใช้ภาษาต่างชาติ ยืนยันว่าเป็นสิทธิส่วนบุคคลและส่วนหนึ่งของอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรม The Equal Employment Opportunity Commission (EEOC) ของสหรัฐฯ ระบุว่า การห้ามพูดภาษาอื่นในที่ทำงานโดยไม่มีเหตุผลทางธุรกิจที่ชัดเจน อาจละเมิดกฎหมายต่อต้านการเลือกปฏิบัติ Alice Foucart นักวิจัยด้านจิตวิทยาการสื่อสารจาก Ghent University กล่าวว่า "ภาษาคือส่วนหนึ่งของตัวตน การห้ามใช้ภาษาแม่ในที่สาธารณะอาจทำให้ผู้อพยพหรือชนกลุ่มน้อยรู้สึกสูญเสียอัตลักษณ์" นอกจากนี้ ในบริบทส่วนตัว เช่น การคุยกับเพื่อนหรือครอบครัว การใช้ภาษาต่างชาติไม่ควรถูกมองว่าผิด ภาพประกอบข่าว ภาพประกอบข่าว ภาพประกอบข่าว ภาพประกอบข่าว ภาพประกอบข่าว ภาพประกอบข่าว ด้วยการย้ายถิ่นและการทำงานข้ามชาติที่เพิ่มขึ้น การพูดภาษาต่างชาติในที่สาธารณะจะยังคงเป็นประเด็นถกเถียง นักมารยามสหรัฐฯ เน้นว่า การส่งเสริม "ความฉลาดทางวัฒนธรรม" ผ่านการศึกษาและการรณรงค์จะช่วยลดความขัดแย้ง โดยเฉพาะในสังคมที่มีความหลากหลายสูง เช่น สหรัฐฯ ที่มีผู้อพยพจากกว่า 200 ประเทศ นอกจากนี้ การใช้เทคโนโลยี เช่น แอปพลิเคชันแปลภาษา อาจช่วยเชื่อมช่องว่างระหว่างภาษาและลดความรู้สึกไม่สบายใจ ที่สุดแล้ว การพูดภาษาอื่นในที่สาธารณะ ไม่ใช่เรื่องผิดแต่อย่างใด แต่ผู้พูดต้องคำนึงถึงบริบทและความรู้สึกของคนรอบข้าง การสร้างสมดุลระหว่างสิทธิส่วนบุคคลและความเคารพต่อผู้อื่น จะเป็น "กุญแจสำคัญ" ในการอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรม ที่มา : The New York Times , The Guardian, CBC News, Pew Research Center, EEOC (2022). "Language Discrimination in the Workplace." อ่านข่าวอื่น : ไม่ใช่แค่หนึ่ง นักวิจัยขึ้น-ลง 15 ครั้ง สำรวจพบ "เฟิร์นชนิดใหม่" ภูกระดึง "สว.สำรอง" ยื่นคำร้อง กกต.จี้ทบทวนสั่ง​ "แสวง" ยุติปฏิบัติหน้าที่ การเมือง 21 พ.ค. 68 14:23 112 “เจ๊แมว-กุสุมาลวตี” สว.สำรอง”ตัวตึง”ท้าชนแหลก "อนุทิน-ภูมิใจไทย"

ในสังคมพหุวัฒนธรรม การพูดภาษาต่างชาติในที่สาธารณะ เช่น ภาษาสเปนในสหรัฐฯ หรือภาษาโปแลนด์ในอังกฤษ มักถ