UID: 04905

วันนี้ (10 ธ.ค.2565) นายพินิจ นิลรัตน์ อุปนายกสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า คณะกรรมการคัดเลื

วันนี้ (3 ก.พ.2567) นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พร้อมตำรวจ สภ.ปากเกร็ด เจ้าหน

กรณีเพจ Drama-addict ได้โพสต์คลิปวิดีโอ ให้เห็นถึงความโหดร้ายของแก๊งคอลเตอร์ในฝั่งเมียนมา กำลังทารุณเหยื่อชาวปากีสถาน ด้วยการใช้เครื่องช็อตไฟฟ้า และทุบทำร้ายร่างกายภายในห้องน้ำ โดยระบุที่มาคลิปว่าตำรวจ PCT ได้รับข้อมูลจากกลุ่มสายลับในตึกสแกมเมอร์ฝั่งประเทศเมียนมา ชายแดนแม่สอดว่า มีตึกแสกมเมอร์บริษัทชื่อว่าจ่ง-ฟ่า ภาย ในตึกมีพนักงานที่ถูกกักขังอยู่ไม่ต่ำกว่า 800 คน มีหลายสัญชาติ เช่น ญี่ปุ่น ปากีสถาน บังคลาเทศ เอธิโอเปีย ยูกานดา เคนย่า และคนไทยมีบอสเป็นชาวจีน และย้ำว่าสายลับคนนี้ปลอดภัยหลบหนีออกมาได้แล้ว คลิปทารุณกรรมเหยื่อสแกมเมอร์ในเมียนมา ส่งมาขอความช่วยเหลือ คลิปทารุณกรรมเหยื่อสแกมเมอร์ในเมียนมา ส่งมาขอความช่วยเหลือ การโพสต์คลิปภาพ และไม่ปิดบังตัวตนเหยื่อ ทำให้ผู้ประสานงานเครือข่ายช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์ ร้องเรียนสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) และนาlavabet88ยภูมิธรรม เวชยชัย รมว.กลาโหม เพราะเหยื่อยังติดอยู่ในเมียนมา เนื้อหาระบุว่า “ผู้เสียหายคนดังกล่าว และผู้เสียหายอีกนับหมื่นคน ถูกหลอกให้เดินทางมาทํางานในประเทศไทย แต่พาข้ามไปยังประเทศเมียนมาต้องเป็นเหยื่อค้ามนุษย์ พยายามดิ้นรนหาทางช่วยเหลือมานานกว่า 3 เดือนแล้ว ครอบครัวของผู้เสียหาย ทุกคนมีความทุกข์ทรมานใจอย่างแสนสาหัส เครือข่ายฯ ไม่เคยเผิดเผยคลิปดังกล่าวออกสู่สาธารณะ ผู้ประสานงานเครือข่ายฯ กล่าวว่า ได้พยายามติดต่อให้มีการลบคลิปดังกล่าว แต่ไม่ได้รับการตอบรับ และย้ำว่าตนเอง ได้รับคลิปจากผู้เสียหายที่ถูกกักขังอยู่ เพราะผู้เสียหายพยายามหาทางให้หน่วยงานภายนอกช่วยเหลือ เมื่อได้รับคลิปมาก็จะส่งต่อ ให้ตำรวจศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (PCT) จึงไม่รู้ว่าคลิปถูกส่งต่อไปได้อย่างไร ผู้ประสานงานช่วยเหลือผู้เสียหายฯ ระบุว่าอยากให้เป็นบทเรียนของสื่อโซเชียล รวมถึงสื่อมวลชนทั่วไป เพราะการเผยแพร่เรื่องที่ละเอียดอ่อน ย่อมส่งผลต่อสวัสดิภาพของผู้เสียหายที่ยังไม่ได้ถูกช่วยเหลือ รวมถึงสร้างความสะเทือนใจ ให้กับญาติที่ ยังรอคอยการช่วยเหลือ เรียกร้องกสม.-กลาโหม ตรวจสอบเพจดังเผยแพร่คลิปโดยไม่พรางหน้าเหยื่อ เรียกร้องกสม.-กลาโหม ตรวจสอบเพจดังเผยแพร่คลิปโดยไม่พรางหน้าเหยื่อ ด้านพล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ตำรวจอยู่ระหว่างพิสูจน์ทราบว่าคลิปเกิดขณะที่ไหน ภายในหรือนอกราชอาณาจักร และเกิดขึ้นเมื่อไหร่ และหากพิสูจน์แล้วพบว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเกิดภายนอกราชอาณาจักร ญาติผู้เสียหายสามารถที่จะเดินทางมาให้ข้อมูลได้ โดยเฉพาะตัวผู้ถูกกระทำที่จะต้องมายืนยันว่าถูกกระทำจริงหรือไม่ และเหตุเกิดขึ้นที่ไหน ต้องตรวจสอบว่าคลิปดังกล่าวมีที่มาจากแหล่งใด ส่วนการเผยแพร่จะเข้าข่ายละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของเหยื่อกระบวนการคอลเซนเตอร์ เนื่องจากมีการเผยแพร่ใบหน้า และพฤติกรรมที่ถูกทำร้าย ความรุนแรง หรือไม่ ผู้ช่วยผบ.ตร.ระบุว่าตัวเองยังไม่ได้รับรายงานถึงกรณีดังกล่าว

กรณีเพจ Drama-addict ได้โพสต์คลิปวิดีโอ ให้เห็นถึงความโหดร้ายของแก๊งคอลเตอร์ในฝั่งเมียนมา กำลังทารุณ