วันนี้ (17 ก.ค.2567) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าก

วันนี้ (7 ธ.ค.2565) เจ้าหน้าที่หน่วยบริการประชาชน ตำรวจทางหลวงวังมะนาว ต.วังมะนาว อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี สกัดจับชาวโรฮิงญา 48 คน ได้ เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา ขณะลักลอบโดยสารมากับรถทัวร์รับจ้างไม่ประจำทาง
วันนี้ (2 มี.ค.2564) นายสมมาศ บุญเย็น อายุ 43 ปี ถูกตำรวจชุดสืบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองตราด ควบคุมตัวได้บริเวณถนนใกล้วัดสวน ใน ต.เขาสมิง อ.เขาสมิง จ.ตราด ห่างจากเรือนจำชั่วคราวเขาระกำไม่ถึง 10 กิโลเมตร
แม้การเมืองจะชุลมุนวุ่นวายอย่างไร อาชญากรรมจะรุนแรงแค่ไหน แต่สำหรับชีวิตคนที่อาศัยอยู่ในเมืองหลวง จะต้องพร้อมรบเสมอ เมื่อฝนพรำชุ่มฉ่ำทุกทิศทั่วไทย คาดตั้งแต่ช่วงบ่ายถึงค่ำ ระหว่างเดินทางกลับบ้าน หลายคนยังต้องเจอพิษน้ำท่วมและรอระบายยาว ๆ ไปอีกวันหนึ่ง เขี้ยวเล็บกองทัพ ตรงเป้า-แม่นยำ ผลยิงทดสอบ ระบบจรวด DTI-1G นำวิถีเข้าสู่เป้าหมายทุกนัด ลงพื้นกระทบทุกนัด เป้าหมายที่ระยะ 150 กิโลเมตร หลังโครงการวิจัยและพัฒนาจรวดหลายลำกล้องนำวิถีพื้นสู่พื้น แบบ DTI-1G ความร่วมมือระหว่าง กองทัพบก (ทบ.) และ สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (สทป.) เสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว โครงการนี้เริ่มตั้งแต่ปี 2555 จนถึงปัจจุบัน เป้าหมาย คือ พัฒนาระบบจรวดหลายลำกล้องนำวิถีพื้นสู่พื้นแบบ DTI-1G เพื่อนำเข้ารับรองมาตรฐานยุทโธปกรณ์ และส่งประจำการในกองทัพบก เพื่อเป็นศักย์สงครามที่สำคัญ ในด้าน Fire Power ของกองทัพไทย เน้นการพึ่งพาตนเองให้ได้มากที่สุด และ พึ่งพาต่างประเทศเท่าที่จำเป็น โครงการฯ DTI-1G มี 2 เฟส โดยแรกเป็นการรับถ่ายทอดเทคโนโลยีจากประเทศจีน ส่วนเฟส 2 เป็นการนำความรู้ในเฟส 1 มาเป็นฐานในการพัฒนาอุตสาหกรรมภายในประเทศ ให้ออกแบบและพัฒนา รถฐานยิงจรวด รถบรรทุกลูกจรวด รถควบคุมบังคับบัญชา และ ระบบส่งกำลังและซ่อมบำรุง โดย สทป. ร่วมกับเอกชนภาคอุตสาหกรรมภายในประเทศ โดยเน้นการพึ่งพาพันธมิตรหน่วยเจ้าของเทคโนโลยีต่างประเทศเท่าที่จำเป็น โดยการทดสอบจัดขึ้นระหว่างวันที่ 23-27 เม.ย. ที่ผ่านมา หลังจากที่ ทีมวิศวกรจาก 4 หน่วยงาน ประกอบด้วย สทป. และเอกชนไทย 3 บริษัท ได้ร่วมพัฒนารถฐานยิงจรวดในประเทศไทย จนสำเร็จ และส่งไปติดตั้งระบบควบคุมการยิง (Fire Control System : FCS) ที่โรงงานของพันธมิตรหน่วยเจ้าของเทคโนโลยีต่างประเทศ ก็จนถึงขั้นตอนการทดสอบในขั้นการรับรองคุณภาพของผู้ผลิต (Qualification Test) เพื่อพิสูจน์ยืนยันระดับคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ก่อนทำการยิงทดสอบขั้นการตรวจรับ (Acceptance Test) ร่วมกับหน่วยผู้ใช้ ทบ. โดยในแผนการยิงทดสอบ ขั้นการตรวจรับ หลังจากนี้จะมีการ ขับเคลื่อนโครงการในขั้นตอนต่อไป เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ขณะที่สถานการณ์ที่ทำเนียบรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย ก็ยังระอุ หลัง "นายกฯนิด" เศรษฐา ทวีสิน จรดปากกาเซ็นแต่งตั้ง "ดร.วิษณุ เครืองาม" เป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการแล้วก็ตาม แม้แต่พรรคส้ม "ก้าวไกล" ที่เงียบกริบมาตลอดสุดสัปดาห์นี้ ก็ดาหน้าออกมาทักท้วงรัว ๆ ประเดิมคนแรก "จุลพงศ์ อยู่เกษ" สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล บอกว่า ในฐานะนิสิตเก่าคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเป็นลูกศิษย์ที่สอบได้คะแนน 98 คะแนนจาก 100 คะแนน ในวิชากฎหมายของ ดร.วิษณุ อยากขอร้องให้อาจารย์ปล่อยวางทางการเมือง "ในโลกนี้ ทุกเรื่องไม่มีใคร ที่ขาดใครคนใดคนหนึ่งไปไม่ได้ ต้องมีคนรุ่นใหม่แทน..." อาจารย์ชอบยกคำบาลีในพระพุทธศาสนามาให้ข้อคิดแก่ผู้อื่น ผมจึงขอยกเรื่องที่ครั้งหนึ่งพระพุทธเจ้าเคยตอบคำถามว่าอะไรคือสิ่งที่เมื่อคนย้อนนึกถึงอดีตแล้ว จะทำให้คนเสียใจมากที่สุด พระพุทธเจ้าทรงตอบว่า สิ่งที่ทำให้คนเสียใจมากที่สุดคือการที่คนคิดว่าตนเองนั้นมีเวลา ซึ่งเวลาของอาจารย์วิษณุยังไม่หมด ... แม้ท่านจะลงเรือแป๊ะมาแล้ว ผมไม่ได้ห่วงว่าท่าน จะล่มไปพร้อมกับเรือนิด แต่ผมเป็นห่วงสุขภาพของท่าน จึงขอให้ใช้เวลาในปัจจุบัน ไปรักษาสุขภาพให้แข็งแรงจะดีกว่า "เป็นความห่วงของศิษย์" จุลพงศ์ ไม่เว้นแม้แต่ "โรม" รังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ตั้งข้อสังเกต ไม่ว่าใครก็ต้องยืมมือ ดร.วิษณุ มาทำงาน ไม่ว่าจะเป็น รัฐบาลลุงตู่ "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" หรือ "รัฐบาลเศรษฐา" แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลขาดเอกภาพ ไม่มีความพร้อมในการบริหารงาน อ่านข่าว : "รังสิมันต์" แนะจับตา "เศรษฐา" ตั้ง "วิษณุ" เป็นที่ปรึกษา หวังรอดคดีศาล รธน. "นายเศรษฐา วิพากษ์วิจารณ์นายวิษณุ ในหลายโอกาส แต่ถึงเวลาทำเหมือนว่า เรื่องเหล่านั้นไม่เคยเกิดขึ้น ไปบอกว่าเป็นเรื่องของความ ไม่ใช่เรื่องของคน ... เป็นวิธีการที่จะหลบเลี่ยง สุดท้ายอาจจะไม่ใช่ ให้มาดูแค่เรื่องกฎหมายในคณะรัฐมนตรี แต่นายเศรษฐาจะถูกดำเนินคดีหรือไม่ กำลังถูกแขวนอยู่ในศาลรัฐธรรมนูญ" โรม บอกว่า สิ่งที่มองคือนายเศรษฐาไม่ไว้วางใจฝ่ายกฎหมายของพรรคเพื่อไทยอีกแล้ว จึงทำให้ไม่รู้จะไปหาทางออกอย่างไร จึงต้องไปยืมเนติบริกร ที่มีผลงานในหลายรัฐบาล คือนายวิษณุ พูดง่าย ๆ ก็คือการันตีของแทร่ อ่านข่าว : 222 วันเส้นทางหนีคดี "แป้ง นาโหนด" ซุกอินโดนีเซีย คนเบื้องหลัง "บิ๊กวี" พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เจ้ากระทรวงตาชั่ง ออกมาเปิดเผยเบื้องหลังการจับ "แป้ง นาโหนด" นักโทษอุกฉกรรจ์ หลังศาลจังหวัดพัทลุงสั่งจำคุก 20 ปี 6 เดือน คดีปล้นผู้ต้องหาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน กองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 8 ขณะจับกุมคดียาเสพติด และแหกหักหลบหนีออกจากโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช ระหว่างเข้ารับการรักษาตัว ตั้งแต่เมื่อวันที่ 22 ต.ค.2566 หนีนานกว่า 6 เดือน จนถูกตำรวจอินโดนีเซียจับกุมที่เกาะบาหลี มุมหนึ่งเป็นเรื่องน่ายินดี แต่จับกุมผู้ต้องหารายนี้ได้ แต่อีกมุมหนึ่งสะท้อนให้เห็นความบกพร่องในการทำงานของกรมราชทัณฑ์ ในชุดสืบสวนจับกุม นอกจากเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ยังมีผู้อยู่เบื้องหลัง คือ "บิ๊กแป๊ะ" พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ที่ปรึกษานายกฯ อดีตปลัดกระทรวงกลาโหมได้ประสาน "ยูซุฟ คัลลา" อดีตประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ซึ่งเคยทำงานในคณะร่วมเจรจากระบวนการสันติภาพอาเจะห์ เมื่อหลายปีมาแล้ว อ่านข่าว : ส่ง "พล.ต.ท.ประจวบ" รับ "แป้ง นาโหนด" โดน 3 ข้อหาหนัก โดย "บิ๊กวี"พ.ต.อ.ทวี มอบหมายให้ "บิ๊กแป๊ะ" พล.อ.นิพัทธ์ พร้อม "รองแพร" พ.ต.ต. ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีดีเอสไอ เดินทางไปคุยกับทางการอินโดนีเซีย ส่วนการนำตัวผู้ต้องดู บอล สด ยูโร 2021 ฟรีหาหลบหนีคดีกลับประเทศนั้น เจ้ากระทรวงตาชั่งบอกว่า ตอนนี้ยังไม่มีอะไรติดขัด และเบื้องต้นทางประเทศอินโดนีเซียแจ้งว่าจะสามารถให้รับตัว "แป้ง หนาโหนด" กลับมาได้ภายในวันอาทิตย์นี้ สุดสัปดาห์นี้ เป็นวันหยุดยาวติดต่อกัน 3 วัน ขอให้เป็นศุกร์หรรษาของทุกคน เดินทางปลอดภัย ที่สำคัญ ไม่เจอรถติด-ฝนตกและน้ำท่วม อ่านข่าว : ตร.คาด “แป้ง” นั่งเรือไปอินโดฯ ชี้ระยะทางไม่ไกล ช่วงหลบหนีไม่มีมรสุม
วันนี้ (23 ก.ค.2564) นพ.ทวีทรัพย์ ศิรประภาศิริ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค ชี้แจงการศึกษาประสิทธ
ตร.ปราบปรามยาเสพติดสกัดยาบ้า 7.8 หมื่นเม็ด-วิสามัญ 1 คนร้าย ชุดเฉพาะกิจปราบปรามยาเสพติดวิสามัญผู้ค้า
ครูไซโร่สั่งปลด “อวิล่า” จากตำแหน่งโค้ช ครูไซโร่ สโมสรในลีกบราซิล สั่งปลด “เอเมอร์สัน อวิล่า” โค้ชขอ
แม้การเมืองจะชุลมุนวุ่นวายอย่างไร อาชญากรรมจะรุนแรงแค่ไหน แต่สำหรับชีวิตคนที่อาศัยอยู่ในเมืองหลวง จะต้องพร้อมรบเสมอ เมื่อฝนพรำชุ่มฉ่ำทุกทิศทั่วไทย คาดตั้งแต่ช่วงบ่ายถึงค่ำ ระหว่างเดินทางกลับบ้าน หลายคนยังต้องเจอพิษน้ำท่วมและรอระบายยาว ๆ ไปอีกวันหนึ่ง เขี้ยวเล็บกองทัพ ตรงเป้า-แม่นยำ ผลยิงทดสอบ ระบบจรวด DTI-1G นำวิถีเข้าสู่เป้าหมายทุกนัด ลงพื้นกระทบทุกนัด เป้าหมายที่ระยะ 150 กิโลเมตร หลังโครงการวิจัยและพัฒนาจรวดหลายลำกล้องนำวิถีพื้นสู่พื้น แบบ DTI-1G ความร่วมมือระหว่าง กองทัพบก (ทบ.) และ สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (สทป.) เสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว โครงการนี้เริ่มตั้งแต่ปี 2555 จนถึงปัจจุบัน เป้าหมาย คือ พัฒนาระบบจรวดหลายลำกล้องนำวิถีพื้นสู่พื้นแบบ DTI-1G เพื่อนำเข้ารับรองมาตรฐานยุทโธปกรณ์ และส่งประจำการในกองทัพบก เพื่อเป็นศักย์สงครามที่สำคัญ ในด้าน Fire Power ของกองทัพไทย เน้นการพึ่งพาตนเองให้ได้มากที่สุด และ พึ่งพาต่างประเทศเท่าที่จำเป็น โครงการฯ DTI-1G มี 2 เฟส โดยแรกเป็นการรับถ่ายทอดเทคโนโลยีจากประเทศจีน ส่วนเฟส 2 เป็นการนำความรู้ในเฟส 1 มาเป็นฐานในการพัฒนาอุตสาหกรรมภายในประเทศ ให้ออกแบบและพัฒนา รถฐานยิงจรวด รถบรรทุกลูกจรวด รถควบคุมบังคับบัญชา และ ระบบส่งกำลังและซ่อมบำรุง โดย สทป. ร่วมกับเอกชนภาคอุตสาหกรรมภายในประเทศ โดยเน้นการพึ่งพาพันธมิตรหน่วยเจ้าของเทคโนโลยีต่างประเทศเท่าที่จำเป็น โดยการทดสอบจัดขึ้นระหว่างวันที่ 23-27 เม.ย. ที่ผ่านมา หลังจากที่ ทีมวิศวกรจาก 4 หน่วยงาน ประกอบด้วย สทป. และเอกชนไทย 3 บริษัท ได้ร่วมพัฒนารถฐานยิงจรวดในประเทศไทย จนสำเร็จ และส่งไปติดตั้งระบบควบคุมการยิง (Fire Control System : FCS) ที่โรงงานของพันธมิตรหน่วยเจ้าของเทคโนโลยีต่างประเทศ ก็จนถึงขั้นตอนการทดสอบในขั้นการรับรองคุณภาพของผู้ผลิต (Qualification Test) เพื่อพิสูจน์ยืนยันระดับคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ก่อนทำการยิงทดสอบขั้นการตรวจรับ (Acceptance Test) ร่วมกับหน่วยผู้ใช้ ทบ. โดยในแผนการยิงทดสอบ ขั้นการตรวจรับ หลังจากนี้จะมีการ ขับเคลื่อนโครงการในขั้นตอนต่อไป เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ขณะที่สถานการณ์ที่ทำเนียบรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย ก็ยังระอุ หลัง "นายกฯนิด" เศรษฐา ทวีสิน จรดปากกาเซ็นแต่งตั้ง "ดร.วิษณุ เครืองาม" เป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการแล้วก็ตาม แม้แต่พรรคส้ม "ก้าวไกล" ที่เงียบกริบมาตลอดสุดสัปดาห์นี้ ก็ดาหน้าออกมาทักท้วงรัว ๆ ประเดิมคนแรก "จุลพงศ์ อยู่เกษ" สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล บอกว่า ในฐานะนิสิตเก่าคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเป็นลูกศิษย์ที่สอบได้คะแนน 98 คะแนนจาก 100 คะแนน ในวิชากฎหมายของ ดร.วิษณุ อยากขอร้องให้อาจารย์ปล่อยวางทางการเมือง "ในโลกนี้ ทุกเรื่องไม่มีใคร ที่ขาดใครคนใดคนหนึ่งไปไม่ได้ ต้องมีคนรุ่นใหม่แทน..." อาจารย์ชอบยกคำบาลีในพระพุทธศาสนามาให้ข้อคิดแก่ผู้อื่น ผมจึงขอยกเรื่องที่ครั้งหนึ่งพระพุทธเจ้าเคยตอบคำถามว่าอะไรคือสิ่งที่เมื่อคนย้อนนึกถึงอดีตแล้ว จะทำให้คนเสียใจมากที่สุด พระพุทธเจ้าทรงตอบว่า สิ่งที่ทำให้คนเสียใจมากที่สุดคือการที่คนคิดว่าตนเองนั้นมีเวลา ซึ่งเวลาของอาจารย์วิษณุยังไม่หมด ... แม้ท่านจะลงเรือแป๊ะมาแล้ว ผมไม่ได้ห่วงว่าท่าน จะล่มไปพร้อมกับเรือนิด แต่ผมเป็นห่วงสุขภาพของท่าน จึงขอให้ใช้เวลาในปัจจุบัน ไปรักษาสุขภาพให้แข็งแรงจะดีกว่า "เป็นความห่วงของศิษย์" จุลพงศ์ ไม่เว้นแม้แต่ "โรม" รังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ตั้งข้อสังเกต ไม่ว่าใครก็ต้องยืมมือ ดร.วิษณุ มาทำงาน ไม่ว่าจะเป็น รัฐบาลลุงตู่ "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" หรือ "รัฐบาลเศรษฐา" แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลขาดเอกภาพ ไม่มีความพร้อมในการบริหารงาน อ่านข่าว : "รังสิมันต์" แนะจับตา "เศรษฐา" ตั้ง "วิษณุ" เป็นที่ปรึกษา หวังรอดคดีศาล รธน. "นายเศรษฐา วิพากษ์วิจารณ์นายวิษณุ ในหลายโอกาส แต่ถึงเวลาทำเหมือนว่า เรื่องเหล่านั้นไม่เคยเกิดขึ้น ไปบอกว่าเป็นเรื่องของความ ไม่ใช่เรื่องของคน ... เป็นวิธีการที่จะหลบเลี่ยง สุดท้ายอาจจะไม่ใช่ ให้มาดูแค่เรื่องกฎหมายในคณะรัฐมนตรี แต่นายเศรษฐาจะถูกดำเนินคดีหรือไม่ กำลังถูกแขวนอยู่ในศาลรัฐธรรมนูญ" โรม บอกว่า สิ่งที่มองคือนายเศรษฐาไม่ไว้วางใจฝ่ายกฎหมายของพรรคเพื่อไทยอีกแล้ว จึงทำให้ไม่รู้จะไปหาทางออกอย่างไร จึงต้องไปยืมเนติบริกร ที่มีผลงานในหลายรัฐบาล คือนายวิษณุ พูดง่าย ๆ ก็คือการันตีของแทร่ อ่านข่าว : 222 วันเส้นทางหนีคดี "แป้ง นาโหนด" ซุกอินโดนีเซีย คนเบื้องหลัง "บิ๊กวี" พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เจ้ากระทรวงตาชั่ง ออกมาเปิดเผยเบื้องหลังการจับ "แป้ง นาโหนด" นักโทษอุกฉกรรจ์ หลังศาลจังหวัดพัทลุงสั่งจำคุก 20 ปี 6 เดือน คดีปล้นผู้ต้องหาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน กองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 8 ขณะจับกุมคดียาเสพติด และแหกหักหลบหนีออกจากโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช ระหว่างเข้ารับการรักษาตัว ตั้งแต่เมื่อวันที่ 22 ต.ค.2566 หนีนานกว่า 6 เดือน จนถูกตำรวจอินโดนีเซียจับกุมที่เกาะบาหลี มุมหนึ่งเป็นเรื่องน่ายินดี แต่จับกุมผู้ต้องหารายนี้ได้ แต่อีกมุมหนึ่งสะท้อนให้เห็นความบกพร่องในการทำงานของกรมราชทัณฑ์ ในชุดสืบสวนจับกุม นอกจากเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ยังมีผู้อยู่เบื้องหลัง คือ "บิ๊กแป๊ะ" พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ที่ปรึกษานายกฯ อดีตปลัดกระทรวงกลาโหมได้ประสาน "ยูซุฟ คัลลา" อดีตประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ซึ่งเคยทำงานในคณะร่วมเจรจากระบวนการสันติภาพอาเจะห์ เมื่อหลายปีมาแล้ว อ่านข่าว : ส่ง "พล.ต.ท.ประจวบ" รับ "แป้ง นาโหนด" โดน 3 ข้อหาหนัก โดย "บิ๊กวี"พ.ต.อ.ทวี มอบหมายให้ "บิ๊กแป๊ะ" พล.อ.นิพัทธ์ พร้อม "รองแพร" พ.ต.ต. ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีดีเอสไอ เดินทางไปคุยกับทางการอินโดนีเซีย ส่วนการนำตัวผู้ต้องดู บอล สด ยูโร 2021 ฟรีหาหลบหนีคดีกลับประเทศนั้น เจ้ากระทรวงตาชั่งบอกว่า ตอนนี้ยังไม่มีอะไรติดขัด และเบื้องต้นทางประเทศอินโดนีเซียแจ้งว่าจะสามารถให้รับตัว "แป้ง หนาโหนด" กลับมาได้ภายในวันอาทิตย์นี้ สุดสัปดาห์นี้ เป็นวันหยุดยาวติดต่อกัน 3 วัน ขอให้เป็นศุกร์หรรษาของทุกคน เดินทางปลอดภัย ที่สำคัญ ไม่เจอรถติด-ฝนตกและน้ำท่วม อ่านข่าว : ตร.คาด “แป้ง” นั่งเรือไปอินโดฯ ชี้ระยะทางไม่ไกล ช่วงหลบหนีไม่มีมรสุม
แม้การเมืองจะชุลมุนวุ่นวายอย่างไร อาชญากรรมจะรุนแรงแค่ไหน แต่สำหรับชีวิตคนที่อาศัยอยู่ในเมืองหลวง จะ