sbobet285 ทาง เข้า
หลังเพจ "บันทึกไม่ลับของคนขับเครื่องบิน" โพสต์ภาพ
฿19798
บาท8
ห้องนอน
22
ห้องน้ำ
884
ตร.ม.
฿ 7019
/ ตารางเมตร
sbobet285 ทาง เข้า
“ในหลวง” โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง 11 กสทช. พระบาทสมเด็จ
UID: 05877
วันนี้ (24 ม.ค.2567) ศ.ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล รองปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (
ช่วงเวลาที่ค่าครองชีพสูงขึ้นและความท้าทายในการดึงดูดบุคลากรคุณภาพเข้าสู่ระบบราชการเพิ่มมากขึ้น รัฐบา
ศึกชิงความเป็นหนึ่งในตลาดทุเรียน กำลังต่อสู้กันอย่างเข้มข้น ในทุกปีตั้งแต่ช่วงเดือนมี.ค. – ต.ค. ยิ่งเฉพาะฤดูกาลที่ความต้องการในตลาดผู้บริโภคสูงและเกษตรกรต้องเร่งส่งผลผลิตส่งออกไปยังตลาดจีนจำนวนมาก ในเดือนพ.ค.-มิ.ย. อย่างไรก็ตาม ปฎิเสธไม่ได้ว่า “ทุเรียนไทย” คือ พืชเศรษฐกิจหนึ่งเดียวที่นำรายเข้าประเทศเป็นลำดับต้นๆ ของสินค้าเกษตรส่งออกทั้งหมด ปี 2566 ไทยมีมูลค่าส่งออกทุเรียน 1.4 แสนล้านบาท ในตลาดจีนทุเรียนถือเป็นผลไม้ที่มีราคาสูงและได้รับความนิยมจากกลุ่มผู้บริโภคซึ่งมีกำลังซื้อสูง ในปีนี้หลายประเทศต้องเผชิญกับสภาวะอากาศแห้งแล้ง รวมทั้งประเทศไทย จึงทำให้ปริมาณการผลิตลดลงสวนทางกับความต้องการตลาดผู้บริโภค จึงทำให้เกิดปัญหาการลักลอบนำเข้าทุเรียนเพื่อสวมสิทธิและสอดใส้เป็นทุเรียนไทยเพื่อส่งออกไปจำหน่ายยังตลาดจีน อย่างไsbobet285 ทาง เข้ารก็ตาม ต้องยอมรับว่า ปัญหาของทุเรียนไทยเกิดขึ้นมานานและหน่วยงานโดยเฉพาะด่านชายแดนที่ยังไม่เข้มงวดในการตรวจสอบเพื่อป้องกันปัญหาการลักลอบนำทุเรียนเพื่อนบ้านเข้ามา และเปิดช่องทางให้ผู้ประกอบการบางรายหัวใสใช้วิธีการขอใบรับรองแหล่งผลิต GAP พืช ทั้งเพื่อการส่งออกและขายในประเทศ นายอัทธ์ พิศาลวานิช นักวิชาการอิสระและผู้เชี่ยวชาญเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กล่าวกับ “ไทยพีบีเอสออนไลน์”ว่า ตั้งแต่ปี 2554-2566 หรือในช่วง 12 ปี ที่ผ่านมา ไทยมีพื้นที่ปลูกทุเรียนเพิ่มขึ้น ทำให้ได้ผลผลิตเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน เกษตรกรสามารถผลิตทุเรียนเพิ่มจาก 5 แสนตัน เป็น 1.4 ล้านตัน หรือได้ผลผลิตเพิ่มขึ้น 180% โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีการขยายผลผลิตเพิ่มขึ้นมากที่สุดถึง 1,500 % ขณะที่พื้นที่ปลูกทั้งประเทศเพิ่มขึ้น 80% นายอัทธ์ พิศาลวานิช นักวิชาการอิสระและผู้เชี่ยวชาญเศรษฐกิจระหว่างประเทศ นายอัทธ์ พิศาลวานิช นักวิชาการอิสระและผู้เชี่ยวชาญเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ผู้เชี่ยวชาญเศรษฐกิจระหว่างประเทศ วิเคราะห์ว่า ปัจจุบันการนำทุเรียนจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามา เพื่อส่งออกไปจำหน่ายในตลาดต่างประเทศยังมีปริมาณที่น้อย แต่อนาคตมีความเป็นไปได้สูง หากไทยผลิตทุเรียนได้น้อยลง โดยปีนี้ทุเรียนไทยมีผลผลิตหายไปถึง 40% และหากปี 2568 ประเทศไทยยังไม่สามารถบริหารจัดการปัญหาดังกล่าวได้ ทุเรียนไทยอาจจะหายไปจากตลาดถึง 50% และเป็นไปได้สูงที่จะมีการนำเข้าทุเรียนเวียดนามเพื่อส่งออกและบริโภคในประเทศมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ในปี 2567 ยังไม่มีตัวเลขชัดเจนจากไทยว่า มีการนำเข้าทุเรียนมาปริมาณเท่าใด แต่กระทรวงเกษตรและการพัฒนาชนบทเวียดนามระบุว่า เวียดนามส่งออกทุเรียนมาไทยช่วงเดือนม.ค.-เม.ย.มูลค่า 800 ล้านบาท โดยทุเรียนเวียดนาม เรียกว่า RI6 ซึ่งเป็นทุเรียนพันธุ์ หมอนทอง ปลูกมากในภาคใต้ของเวียดนาม ส่วนทุเรียนของกัมพูชา ยังไม่มีทะลักเข้ามาไทยเพราะยังมีปริมาณที่น้อยน่าจะขายภายในประเทศเท่านั้น แต่ที่น่ากังวล คือ ทุเรียนจากเวียดนามที่มีปริมาณเพิ่มขึ้นทุกปี เพราะมีระบบน้ำที่ดีซึ่งในอนาคตโอกาสที่ทุเรียนเวียดนามจะนำเข้ามาเพิ่มขึ้นมีสูง นายอัทธ์ กล่าวว่า ปัญหาการลักลอบนำเข้าทุเรียน หน่วยงานรัฐ โดยเฉพาะด่านชายแดนต่างๆต้องเข้มงวดและดำเนินการอย่างจริงจังเพื่อป้องกันการลักลอบ เพราะหากหลุดจากด่านชายแดนเข้ามา ก็จะส่งผลกระทบต่อทุเรียนภาคตะวันออกทันที โดยที่ผู้บริโภคไม่สามารถแยกประเภททุเรียนออกได้ว่าเป็นของไทยหรือเพื่อนบ้าน สำหรับทุเรียนภาคตะวันออกปลูกมากใน 3 จังหวัด คือ จันทบุรี ระยอง ตราด จำนวน 54 % ของพื้นที่เพาะปลูกทั้งหมด รองลงมาเป็นทุเรียนในภาคใต้ 40% ภาคเหนือ 4 % และภาคอีสาน 2% โดยมูลค่าการส่งออกทุเรียนคิดเป็นสัดส่วน 25% ของมูลการค่าส่งออกรวมของพืชส่งออกหลัก 4 ชนิด อย่างไรก็ตาม ด้วยสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจากปัญหาภัยแล้งที่รุนแรงเพิ่มขึ้น หากไม่มีการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม คาดว่าในอีก 5 ปีข้างหน้า ผลผลิตทุเรียนไทยจะลดลง 53% ทั้งจากสวนทุเรียนที่ให้ผลผลิตแล้วและผลผลิตใหม่ มีการคาดการณ์ว่า หากในปี 2568 หากไทยต้องเผชิญปัญหาภัยแล้งอีกระลอกจะกระทบต่อผลผลิตของทุเรียนในตลาด ซึ่งจะหายไปจำนวน 6.4 แสนตัน หรือทำให้ผลผลิตทุเรียนลดลง 42% หรือจำนวน 540,000 ตัน ซึ่งปัญหาดังกล่าว ถือเป็นวาระแห่งชาติเร่งด่วนที่ประเทศไทยต้องเร่งแก้ไข โดยเฉพาะการบริหารจัดการน้ำให้กับชาวสวนทุเรียนและพืชผลเกษตรอื่นๆ เพื่อให้มีน้ำพอใช้ ไม่เช่นนั้นผลกระทบใหญ่หลวงต่อการผลิต รายได้ของเกษตรกร และราคาสินค้าที่แพงขึ้น นายอัทธ์ บอกว่า ในอนาคตทุเรียนเวียดนามจะเป็นคู่แข่งสำคัญของไทย คาดว่าในอีก 3 ปีข้างหน้า ทุเรียนเวียดนามจะมีผลผลิตใกล้เคียงกับทุเรียนไทย ซึ่งชาวสวนทุเรียนต้องหันมาเน้นคุณภาพและมาตรฐานเข้าสู้ โดยช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ทุเรียนเวียดนามมีผลผลิตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสภาพภูมิประเทศสามารถปลุกทุเรียนได้ทั้งปี และมีปริมาณน้ำเพียงพอ โดยในปี 2566 ทุเรียนเวียดนามเพิ่มขึ้น 200% และมีปริมาณการผลิตสูงถึง800,000 ตัน เพิ่มจาก 270,000 แสนตัน และในปี 2557 มีพื้นที่ปลูกเกือบ 7 แสนไร่ จาก 680,000 แสนไร่ โดยพบว่าไตรมาส1ปีนี้ เวียดนามส่งออกทุเรียนไปจีนเพิ่มขึ้น 105 % หรือ 36,800 ตัน ส่วนไทยส่งออกในช่วงเวลาเดียวกันเพียง 17,900 ตัน และคาดว่าทั้งปี เวียดนามสามารถส่งออกทุเรียนไปจีนอยู่ที่ 800,000 ตัน ในขณะที่ไทยส่งออกอยู่ที่ 1,100,000-1,200,000ตัน ห่างกันกว่า 400,000 แสนตัน อย่างไรก็ตามยังไม่รวมทุเรียน มูซางคิง ทุเรียนพันธุ์มาเลเซีย ที่ได้รับรางวัลจากการผสมผสานรสชาติขมและหวานที่ไม่ธรรมดา และยังได้รับความนิยมมากที่สุดทั้งในมาเลเซียและสิงคโปร์ ซึ่งเป็นที่รู้จักในชื่อเหมาซานหวาง และมีราคาสูงกว่าพันธุ์อื่นๆ นอกจากนี้ยังได้รับความนิยมมากขึ้นในจีน ซึ่งถือว่าเป็นคู่แข่งของทุเรียนไทยอีกสายพันธุ์หนึ่งแม้ว่าจะยังไม่หลากหลายแต่หากอนาคตไทยยังไม่เร่งพัฒนาคุณภาพทุเรียนให้โดดเด่นกว่าคู่แข่งอาจจะถูกทุเรียนสายพันธุ์เพื่อนบ้านยแย่งตลาดจีนไปแน่นอน ยังไม่รวมถึงจีนที่เริ่มมีการปลูกทุเรียนและพัฒนาสายพันธุ์ให้ใกล้เคียงกับทุเรียนไทยอีกด้วย ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า ระหว่างปี 2565 – 2567 มีจำนวนล้งจีนเพิ่มขึ้น 665 ราย ในขณะที่ล้งไทยปิดตัวจาก 25 ราย เหลือ 10 ราย และในอนาคตคาดว่า ล้งไทยจะปิดตัวเพิ่มขึ้น เหลือไม่ เกิน 5 ราย ทีมข่าวไทยพีบีเอสออนไลน์ ลงพื้นที่จ.จันทบุรี พบว่า มีกลุ่มทุนจีนเข้ามาก่อสร้างอาคารเพื่อใช้สำหรับรับซื้อทุเรียนผุดขึ้นหลายแห่งในพื้นที่จันทบุรี จากการการตรวจสอบพบว่าล้ง ที่ผ่านมาตรฐาน GMP จำนวน 827 ล้ง โดยกระทรวงพาณิชย์ได้ออกมาตรการบริหารจัดการผลไม้ ปี 2567 ในการทำผลไม้คุณภาพและหาตลาดทั้งในและต่างประเทศ เพื่อระบายผลผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน จากการสอบถามเจ้าของสวนทุเรียนในพื้นที่ ให้ข้อมูลว่า ล้งที่เข้ามารับซื้อทุเรียนในพื้นที่ภาคตะวันออก 3 จังหวัด คือ ระยอง ตราด และ จันทบุรีมีประมาณ 1,200 ล้ง เพิ่มขึ้นจาก ปี 2566 ที่เดิมมีเพียง 700 ล้ง ส่วนล้งที่เหลือเป็นล้งไทยร้อยละ 100 มีเพียงร้อยละ 10 เท่านั้น ที่เหลือเป็นล้งร่วมทุน ระหว่าง คนไทยกับคนจีน สัดส่วน 51-49 ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า ในช่วง 4 เดือนของปี 2567 (ม.ค.-เม.ย.) ไทยส่งออกทุเรียนสดไปจีน มีปริมาณ 225,204 ตัน มีแนวโน้มว่าเดือน พ.ค. 2567 จะส่งออกได้เพิ่มมากขึ้น เพราะเป็นช่วงที่ผลผลิตทุเรียนของไทยออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก และมีผลผลิตส่งออกเพิ่มขึ้น เมื่อสิ้นสุดฤดูของทุเรียนภาคตะวันออก ก็จะเข้าสู่โหมด “ทุเรียนภาคใต้” จึงทำให้ไทยมีผลผลิตส่งออกอย่างต่อเนื่อง และจะส่งผลให้ปีนี้ไทยยังคงครองแชมป์การส่งออกทุเรียนสดไปยังจีนได้เหมือนเดิม นายวิทยากร มณีเนตร โฆษกกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ปีนี้ผลผลิตทุเรียนภาคตะวันออกของไทย ออกสู่ตลาดล่าช้ากว่าปีที่แล้ว ทำให้ผลผลิตมีน้อยกว่าความต้องการ แต่ราคาทุเรียนสดต่อหน่วยของไทยในปี 2567 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา พบว่าปรับตัวสูงขึ้น ราคาส่งออกเฉลี่ยกิโลกรัมละ 6 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 216 บาท/กก. เนื่องจากความต้องการบริโภคในตลาดจีนเพิ่มขึ้น ข้อมูลของ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) ระบุว่า จากปัจจัยด้านราคาและผลตอบแทนที่จูงใจต่อการลงทุน รวมทั้งความต้องการของตลาดในและต่างประเทศที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และต้นทุเรียนที่ปลูกในระยะหลายปีที่ผ่านมา เริ่มให้ผลผลิตเป็นครั้งแรกในปี 2567 เพิ่มขึ้น จำนวน 38,849 ไร่ ผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่ 1,843 กิโลกรัม ลดลงจากปี 2566 ที่มีผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่ 1,991 กิโลกรัม ลดลง 148 กิโลกรัม คิดเป็นร้อยละ 7.43 แต่เนื่องจากสภาพอากาศแปรปรวนจากปรากฏการณ์เอลนีโญ ทำให้การออกดอกติดผลไม่เต็มต้น น้ำหนักเฉลี่ยต่อลูกลดลง ประกอบกับมีต้นทุเรียนที่เริ่มให้ผลผลิต ปี 2567 เมื่อคำนวณโดยค่าเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักจึงทำให้ผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่ลดลง ผลผลิตรวม 782,874 ตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ที่มีจำนวน 776,914 ตัน เพิ่มขึ้น 5,960 ตัน คิดเป็นร้อยละ 0.77 สำหรับการกระจายตัวของผลผลิตทุเรียน เริ่มทยอยออกสู่ตลาดตั้งแต่ม.ค.ถึงก.ค.2567 โดยจะออกสู่ตลาดกระจุกตัวมากที่สุดในเดือนพ.ค. 2567 คิดเป็นร้อยละ 53.20 ของผลผลิตทั้งหมด โดยขณะนี้ทุเรียนภาคตะวันออกผลผลิตออกไปเกือบ 100% และในช่วงกลางเดือนมิ.ย.นี้ จะเป็นฤดูกาลแรกของทุเรียนภาคใต้ จะทำให้ตลาดทุเรียนไทยกลับคึกคักเหมือนเดิม แม้ทุเรียนไทยจะมีคู่แข่งรอบด้าน จากเวียดนาม -จีน แต่ด้วยรสชาติโดดเด่น หอมหวาน นุ่มนวลและอัดแน่นด้วยคุณภาพ เชื่อว่า ทุเรียนไทยยังคงยืนหนึ่งสู้ศึกรอบด้านได้ แม้จะต้องปรับตัวรับสภาพภูมิอากาศที่แปรปรวนไปอย่างรวดเร็ว อ่านข่าว: ทวงแชมป์ "ทุเรียนไทย" ส่งออกตลาดจีน 4 เดือน พุ่ง 2.25 แสนตัน เปิดใจ "แสงชัย" ค่าแรง 400 บาท อย่ากระชากแรงจน SMEs ล้มตาย กวก.เดินหน้าปั้นทุเรียนใต้คุณภาพ ตั้งเป้าส่งออก 1.3 แสนล้านบาท
ศึกชิงความเป็นหนึ่งในตลาดทุเรียน กำลังต่อสู้กันอย่างเข้มข้น ในทุกปีตั้งแต่ช่วงเดือนมี.ค. – ต.ค. ยิ่ง
วันนี้ (24 ม.ค.2567) ศ.ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล รองปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (
ช่วงเวลาที่ค่าครองชีพสูงขึ้นและความท้าทายในการดึงดูดบุคลากรคุณภาพเข้าสู่ระบบราชการเพิ่มมากขึ้น รัฐบา
ศึกชิงความเป็นหนึ่งในตลาดทุเรียน กำลังต่อสู้กันอย่างเข้มข้น ในทุกปีตั้งแต่ช่วงเดือนมี.ค. – ต.ค. ยิ่งเฉพาะฤดูกาลที่ความต้องการในตลาดผู้บริโภคสูงและเกษตรกรต้องเร่งส่งผลผลิตส่งออกไปยังตลาดจีนจำนวนมาก ในเดือนพ.ค.-มิ.ย. อย่างไรก็ตาม ปฎิเสธไม่ได้ว่า “ทุเรียนไทย” คือ พืชเศรษฐกิจหนึ่งเดียวที่นำรายเข้าประเทศเป็นลำดับต้นๆ ของสินค้าเกษตรส่งออกทั้งหมด ปี 2566 ไทยมีมูลค่าส่งออกทุเรียน 1.4 แสนล้านบาท ในตลาดจีนทุเรียนถือเป็นผลไม้ที่มีราคาสูงและได้รับความนิยมจากกลุ่มผู้บริโภคซึ่งมีกำลังซื้อสูง ในปีนี้หลายประเทศต้องเผชิญกับสภาวะอากาศแห้งแล้ง รวมทั้งประเทศไทย จึงทำให้ปริมาณการผลิตลดลงสวนทางกับความต้องการตลาดผู้บริโภค จึงทำให้เกิดปัญหาการลักลอบนำเข้าทุเรียนเพื่อสวมสิทธิและสอดใส้เป็นทุเรียนไทยเพื่อส่งออกไปจำหน่ายยังตลาดจีน อย่างไsbobet285 ทาง เข้ารก็ตาม ต้องยอมรับว่า ปัญหาของทุเรียนไทยเกิดขึ้นมานานและหน่วยงานโดยเฉพาะด่านชายแดนที่ยังไม่เข้มงวดในการตรวจสอบเพื่อป้องกันปัญหาการลักลอบนำทุเรียนเพื่อนบ้านเข้ามา และเปิดช่องทางให้ผู้ประกอบการบางรายหัวใสใช้วิธีการขอใบรับรองแหล่งผลิต GAP พืช ทั้งเพื่อการส่งออกและขายในประเทศ นายอัทธ์ พิศาลวานิช นักวิชาการอิสระและผู้เชี่ยวชาญเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กล่าวกับ “ไทยพีบีเอสออนไลน์”ว่า ตั้งแต่ปี 2554-2566 หรือในช่วง 12 ปี ที่ผ่านมา ไทยมีพื้นที่ปลูกทุเรียนเพิ่มขึ้น ทำให้ได้ผลผลิตเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน เกษตรกรสามารถผลิตทุเรียนเพิ่มจาก 5 แสนตัน เป็น 1.4 ล้านตัน หรือได้ผลผลิตเพิ่มขึ้น 180% โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีการขยายผลผลิตเพิ่มขึ้นมากที่สุดถึง 1,500 % ขณะที่พื้นที่ปลูกทั้งประเทศเพิ่มขึ้น 80% นายอัทธ์ พิศาลวานิช นักวิชาการอิสระและผู้เชี่ยวชาญเศรษฐกิจระหว่างประเทศ นายอัทธ์ พิศาลวานิช นักวิชาการอิสระและผู้เชี่ยวชาญเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ผู้เชี่ยวชาญเศรษฐกิจระหว่างประเทศ วิเคราะห์ว่า ปัจจุบันการนำทุเรียนจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามา เพื่อส่งออกไปจำหน่ายในตลาดต่างประเทศยังมีปริมาณที่น้อย แต่อนาคตมีความเป็นไปได้สูง หากไทยผลิตทุเรียนได้น้อยลง โดยปีนี้ทุเรียนไทยมีผลผลิตหายไปถึง 40% และหากปี 2568 ประเทศไทยยังไม่สามารถบริหารจัดการปัญหาดังกล่าวได้ ทุเรียนไทยอาจจะหายไปจากตลาดถึง 50% และเป็นไปได้สูงที่จะมีการนำเข้าทุเรียนเวียดนามเพื่อส่งออกและบริโภคในประเทศมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ในปี 2567 ยังไม่มีตัวเลขชัดเจนจากไทยว่า มีการนำเข้าทุเรียนมาปริมาณเท่าใด แต่กระทรวงเกษตรและการพัฒนาชนบทเวียดนามระบุว่า เวียดนามส่งออกทุเรียนมาไทยช่วงเดือนม.ค.-เม.ย.มูลค่า 800 ล้านบาท โดยทุเรียนเวียดนาม เรียกว่า RI6 ซึ่งเป็นทุเรียนพันธุ์ หมอนทอง ปลูกมากในภาคใต้ของเวียดนาม ส่วนทุเรียนของกัมพูชา ยังไม่มีทะลักเข้ามาไทยเพราะยังมีปริมาณที่น้อยน่าจะขายภายในประเทศเท่านั้น แต่ที่น่ากังวล คือ ทุเรียนจากเวียดนามที่มีปริมาณเพิ่มขึ้นทุกปี เพราะมีระบบน้ำที่ดีซึ่งในอนาคตโอกาสที่ทุเรียนเวียดนามจะนำเข้ามาเพิ่มขึ้นมีสูง นายอัทธ์ กล่าวว่า ปัญหาการลักลอบนำเข้าทุเรียน หน่วยงานรัฐ โดยเฉพาะด่านชายแดนต่างๆต้องเข้มงวดและดำเนินการอย่างจริงจังเพื่อป้องกันการลักลอบ เพราะหากหลุดจากด่านชายแดนเข้ามา ก็จะส่งผลกระทบต่อทุเรียนภาคตะวันออกทันที โดยที่ผู้บริโภคไม่สามารถแยกประเภททุเรียนออกได้ว่าเป็นของไทยหรือเพื่อนบ้าน สำหรับทุเรียนภาคตะวันออกปลูกมากใน 3 จังหวัด คือ จันทบุรี ระยอง ตราด จำนวน 54 % ของพื้นที่เพาะปลูกทั้งหมด รองลงมาเป็นทุเรียนในภาคใต้ 40% ภาคเหนือ 4 % และภาคอีสาน 2% โดยมูลค่าการส่งออกทุเรียนคิดเป็นสัดส่วน 25% ของมูลการค่าส่งออกรวมของพืชส่งออกหลัก 4 ชนิด อย่างไรก็ตาม ด้วยสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจากปัญหาภัยแล้งที่รุนแรงเพิ่มขึ้น หากไม่มีการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม คาดว่าในอีก 5 ปีข้างหน้า ผลผลิตทุเรียนไทยจะลดลง 53% ทั้งจากสวนทุเรียนที่ให้ผลผลิตแล้วและผลผลิตใหม่ มีการคาดการณ์ว่า หากในปี 2568 หากไทยต้องเผชิญปัญหาภัยแล้งอีกระลอกจะกระทบต่อผลผลิตของทุเรียนในตลาด ซึ่งจะหายไปจำนวน 6.4 แสนตัน หรือทำให้ผลผลิตทุเรียนลดลง 42% หรือจำนวน 540,000 ตัน ซึ่งปัญหาดังกล่าว ถือเป็นวาระแห่งชาติเร่งด่วนที่ประเทศไทยต้องเร่งแก้ไข โดยเฉพาะการบริหารจัดการน้ำให้กับชาวสวนทุเรียนและพืชผลเกษตรอื่นๆ เพื่อให้มีน้ำพอใช้ ไม่เช่นนั้นผลกระทบใหญ่หลวงต่อการผลิต รายได้ของเกษตรกร และราคาสินค้าที่แพงขึ้น นายอัทธ์ บอกว่า ในอนาคตทุเรียนเวียดนามจะเป็นคู่แข่งสำคัญของไทย คาดว่าในอีก 3 ปีข้างหน้า ทุเรียนเวียดนามจะมีผลผลิตใกล้เคียงกับทุเรียนไทย ซึ่งชาวสวนทุเรียนต้องหันมาเน้นคุณภาพและมาตรฐานเข้าสู้ โดยช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ทุเรียนเวียดนามมีผลผลิตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสภาพภูมิประเทศสามารถปลุกทุเรียนได้ทั้งปี และมีปริมาณน้ำเพียงพอ โดยในปี 2566 ทุเรียนเวียดนามเพิ่มขึ้น 200% และมีปริมาณการผลิตสูงถึง800,000 ตัน เพิ่มจาก 270,000 แสนตัน และในปี 2557 มีพื้นที่ปลูกเกือบ 7 แสนไร่ จาก 680,000 แสนไร่ โดยพบว่าไตรมาส1ปีนี้ เวียดนามส่งออกทุเรียนไปจีนเพิ่มขึ้น 105 % หรือ 36,800 ตัน ส่วนไทยส่งออกในช่วงเวลาเดียวกันเพียง 17,900 ตัน และคาดว่าทั้งปี เวียดนามสามารถส่งออกทุเรียนไปจีนอยู่ที่ 800,000 ตัน ในขณะที่ไทยส่งออกอยู่ที่ 1,100,000-1,200,000ตัน ห่างกันกว่า 400,000 แสนตัน อย่างไรก็ตามยังไม่รวมทุเรียน มูซางคิง ทุเรียนพันธุ์มาเลเซีย ที่ได้รับรางวัลจากการผสมผสานรสชาติขมและหวานที่ไม่ธรรมดา และยังได้รับความนิยมมากที่สุดทั้งในมาเลเซียและสิงคโปร์ ซึ่งเป็นที่รู้จักในชื่อเหมาซานหวาง และมีราคาสูงกว่าพันธุ์อื่นๆ นอกจากนี้ยังได้รับความนิยมมากขึ้นในจีน ซึ่งถือว่าเป็นคู่แข่งของทุเรียนไทยอีกสายพันธุ์หนึ่งแม้ว่าจะยังไม่หลากหลายแต่หากอนาคตไทยยังไม่เร่งพัฒนาคุณภาพทุเรียนให้โดดเด่นกว่าคู่แข่งอาจจะถูกทุเรียนสายพันธุ์เพื่อนบ้านยแย่งตลาดจีนไปแน่นอน ยังไม่รวมถึงจีนที่เริ่มมีการปลูกทุเรียนและพัฒนาสายพันธุ์ให้ใกล้เคียงกับทุเรียนไทยอีกด้วย ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า ระหว่างปี 2565 – 2567 มีจำนวนล้งจีนเพิ่มขึ้น 665 ราย ในขณะที่ล้งไทยปิดตัวจาก 25 ราย เหลือ 10 ราย และในอนาคตคาดว่า ล้งไทยจะปิดตัวเพิ่มขึ้น เหลือไม่ เกิน 5 ราย ทีมข่าวไทยพีบีเอสออนไลน์ ลงพื้นที่จ.จันทบุรี พบว่า มีกลุ่มทุนจีนเข้ามาก่อสร้างอาคารเพื่อใช้สำหรับรับซื้อทุเรียนผุดขึ้นหลายแห่งในพื้นที่จันทบุรี จากการการตรวจสอบพบว่าล้ง ที่ผ่านมาตรฐาน GMP จำนวน 827 ล้ง โดยกระทรวงพาณิชย์ได้ออกมาตรการบริหารจัดการผลไม้ ปี 2567 ในการทำผลไม้คุณภาพและหาตลาดทั้งในและต่างประเทศ เพื่อระบายผลผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน จากการสอบถามเจ้าของสวนทุเรียนในพื้นที่ ให้ข้อมูลว่า ล้งที่เข้ามารับซื้อทุเรียนในพื้นที่ภาคตะวันออก 3 จังหวัด คือ ระยอง ตราด และ จันทบุรีมีประมาณ 1,200 ล้ง เพิ่มขึ้นจาก ปี 2566 ที่เดิมมีเพียง 700 ล้ง ส่วนล้งที่เหลือเป็นล้งไทยร้อยละ 100 มีเพียงร้อยละ 10 เท่านั้น ที่เหลือเป็นล้งร่วมทุน ระหว่าง คนไทยกับคนจีน สัดส่วน 51-49 ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า ในช่วง 4 เดือนของปี 2567 (ม.ค.-เม.ย.) ไทยส่งออกทุเรียนสดไปจีน มีปริมาณ 225,204 ตัน มีแนวโน้มว่าเดือน พ.ค. 2567 จะส่งออกได้เพิ่มมากขึ้น เพราะเป็นช่วงที่ผลผลิตทุเรียนของไทยออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก และมีผลผลิตส่งออกเพิ่มขึ้น เมื่อสิ้นสุดฤดูของทุเรียนภาคตะวันออก ก็จะเข้าสู่โหมด “ทุเรียนภาคใต้” จึงทำให้ไทยมีผลผลิตส่งออกอย่างต่อเนื่อง และจะส่งผลให้ปีนี้ไทยยังคงครองแชมป์การส่งออกทุเรียนสดไปยังจีนได้เหมือนเดิม นายวิทยากร มณีเนตร โฆษกกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ปีนี้ผลผลิตทุเรียนภาคตะวันออกของไทย ออกสู่ตลาดล่าช้ากว่าปีที่แล้ว ทำให้ผลผลิตมีน้อยกว่าความต้องการ แต่ราคาทุเรียนสดต่อหน่วยของไทยในปี 2567 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา พบว่าปรับตัวสูงขึ้น ราคาส่งออกเฉลี่ยกิโลกรัมละ 6 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 216 บาท/กก. เนื่องจากความต้องการบริโภคในตลาดจีนเพิ่มขึ้น ข้อมูลของ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) ระบุว่า จากปัจจัยด้านราคาและผลตอบแทนที่จูงใจต่อการลงทุน รวมทั้งความต้องการของตลาดในและต่างประเทศที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และต้นทุเรียนที่ปลูกในระยะหลายปีที่ผ่านมา เริ่มให้ผลผลิตเป็นครั้งแรกในปี 2567 เพิ่มขึ้น จำนวน 38,849 ไร่ ผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่ 1,843 กิโลกรัม ลดลงจากปี 2566 ที่มีผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่ 1,991 กิโลกรัม ลดลง 148 กิโลกรัม คิดเป็นร้อยละ 7.43 แต่เนื่องจากสภาพอากาศแปรปรวนจากปรากฏการณ์เอลนีโญ ทำให้การออกดอกติดผลไม่เต็มต้น น้ำหนักเฉลี่ยต่อลูกลดลง ประกอบกับมีต้นทุเรียนที่เริ่มให้ผลผลิต ปี 2567 เมื่อคำนวณโดยค่าเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักจึงทำให้ผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่ลดลง ผลผลิตรวม 782,874 ตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ที่มีจำนวน 776,914 ตัน เพิ่มขึ้น 5,960 ตัน คิดเป็นร้อยละ 0.77 สำหรับการกระจายตัวของผลผลิตทุเรียน เริ่มทยอยออกสู่ตลาดตั้งแต่ม.ค.ถึงก.ค.2567 โดยจะออกสู่ตลาดกระจุกตัวมากที่สุดในเดือนพ.ค. 2567 คิดเป็นร้อยละ 53.20 ของผลผลิตทั้งหมด โดยขณะนี้ทุเรียนภาคตะวันออกผลผลิตออกไปเกือบ 100% และในช่วงกลางเดือนมิ.ย.นี้ จะเป็นฤดูกาลแรกของทุเรียนภาคใต้ จะทำให้ตลาดทุเรียนไทยกลับคึกคักเหมือนเดิม แม้ทุเรียนไทยจะมีคู่แข่งรอบด้าน จากเวียดนาม -จีน แต่ด้วยรสชาติโดดเด่น หอมหวาน นุ่มนวลและอัดแน่นด้วยคุณภาพ เชื่อว่า ทุเรียนไทยยังคงยืนหนึ่งสู้ศึกรอบด้านได้ แม้จะต้องปรับตัวรับสภาพภูมิอากาศที่แปรปรวนไปอย่างรวดเร็ว อ่านข่าว: ทวงแชมป์ "ทุเรียนไทย" ส่งออกตลาดจีน 4 เดือน พุ่ง 2.25 แสนตัน เปิดใจ "แสงชัย" ค่าแรง 400 บาท อย่ากระชากแรงจน SMEs ล้มตาย กวก.เดินหน้าปั้นทุเรียนใต้คุณภาพ ตั้งเป้าส่งออก 1.3 แสนล้านบาท
ศึกชิงความเป็นหนึ่งในตลาดทุเรียน กำลังต่อสู้กันอย่างเข้มข้น ในทุกปีตั้งแต่ช่วงเดือนมี.ค. – ต.ค. ยิ่ง
สิ่งอำนวยความสะดวก
การตกแต่ง
เครื่องปรับอากาศ
ชั้นบน
เตาอบ/ไมโครเวฟ
ความสะดวกโดยรอบ
กล้องวงจรปิด
เครืองปรับอากาศ
โถงรอลิฟท์ร้านอาหาร
ทางเข้าหลัก
ยอดสินเชื่อโดยประมาณ
รายละเอียดสินเชื่อ
ยอดสินเชื่อที่ต้องชำระต่อเดือนโดยประมาณ
฿ 0 / เดือน
฿ 0 เงินต้น
฿ 0 ดอกเบี้ย
ค่าใช้จ่ายที่อาจต้องมีเบื้องต้น
เงินดาวน์ทั้งหมด
฿ 0
เงินดาวน์
จำนวนสินเชื่อ ฿ 0 ในอัตรา 0% ของสินเชื่อต่อราคาบ้าน (Loan-to-value)
วันนี้ (1 เม.ย.2567) เภสัชกรเลิศชาย เลิศวุฒิ รองเล

วันนี้ (16 ก.พ.2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มที่เรียกตัวเองว่า เครือข่ายปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ รวมตัวกันที่หน้ารัฐสภา เพื่อยื่นหนังสือถึงประธานรัฐสภา และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ปฏิบัติหน้าที่อย่างต
ดูรายละเอียดโครงการคำถามที่พบบ่อย
วันนี้ (9 ม.ค.2567) นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวถึงประเด็
วันนี้ (19 เม.ย.2564) น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ เรียกประชุมคณะผู้บริหาร รวมทั้ง สำนักงานคณะ
วันนี้ (10 เม.ย.2566) นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง เป็นประธานเปิดงานสัมมนา เสริมสร้
วันนี้ (5 ม.ค.2565) สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า แคเธอรีน สมอลล์วูด เจ้าหน้าที่ฉุกเฉินระดับสูงขององค์กา
วันนี้ (22 ธ.ค.2565) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ผู้ว่าราชการจังหว
ค้นหาประกาศอื่นรอบๆ ทุ่งพญาไท
จากสิ่งที่คุณค้นหา คุณอาจจะสนใจตัวเลือกต่อไปนี้
เซียน สกอร์ สูง
slotxo 688เข้า เว็บ slotxo