Home
|
BD88

วันนี้ (7 พ.ค.2564) นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่ารา

BD88

เป้าหมายแรกที่ มัสก์ ต้องการทำให้สำเร็จคือ การทำให้ผู้ป่วยที่เป็นอัมพาต สามารถกลับมาเคลื่อนไหวร่างกายและสื่อสารได้อีกครั้งรวมถึงฟื้นฟูการมองเห็นด้วย อาจดูเป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อ แต่หลายๆ โครงการที่ผ่า

วันนี้ (14 พ.ค.2566) ผู้รับจ้างเก็บป้ายจากพรรคการเมืองหนึ่ง​ ทยอยเก็บป้ายหาเสียงของผู้สมัคร​ ส.ส.​ และป้ายพรรคการเมือง​ ​บน ถ.จรัญ​สนิทวงศ์​ เขตบางพลัด​ และ เขตบางกอกน้อย​ นายฉัตรชัย​ กลิ่นจำปี​ อาชีพ

วันที่ 2-4 มี.ค.2568 ที่ผ่านมา มีการจัดงาน KICK OFF เปิดตัวภาคีอาสา (Area Strengthening Alliance - ASA) หรือ “ภาคีสานพลังพื้นที่เข้มแข็ง” ขึ้นเพื่อสานพลังพื้นที่เข้มแข็ง สร้างความเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน โดยมีผู้บริหารหน่วยงานยุทธศาสตร์ระดับประเทศเข้าร่วมประกาศเจตนารมณ์ด้วย 7 หน่วยงาน คือ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) นับเป็นครั้งแรกที่มีการบูรณาการการทำงานของทั้ง 7 หน่วยงาน ในพื้นที่เป้าหมาย 5 จังหวัดนำร่อง คือ ขอนแก่น นครสวรรค์ ตราด พัทลุง และเชียงราย เพื่อสร้างจังหวัดเข้มแข็ง ไม่ทำงานซ้ำซ้อน และใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ ก่อนจะขยายการทำงานไปทั่วประเทศ ภายใต้แนวคิดภาคีอาสานี้ ไม่ใช่การสร้างงานใหม่ แต่เป็นการบูรณาการงานที่มีอยู่เดิมให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยก้าวข้ามพรมแดนระหว่างองค์กร ที่เคยเป็นอุปสรรค สู่การสร้างชุมชนที่เข้มแข็งและยั่งยืนร่วมกัน การประชุมระดมความเห็นจากภาคี 7 หน่วยงาน ด้านยุทธศาสตร์ขบวนการประชาสังคมและแผนการทำงานของภาคีหลายครั้ง มีมติให้จัดตั้ง “ภาคีสานพลังพื้นที่เข้มแข็ง” (ภสพ.) ขึ้น โดยมี ศ.ดร.บรรเจิด สิงคะเนติ เป็นประธาน และมี นพ.ปรีดา แต้อารักษ์ เป็นหัวหน้าคณะผู้ทำงานภาคีอาสา เพื่อทำงาน “สร้างจังหวัดเข้มแข็งโดยใช้พื้นที่เป็นฐานและบูรณาการทุกภาคส่วน” ซึ่งเป็นเป้าหมายใหญ่เป้าหมายเดียวกันของขบวนการประชาสังคม เพื่อสถาปนาอำนาจประชาชน โดยสร้างประชาธิปไตยจากฐานรากตามวิถีประชาธิปไตย ผลักดันการกระจายอำนาจให้ประชาชนจัดการตนเอง ในระดับจังหวัดและพื้นที่ โดยมีแผนงานกันทั้งระยะยาวและแผนระยะสั้นรายปี เพื่อสร้างจังหวัดเข้มแข็ง โดยใช้พื้นที่เป็นฐานและบูรณาการทุกภาคส่วนอย่างแท้จริง ความหมายของจังหวัดเข้มแข็ง คือพื้นที่ที่มีพลังในการขับเคลื่อนตนเองได้ ด้วยการรวมพลังทุกภาคส่วน ใช้ข้อมูลนำการตัดสินใจ มีพื้นที่กลางและกลไกแก้ปัญหาที่คล่องตัว สามารถจัดการทรัพยากรของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ กลายเป็นฐานรากประชาธิปไตยของสังคมที่เข้มแข็ง และมีขีดความสามารถรองรับกับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นหรืออุบัติใหม่ในอนาคต การสร้างชุมชนเข้มแข็งและกลไก “พื้นที่กลาง” ระดับจังหวัด จะเป็นจุดคานงัดประเทศไทยที่สำคัญกับระบอบอำนาจนิยมรวมศูนย์ในอดีต ที่เกิดปัญหาชนชั้นนำ มักเข้าครอบงำรัฐและทุนเพื่อยึดอำนาจในการจัดการทรัพยากร เพื่อผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและการเมืองมาโดยตลอดในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย ชุมชนเข้มแข็งและพื้นที่กลาง จะเป็นการสร้างสะพานประชาธิปไตยจากฐานรากเพื่อความยั่งยืนของประเทศไทยอย่างแท้จริง และมีเสถียรภาพมากขึ้น สอดคล้องกับการกระจายอำนาจในศตวรรษใหม่ ซึ่งจังหวัดที่เข้มแข็งจะสามารถวิเคราะห์และตัดสินใจแก้ไขปัญหาได้เอง โดยไม่ต้องรอการสั่งการจากส่วนกลาง สามารถระดมทรัพยากรทั้งภาครัฐ ท้องถิ่น เอกชน และภาคประชาสังคมมาใช้ร่วมกันอย่างบูรณาการ สร้างนวัตกรรมการจัดการปัญหาที่เหมาะสมกับบริบทของพื้นที่ และพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง ความยั่งยืนในการบูรณาการครั้งนี้ เชื่อว่าจะเกิดความเข้มแข็งของฐานรากชุมชนขึ้นทั่วประเทศ กลไกพื้นที่กลาง และรูปแบบการจัดการรูปธรรมในพื้นที่ จะสามารถกำหนดความยั่งยืนในระยะยาBD88ว สามารถสร้างประชาธิปไตยที่มีฐานรากแข็งแรง และประชาชนในพื้นที่มีอำนาจในการจัดการตนเอง ทั้งทางวัฒนธรรมและกฎหมาย เกิดความเข้มแข็งของประชาชนในทุกพื้นที่ และมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในระดับชาติ นำไปสู่รากฐานของประชาธิปไตยที่เข้มแข็งและประเทศที่มั่งคงมีเสถียรภาพ ในภูมิรัฐศาสตร์โลกใหม่ที่เปลี่ยนแปลง เรียบเรียง : เมธา มาสขาว ผู้อำนวยการสถาบันสังคมประชาธิปไตย อ่านข่าว : กมธ.เชิญ 3 หน่วยงานแจง สปส.ยันประกันสังคมสิทธิไม่ด้อยกว่าบัตรทอง สบส.ชี้เข้าข่ายหมอเถื่อน กลุ่มคลื่นพลังบุญอวดอ้างอิทธิฤทธิ์รักษาโรค "อนุทิน" เผยหารือราบรื่น เร่งทำ MOU ลดขั้นตอน ส่งแรงงานไทยไปอิสราเอล

กรณีตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี บุกเข้าตรวจค้นจับกุมกลุ่มผู้ต้องหา 10 คน เครือข่ายน.ส.ธัน

ทีมแพทย์จากโรงพยาบาล Ysbyty Gwynedd ในประเทศเวลส์ ได้เพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาคนไข้ โดยได้นำแขนกลหุ

วันที่ 2-4 มี.ค.2568 ที่ผ่านมา มีการจัดงาน KICK OFF เปิดตัวภาคีอาสา (Area Strengthening Alliance - A

วันที่ 2-4 มี.ค.2568 ที่ผ่านมา มีการจัดงาน KICK OFF เปิดตัวภาคีอาสา (Area Strengthening Alliance - ASA) หรือ “ภาคีสานพลังพื้นที่เข้มแข็ง” ขึ้นเพื่อสานพลังพื้นที่เข้มแข็ง สร้างความเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน โดยมีผู้บริหารหน่วยงานยุทธศาสตร์ระดับประเทศเข้าร่วมประกาศเจตนารมณ์ด้วย 7 หน่วยงาน คือ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) นับเป็นครั้งแรกที่มีการบูรณาการการทำงานของทั้ง 7 หน่วยงาน ในพื้นที่เป้าหมาย 5 จังหวัดนำร่อง คือ ขอนแก่น นครสวรรค์ ตราด พัทลุง และเชียงราย เพื่อสร้างจังหวัดเข้มแข็ง ไม่ทำงานซ้ำซ้อน และใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ ก่อนจะขยายการทำงานไปทั่วประเทศ ภายใต้แนวคิดภาคีอาสานี้ ไม่ใช่การสร้างงานใหม่ แต่เป็นการบูรณาการงานที่มีอยู่เดิมให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยก้าวข้ามพรมแดนระหว่างองค์กร ที่เคยเป็นอุปสรรค สู่การสร้างชุมชนที่เข้มแข็งและยั่งยืนร่วมกัน การประชุมระดมความเห็นจากภาคี 7 หน่วยงาน ด้านยุทธศาสตร์ขบวนการประชาสังคมและแผนการทำงานของภาคีหลายครั้ง มีมติให้จัดตั้ง “ภาคีสานพลังพื้นที่เข้มแข็ง” (ภสพ.) ขึ้น โดยมี ศ.ดร.บรรเจิด สิงคะเนติ เป็นประธาน และมี นพ.ปรีดา แต้อารักษ์ เป็นหัวหน้าคณะผู้ทำงานภาคีอาสา เพื่อทำงาน “สร้างจังหวัดเข้มแข็งโดยใช้พื้นที่เป็นฐานและบูรณาการทุกภาคส่วน” ซึ่งเป็นเป้าหมายใหญ่เป้าหมายเดียวกันของขบวนการประชาสังคม เพื่อสถาปนาอำนาจประชาชน โดยสร้างประชาธิปไตยจากฐานรากตามวิถีประชาธิปไตย ผลักดันการกระจายอำนาจให้ประชาชนจัดการตนเอง ในระดับจังหวัดและพื้นที่ โดยมีแผนงานกันทั้งระยะยาวและแผนระยะสั้นรายปี เพื่อสร้างจังหวัดเข้มแข็ง โดยใช้พื้นที่เป็นฐานและบูรณาการทุกภาคส่วนอย่างแท้จริง ความหมายของจังหวัดเข้มแข็ง คือพื้นที่ที่มีพลังในการขับเคลื่อนตนเองได้ ด้วยการรวมพลังทุกภาคส่วน ใช้ข้อมูลนำการตัดสินใจ มีพื้นที่กลางและกลไกแก้ปัญหาที่คล่องตัว สามารถจัดการทรัพยากรของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ กลายเป็นฐานรากประชาธิปไตยของสังคมที่เข้มแข็ง และมีขีดความสามารถรองรับกับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นหรืออุบัติใหม่ในอนาคต การสร้างชุมชนเข้มแข็งและกลไก “พื้นที่กลาง” ระดับจังหวัด จะเป็นจุดคานงัดประเทศไทยที่สำคัญกับระบอบอำนาจนิยมรวมศูนย์ในอดีต ที่เกิดปัญหาชนชั้นนำ มักเข้าครอบงำรัฐและทุนเพื่อยึดอำนาจในการจัดการทรัพยากร เพื่อผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและการเมืองมาโดยตลอดในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย ชุมชนเข้มแข็งและพื้นที่กลาง จะเป็นการสร้างสะพานประชาธิปไตยจากฐานรากเพื่อความยั่งยืนของประเทศไทยอย่างแท้จริง และมีเสถียรภาพมากขึ้น สอดคล้องกับการกระจายอำนาจในศตวรรษใหม่ ซึ่งจังหวัดที่เข้มแข็งจะสามารถวิเคราะห์และตัดสินใจแก้ไขปัญหาได้เอง โดยไม่ต้องรอการสั่งการจากส่วนกลาง สามารถระดมทรัพยากรทั้งภาครัฐ ท้องถิ่น เอกชน และภาคประชาสังคมมาใช้ร่วมกันอย่างบูรณาการ สร้างนวัตกรรมการจัดการปัญหาที่เหมาะสมกับบริบทของพื้นที่ และพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง ความยั่งยืนในการบูรณาการครั้งนี้ เชื่อว่าจะเกิดความเข้มแข็งของฐานรากชุมชนขึ้นทั่วประเทศ กลไกพื้นที่กลาง และรูปแบบการจัดการรูปธรรมในพื้นที่ จะสามารถกำหนดความยั่งยืนในระยะยาBD88ว สามารถสร้างประชาธิปไตยที่มีฐานรากแข็งแรง และประชาชนในพื้นที่มีอำนาจในการจัดการตนเอง ทั้งทางวัฒนธรรมและกฎหมาย เกิดความเข้มแข็งของประชาชนในทุกพื้นที่ และมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในระดับชาติ นำไปสู่รากฐานของประชาธิปไตยที่เข้มแข็งและประเทศที่มั่งคงมีเสถียรภาพ ในภูมิรัฐศาสตร์โลกใหม่ที่เปลี่ยนแปลง เรียบเรียง : เมธา มาสขาว ผู้อำนวยการสถาบันสังคมประชาธิปไตย อ่านข่าว : กมธ.เชิญ 3 หน่วยงานแจง สปส.ยันประกันสังคมสิทธิไม่ด้อยกว่าบัตรทอง สบส.ชี้เข้าข่ายหมอเถื่อน กลุ่มคลื่นพลังบุญอวดอ้างอิทธิฤทธิ์รักษาโรค "อนุทิน" เผยหารือราบรื่น เร่งทำ MOU ลดขั้นตอน ส่งแรงงานไทยไปอิสราเอล

พื้นที่หน้าโรงแรมปรับเป็นหน้าร้านขายก๋วยเตี๋ยวเรือ รวมทั้ง ผู้บริหาร เเละ พนักงานในโรงเเรม ทั้งฝ่ายอ