วันนี้ (28 ก.พ.2568) ด.ญ.แพรไหม อายุ 14 ปี ป่วยเป็

(15 ก.ค.2566) พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เผยแพร่คลิปวิดีโอทางโซเชียลมีเดีย โดยกล่าวขอบคุณสมาชิกรัฐสภา 324 เสียง โดยเฉพาะ ส.ว. 13 ท่าน ที่โหวตเห็นชอบให้ตน เป็นนายกรัฐมน
กรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ออกมาตรการจ่ายเงินเยียวยา COVID-19 สำหรับผู้ประกันตน มาตรา 33 ,39 และ 40 ในระบบประกันสังคมใน 9 ประเภทอาชีพและกิจการในพื้นที่ 29 จังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด โดยม.33 จ
(15 ก.ค.2566) พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เผยแพร่คลิปวิดีโอทางโซเชียลมีเดีย โดยกล่าวขอบคุณสมาชิกรัฐสภา 324 เสียง โดยเฉพาะ ส.ว. 13 ท่าน ที่โหวตเห็นชอบให้ตน เป็นนายกรัฐมนตรี โดยตนทราบดีว่า ส.ว. หลายท่านเผชิญแรงกดดันมากมาย ที่รุนแรงหนักหนาจากการตัดสินใจครั้งนี้ ที่สำคัญที่สุด ตนขอขอบคุณทุกแรงใจ แรงสนับสนุนจากประชาชนทุกคน แต่ต้องขออภัยทุกท่านที่เรายังทำไม่สำเร็จ อ่านข่าว : "ชัยธวัช" ย้ำ 8 พรรคจับมือแน่น พท. ไม่ขัดข้องแก้ ม.272 นายพิธากล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ในฐานะพรรคการเมืองที่ได้รับเสียงอันดับหนึ่งในการเลือกตั้ง พรรคก้าวไกลมีภารกิจที่ต้องรับผิดชอบต่อประชาชน คือจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ วันนี้เราพยายามทำทุกวิถีทางตามครรลองประชาธิปไตย เพื่อให้เสียงของประชาชนได้รับการตอบสนอง เจตนารมณ์ของประชาชนได้รับการเคารพ นี่คือการต่อสู้ร่วมกันไม่ใช่แค่ของพรรคก้าวไกลและ 14ตรวจ สลากกินแบ่ง รัฐบาล วัน ที่ 1 ธันวาคมตรวจ สลากกินแบ่ง วัน ที่ 1 มีนาคม 2564 ล้านเสียงที่เลือกพรรคก้าวไกล ไม่ใช่แค่การต่อสู้ของ 8 พรรค ตัวแทน 27 ล้านเสียง แต่คือการต่อสู้ของคนไทยทั้งประเทศ เพื่อยืนยันว่าเสียงของประชาชนต้องเป็นเสียงที่กำหนดอนาคตของประเทศนี้ สมรภูมิที่หนึ่ง ที่จะเกิดขึ้นในอีก 4 วันข้างหน้า คือการโหวตนายกรัฐมนตรีในวันที่ 19 ก.ค.2566 และสมรภูมิที่สอง ก็คือการยื่นเสนอแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 272 เพื่อตัดอำนาจ ส.ว. ในการเลือกนายกฯ ถาวรตลอดกาล ทั้งสองสมรภูมิจะไม่มีวันชนะได้ หากเราไม่สามารถเปลี่ยนใจ ส.ว. ให้อยู่ข้างประชาชน โดยหัวหน้าพรรคก้าวไกล ยังกล่าวว่าหากพวกเราทำเต็มที่ใน 2 สมรภูมินี้แล้วเป็นที่ชัดเจนว่าพรรคก้าวไกลไม่มีโอกาสเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้จริงๆ ตนพร้อมเปิดโอกาสให้ประเทศไทย โดยเปิดทางให้พรรคอันดับสอง คือพรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลของพรรคร่วมรัฐบาล 8 พรรค ภายใต้ MOU ที่ทำร่วมกันไว้ และผู้แทนราษฎรพรรคก้าวไกลทุกคนพร้อมสนับสนุนแคนดิเดตนายกของพรรคเพื่อไทย อย่างไรก็ตาม หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวทิ้งท้ายในคลิปวิดีโอว่า “แต่กว่าจะถึงวันนั้น เราไม่ยอมแพ้แน่นอน และขอทุกคนมาร่วมกันต่อสู้เพื่อให้ได้จนถึงที่สุด ผมคนเดียวหรือพรรคก้าวไกลเพียงพรรคเดียวไม่อาจเปลี่ยนใจ ส.ว. และนำไปสู่การจัดตั้งรัฐบาลของประชาชนได้จริง จึงต้องขอแรงพลังจากทุกท่านร่วมทำภารกิจเพื่อให้เราสามารถจัดตั้งรัฐบาลของประชาชนให้สำเร็จ อนาคตของพรรคก้าวไกลในการจัดตั้งรัฐบาลอยู่ในมือของพวกท่านทุกคนแล้ว มาช่วยกันส่งสารเพื่อเปลี่ยนใจ ส.ว. ด้วยกัน ขอบคุณครับ” ข่าวที่เกี่ยวข้อง : "ประเสริฐ" ชี้เพื่อไทยรอข้อสรุป ถกปมญัตติเสนอชื่อ "พิธา" รอบ 2 "เสรีพิศุทธ์" มั่นใจชง "พิธา" รอบ 2 ติงก้าวไกลฟังด้อมส้มมากไป
วันนี้ (2 ธ.ค.2565) นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เข้าทำเนียบรัฐบาล ทำงานเป็นวั
เตือนปชช.ใต้อ่างเก็บน้ำระวังน้ำท่วมฉับพลัน หลายจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเตือนประชาชนที่อยู่ด้าน
รายงานฉบับใหม่เรื่อง "ตลาดยาเสพติดชนิดสังเคราะห์ในเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ : การพัฒนา
(15 ก.ค.2566) พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เผยแพร่คลิปวิดีโอทางโซเชียลมีเดีย โดยกล่าวขอบคุณสมาชิกรัฐสภา 324 เสียง โดยเฉพาะ ส.ว. 13 ท่าน ที่โหวตเห็นชอบให้ตน เป็นนายกรัฐมนตรี โดยตนทราบดีว่า ส.ว. หลายท่านเผชิญแรงกดดันมากมาย ที่รุนแรงหนักหนาจากการตัดสินใจครั้งนี้ ที่สำคัญที่สุด ตนขอขอบคุณทุกแรงใจ แรงสนับสนุนจากประชาชนทุกคน แต่ต้องขออภัยทุกท่านที่เรายังทำไม่สำเร็จ อ่านข่าว : "ชัยธวัช" ย้ำ 8 พรรคจับมือแน่น พท. ไม่ขัดข้องแก้ ม.272 นายพิธากล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ในฐานะพรรคการเมืองที่ได้รับเสียงอันดับหนึ่งในการเลือกตั้ง พรรคก้าวไกลมีภารกิจที่ต้องรับผิดชอบต่อประชาชน คือจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ วันนี้เราพยายามทำทุกวิถีทางตามครรลองประชาธิปไตย เพื่อให้เสียงของประชาชนได้รับการตอบสนอง เจตนารมณ์ของประชาชนได้รับการเคารพ นี่คือการต่อสู้ร่วมกันไม่ใช่แค่ของพรรคก้าวไกลและ 14ตรวจ สลากกินแบ่ง รัฐบาล วัน ที่ 1 ธันวาคมตรวจ สลากกินแบ่ง วัน ที่ 1 มีนาคม 2564 ล้านเสียงที่เลือกพรรคก้าวไกล ไม่ใช่แค่การต่อสู้ของ 8 พรรค ตัวแทน 27 ล้านเสียง แต่คือการต่อสู้ของคนไทยทั้งประเทศ เพื่อยืนยันว่าเสียงของประชาชนต้องเป็นเสียงที่กำหนดอนาคตของประเทศนี้ สมรภูมิที่หนึ่ง ที่จะเกิดขึ้นในอีก 4 วันข้างหน้า คือการโหวตนายกรัฐมนตรีในวันที่ 19 ก.ค.2566 และสมรภูมิที่สอง ก็คือการยื่นเสนอแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 272 เพื่อตัดอำนาจ ส.ว. ในการเลือกนายกฯ ถาวรตลอดกาล ทั้งสองสมรภูมิจะไม่มีวันชนะได้ หากเราไม่สามารถเปลี่ยนใจ ส.ว. ให้อยู่ข้างประชาชน โดยหัวหน้าพรรคก้าวไกล ยังกล่าวว่าหากพวกเราทำเต็มที่ใน 2 สมรภูมินี้แล้วเป็นที่ชัดเจนว่าพรรคก้าวไกลไม่มีโอกาสเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้จริงๆ ตนพร้อมเปิดโอกาสให้ประเทศไทย โดยเปิดทางให้พรรคอันดับสอง คือพรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลของพรรคร่วมรัฐบาล 8 พรรค ภายใต้ MOU ที่ทำร่วมกันไว้ และผู้แทนราษฎรพรรคก้าวไกลทุกคนพร้อมสนับสนุนแคนดิเดตนายกของพรรคเพื่อไทย อย่างไรก็ตาม หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวทิ้งท้ายในคลิปวิดีโอว่า “แต่กว่าจะถึงวันนั้น เราไม่ยอมแพ้แน่นอน และขอทุกคนมาร่วมกันต่อสู้เพื่อให้ได้จนถึงที่สุด ผมคนเดียวหรือพรรคก้าวไกลเพียงพรรคเดียวไม่อาจเปลี่ยนใจ ส.ว. และนำไปสู่การจัดตั้งรัฐบาลของประชาชนได้จริง จึงต้องขอแรงพลังจากทุกท่านร่วมทำภารกิจเพื่อให้เราสามารถจัดตั้งรัฐบาลของประชาชนให้สำเร็จ อนาคตของพรรคก้าวไกลในการจัดตั้งรัฐบาลอยู่ในมือของพวกท่านทุกคนแล้ว มาช่วยกันส่งสารเพื่อเปลี่ยนใจ ส.ว. ด้วยกัน ขอบคุณครับ” ข่าวที่เกี่ยวข้อง : "ประเสริฐ" ชี้เพื่อไทยรอข้อสรุป ถกปมญัตติเสนอชื่อ "พิธา" รอบ 2 "เสรีพิศุทธ์" มั่นใจชง "พิธา" รอบ 2 ติงก้าวไกลฟังด้อมส้มมากไป
วันนี้ (16 ต.ค.2566) ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ทัพนักกีฬาคนพิการทีมชาติไทย พร้อมด้วยคณะผู้ฝึกสอนผู้ช่