วันนี้ (27 ก.ค.2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราชวิทยา

วันนี้ (12 ก.ค.2566) การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีวาระสำคัญในการรับทราบพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งประธานสภาผู้แทนราษฎร และรองประธานสภาผู้แทนราษฎร และการกำหนดวันประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายวันมูหะมัดนอ
สำนักข่าว Xinhuathai รายงานกลุ่มนักเรียนนักศึกษาไทย จำนวน 239 คน เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติกว่างโจว ไป๋อวิ๋น ณ นครกว่างโจว มณฑลกว่างตง (กวางตุ้ง) ทางตอนใต้ของจีน ด้วยเที่ยวบินเช่าเหมาลำของสายการบิน
วันนี้ (12 ก.ค.2566) การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีวาระสำคัญในการรับทราบพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งประธานสภาผู้แทนราษฎร และรองประธานสภาผู้แทนราษฎร และการกำหนดวันประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้ขอหารือว่าในสมัยประชุมนี้จะมีการประชุมกี่วันต่อสัปดาห์ จากนั้นนายสุธรรม แสงประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ได้เสนอให้มีการประชุมสภาสัปดาห์ละ 3 วัน คือ วันอังคาร พุธ และพฤหัสบดี ขณะที่ ส.ส. ฝั่งพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลเห็นด้วยกับการเพิ่มวันประชุมสภาเป็น 3 วัน เช่น นายณัฐพงศ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล เห็นด้วยกับการกำหนดวันประชุมสภา 3 วันต่อสัปดาห์ เพราะสมัยประชุมที่แล้วมีวาระค้างพิจารณาจำนวนมาก ส่วน ส.ส.ฝั่งรัฐบาลเดิม เห็นควรให้คงวันประชุมแค่ 2 วันตามประเพณีเดิม และหากมีวาระพิเศษเพิ่มก็สามารถกำหนดวันประชุมเพิ่มได้ เช่น นายอนันต์ ผลอำนวย ส.ส. กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ เห็นควรว่าประชุมเพียง 2 วันตามประเบอล เดี่ยว vipพณีเดิม เพราะประชุม 2-3วันนั้น ก็ไม่เท่ากับการกำกับควบคุมการประชุมให้มีคุณภาพเท่าที่จะทำได้ หากประชุม 3 วัน แต่ผู้ควบคุมไม่เต็มประสิทธิภาพก็ไม่มีค่าอะไร และในข้อบังคับก็ได้ให้อำนาจประธานสภาเรียกประชุมเพิ่มเติม หรือในกรณีเร่งด่วนได้ ขณะที่ พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ เห็นว่า การประชุม 3 วัน ควรเป็นแบบสัปดาห์เว้นสัปดาห์ แต่ไม่ควรประชุมทุกวันศุกร์ เนื่องจาก ส.ส.ต้องลงพื้นที่ ทั้งนี้ นายอดิศร เพียงเกษ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย เห็นว่า การกำหนดวันประชุมสภาเป็นหน้าที่ของประธานสภา ไม่จำเป็นต้องมีการลงมติ ประธานสภา ระบุว่า ยินดีปฏิบัติตามข้อหารือของสมาชิกที่จะทำให้การประชุมไม่ยืดเยื้อ เน้นสาระมากที่สุดเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ และมองว่าจำนวนวันประชุมไม่สำคัญเท่ากับความร่วมมือของสมาชิก ที่จะใช้เวลาอภิปรายให้อยู่ในประเด็น การประชุมสภาแค่ 2 วัน อาจจะได้ประโยชน์มากกว่า 3 วันก็ได้ จึงกำหนดวันประชุมเป็น 2 วันต่อสัปดาห์ คือ วันพุธ และพฤหัสบดี โดยสามารถวันเพิ่มได้ตามความจำเป็น นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีการหารือเพื่อกำหนดเวลาในการประชุม โดยนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล เสนอให้เริ่มประชุมในเวลา 09.00 น. ให้หารือได้ 30 คนต่อวัน คนละ 2.30 นาที ขณะที่สมาชิกมีความเห็นที่หลากหลาย ทั้งให้หารือได้ 2 นาที แต่เพิ่มจำนวนคนหารือ หารือได้คนละ 3 นาที หรือใช้เวลาหารือทั้งหมด 1.30 ชั่วโมง แต่ประธานเห็นควรว่า เริ่มประชุมในเวลา 09.00 น. หารือได้ 30 คน คนละ 3 นาที มีการหารือเพื่อกำหนดช่วงระยะเวลาการประชุมสภา โดยสมัยแรกให้เป็นไปตามกฤษฎีกา คือ เริ่มตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค.ถึงวันที่ 30 ต.ค. ส่วนสมัยที่ 2 ผลการหารือกับสมาชิกกำหนดเป็นวันที่ 12 ธ.ค.2566 ถึงวันที่ 9 เม.ย.2567 ติดตาม ถ่ายทอดสด และ รายการพิเศษ “เลือกนายกฯ เลือกอนาคตประเทศไทย” ในวันที่ 13 ก.ค. ทางไทยพีบีเอส ตั้งแต่เวลา 08.00-12.00 น.
วันนี้ (21 ก.พ.2568) นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน เดินทางมาที่ศาลอาญารัชดา หลังจ
วันนี้ (3 มิ.ย.2567) นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ โพสต์เฟซ
วันนี้ (22 ก.พ.2564) นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า โครงการเราเท
วันนี้ (12 ก.ค.2566) การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีวาระสำคัญในการรับทราบพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งประธานสภาผู้แทนราษฎร และรองประธานสภาผู้แทนราษฎร และการกำหนดวันประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้ขอหารือว่าในสมัยประชุมนี้จะมีการประชุมกี่วันต่อสัปดาห์ จากนั้นนายสุธรรม แสงประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ได้เสนอให้มีการประชุมสภาสัปดาห์ละ 3 วัน คือ วันอังคาร พุธ และพฤหัสบดี ขณะที่ ส.ส. ฝั่งพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลเห็นด้วยกับการเพิ่มวันประชุมสภาเป็น 3 วัน เช่น นายณัฐพงศ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล เห็นด้วยกับการกำหนดวันประชุมสภา 3 วันต่อสัปดาห์ เพราะสมัยประชุมที่แล้วมีวาระค้างพิจารณาจำนวนมาก ส่วน ส.ส.ฝั่งรัฐบาลเดิม เห็นควรให้คงวันประชุมแค่ 2 วันตามประเพณีเดิม และหากมีวาระพิเศษเพิ่มก็สามารถกำหนดวันประชุมเพิ่มได้ เช่น นายอนันต์ ผลอำนวย ส.ส. กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ เห็นควรว่าประชุมเพียง 2 วันตามประเบอล เดี่ยว vipพณีเดิม เพราะประชุม 2-3วันนั้น ก็ไม่เท่ากับการกำกับควบคุมการประชุมให้มีคุณภาพเท่าที่จะทำได้ หากประชุม 3 วัน แต่ผู้ควบคุมไม่เต็มประสิทธิภาพก็ไม่มีค่าอะไร และในข้อบังคับก็ได้ให้อำนาจประธานสภาเรียกประชุมเพิ่มเติม หรือในกรณีเร่งด่วนได้ ขณะที่ พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ เห็นว่า การประชุม 3 วัน ควรเป็นแบบสัปดาห์เว้นสัปดาห์ แต่ไม่ควรประชุมทุกวันศุกร์ เนื่องจาก ส.ส.ต้องลงพื้นที่ ทั้งนี้ นายอดิศร เพียงเกษ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย เห็นว่า การกำหนดวันประชุมสภาเป็นหน้าที่ของประธานสภา ไม่จำเป็นต้องมีการลงมติ ประธานสภา ระบุว่า ยินดีปฏิบัติตามข้อหารือของสมาชิกที่จะทำให้การประชุมไม่ยืดเยื้อ เน้นสาระมากที่สุดเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ และมองว่าจำนวนวันประชุมไม่สำคัญเท่ากับความร่วมมือของสมาชิก ที่จะใช้เวลาอภิปรายให้อยู่ในประเด็น การประชุมสภาแค่ 2 วัน อาจจะได้ประโยชน์มากกว่า 3 วันก็ได้ จึงกำหนดวันประชุมเป็น 2 วันต่อสัปดาห์ คือ วันพุธ และพฤหัสบดี โดยสามารถวันเพิ่มได้ตามความจำเป็น นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีการหารือเพื่อกำหนดเวลาในการประชุม โดยนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล เสนอให้เริ่มประชุมในเวลา 09.00 น. ให้หารือได้ 30 คนต่อวัน คนละ 2.30 นาที ขณะที่สมาชิกมีความเห็นที่หลากหลาย ทั้งให้หารือได้ 2 นาที แต่เพิ่มจำนวนคนหารือ หารือได้คนละ 3 นาที หรือใช้เวลาหารือทั้งหมด 1.30 ชั่วโมง แต่ประธานเห็นควรว่า เริ่มประชุมในเวลา 09.00 น. หารือได้ 30 คน คนละ 3 นาที มีการหารือเพื่อกำหนดช่วงระยะเวลาการประชุมสภา โดยสมัยแรกให้เป็นไปตามกฤษฎีกา คือ เริ่มตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค.ถึงวันที่ 30 ต.ค. ส่วนสมัยที่ 2 ผลการหารือกับสมาชิกกำหนดเป็นวันที่ 12 ธ.ค.2566 ถึงวันที่ 9 เม.ย.2567 ติดตาม ถ่ายทอดสด และ รายการพิเศษ “เลือกนายกฯ เลือกอนาคตประเทศไทย” ในวันที่ 13 ก.ค. ทางไทยพีบีเอส ตั้งแต่เวลา 08.00-12.00 น.
เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.2565 เวลา 17.30 น. ณ ธรรมศาสตร์ สเตเดียม ฟุตบอลอุ่นเครื่องนัดพิเศษ ทีมชาติไทย U23