วันนี้ (20 ก.ค.2565) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดี

เขื่อนภูมิพลจ่อล้น เหลืออีกแค่ 2เมตรถึงสันเขื่อน ผู้ว่าจ.ตาก สั่งเตรียมพร้อมอพยพชาวบ้าน เขื่อนขนาดใหญ่ระดับน้ำจ่อเต็ม รองรับน้ำไม่ไหวอีก ชาวบ้านท้ายเขื่อนภูมิพล เตรียมรับมือระบายน้ำออก เขื่อนภูมิพลจ่อ
วันนี้ (3 ก.ค.2566) ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อ่านคำพิพากษาในคดีระหว่างอัยการสูงสุดเป็นโจทก์ฟ้องนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ จำเลย โดยโจทก์ยื่นฟ้องวันที่ 18 ส.ค.2565 กล่าวหาว่า ขณะเกิด
วันนี้ (3 ก.ค.2566) ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อ่านคำพิพากษาในคดีระหว่างอัยการสูงสุดเป็นโจทก์ฟ้องนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ จำเลย โดยโจทก์ยื่นฟ้องวันที่ 18 ส.ค.2565 กล่าวหาว่า ขณะเกิดเหตุจำเลยดำรงตำแหน่ง รมว.มหาดไทย โดยจำเลยรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดอันเกิดจากการคำนวณเป็นเงินได้ จากบริษัทจัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) (บริษัทจัดการ ) ซึ่งมิใช่ญาติ โดยรับตั๋วโดยสารเครื่องบินเดินทางไปและกลับระหว่างประเทศไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีน อันอาจคำนวณเป็นเงินได้จำนวน 39,300 บาท และรับตั๋วโดยสารเครื่องบินเดินทางไปและกลับระหว่างประเทศไทยกับประเทศมาเลเซียอันอาจคำนวณเป็นเงินได้จำนวน 20,780 บาท ซึ่งเป็นทรัพย์สินที่มีราคาเกินกว่า 3,000 บาท อันมิใช่ทรัพย์สินและประโยชน์อันควรได้ตามกฎหมาย ทั้งมิใช่การรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด โดยธรรมจรรยา ตามประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่องหลักเกณฑ์การรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด โดยธรรมจรรยาของเจ้าหน้าที่ของรัฐ พ.ศ. 2543 ข้อ 5 ขอให้ลงโทษตาม พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปรับรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 303, 122 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปรับปรามการทุจริตพ.ศ. 2561 มาตรา 4, 128 ,169,194,198 จำเลยไม่มาศาลพิจารณาจึงพิจารณาคดีโดยไม่ต้องกระทำต่อหน้าจำเลย จำเลยแต่งตั้งทนายความมาดำเนินการแทนและให้การปฏิเสธ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิจารณาแล้วเห็นว่า ทางไต่สวนนาย ช. กรรมการบริหารและการลงทุนบริษัทจัดการฯ ขณะเกิดเหตุเบิกความขัดแย้งแตกต่างกันรับฟังไม่ได้แน่ชัดว่า จำเลยทีมงานของจำเลยหรือบุตรชายของจำเลย เป็นผู้นำเงินค่าตั๋วโดยสารเครื่องบินไปมอบให้พยานไม่อาจรับฟังความเป็นจริงได้ ทั้งคำเบิกความยังขัดแย้งกับคำให้การจำเลยที่ว่า จำเลยให้ทีมงานของจำเลยไป จัดซื้อตั๋วโดยสารเครื่องบิน ด้วยข้อเท็จจริงจึงฟังไม่ได้ว่า จำเลยเป็นผู้ชำระค่าตั๋วโดยสารเครื่องบินหรือให้ทีมงานของจำเลยไปจัดซื้อ เมื่อพิจารณาถึงข้อ เท็จจริงเกี่ยวกับความเป็นมาของการออกตัวโดยสารเครื่องบินและการชำระเงินได้ความว่า กรรมการบริหารและการลงทุนบริษัทจัดการฯ เป็นผู้ดำเนินการออกตั๋วโดยสารเครื่องบิน โดยให้บริษัท อ. และบริษัท ร. เป็นผู้จองและออกตั๋วโดยสารเครื่องบินแล้วเรียกเก็บเงินค่าตั๋วโดยสารจากบริษัทจัดการฯ ซึ่งต่อมาบริษัทจัดการฯ อนุมัติให้ชำระเงินค่าตั๋วโดยสารเครื่องบินดังกล่าวจากเงินค่ารับรองกรรมการ(ตั๋วเครื่องบินรับรองลูกค้าบริษัท) แล้ว พยานหลักฐานที่ไต่สวนจึงรับฟังเป็นความจริงได้ว่า บริษัทจัดการฯ เป็นผู้ชำระเงินค่าตั๋วโดยสารเครื่องบิน แม้ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า บริษัทจัดการฯ ชำระเงินค่าตั๋วโดยสารเครื่องบินหลังจากที่จำเลยใช้ตั๋วโดยสารเครื่องบินเดินทางก็ตาม แต่เหตุดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องมาจากการดำเนินการของบริษัทจัดการฯ ในการเบิกเงินค่ารับรองกรรมการ เพื่อชำระเงินค่าตั๋วโดยสารเครื่องบินเท่านั้น ส่วนบริษัท อ. และบริษัท ร. คืนเงินค่าตั๋วโดยสารเครื่องบินให้แก่บริษัทจัดการฯนั้น ก็เป็นการกระทำที่เกิดขึ้นหลังจากที่บริษัทจัดการชำระเงินค่าตั๋วโดยสารเครื่องบินแล้ว กรณีจึงไม่มีผลทำให้บริษัทจัดการฯ มิใช่เป็นผู้ที่ไม่ได้ชำระเงินค่าตั๋วโดยสารเครื่องบิน เมื่อขณะเกิดเหตุจำเลยดำรงตำแหน่ง รมว.มหาดไทย โดยไม่มีความเกี่ยวข้องกับบริษัทจัดการฯและตามรายละเอียดแนวทางการใช้จ่ายค่ารับรองของคณะกรรมการบริษัท บริษัทจัดการฯไม่สามารถเบิกจ่ายเงินค่ารับรองในนามคณะกรรมการบริษัทให้จำเลยได้ ประกอบกับตามหนังสือของกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่า ขณะเกิดเหตุในระบบสารบัญของสำนักรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย ไม่พบว่า มีการขออนุญาตเดินทางไปราชการต่างประเทศของจำเลย ทำให้ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ขณะเกิดเหตุจำเลยไม่ได้เดินทางไปราชการที่สาธารณรัฐประชาชนจีนและประเทศมาเลเซียแต่เป็นการเดินทางไปส่วนตัวแล้ว ทั้งทางไต่สวนได้ความจากคำเบิกความของนาย ช. กรรมการบริหารการลงทุนบริษัทจัดการ ฯ ขณะเกิดเหตุว่า บุตรชายของจำเลยให้ดูแลจำเลยในการเดินทางไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีนและประเทศมาเลเซีย กับเดินทางไปพร้อมจำเลยด้วย จึงเชื่อว่า จำเลยรู้อยู่แล้วว่า บริษัทจากการฯ เป็นผู้ซื้อตั๋วเครื่องบินโดยสารเครื่องบินให้จำเลย โดยกรรมการบริษัทเป็นผู้ขออนุมัติเบิกเงินจากเงินค่ารับรองกรรมการชำระเงินค่าตั๋วโดยสารเครื่องบินและการที่จำเลยใช้ตั๋วโดยสารเครื่องบินเดินทางกลับบ่งชี้ได้ว่า จำเลยมีเจตนารับตั๋วเครื่องบินโดยสารเครื่องบินนั้น เมื่อตั๋วโดยสารเครื่องบินมีราคารับ เน็ต ฟรี ท รู โบนัสเกิน 3,000 บาท ข้อเท็จจริงจึงฟังได้ว่า จำเลยรับตั๋วโดยสารเครื่องบินเดินทางไปกลับกรุงเทพ-ปักกิ่ง และกรุงเทพ- กัวลาลัมเปอร์ ซึ่งเป็นประโยชน์อื่นใด ซึ่งมีราคามูลค่าเกิน 3,000 บาท จากบริษัทจัดการฯ ซึ่งมิใช่ญาติจึงเป็นความผิดตามฟ้อง ศาลพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่า ด้วยการป้องกันและปรับรามการทุจริตพ.ศ. 2542 มาตรา 122 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิด ไปตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 องค์คณะผู้พิพากษาเสียงข้างมากให้ลงโทษปรับ กระทงละ 60,000 บาท รวม 2 กระทง เป็นเงินปรับ 120,000 บาท หากจำเลยไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญาในมาตรา 29, 30
หุ่นยนต์สุนัข Q-UGV หรือ Quadrupedal Unmanned Ground Vehicles หุ่นยนต์สุนัขรุ่นใหม่ล่าสุดที่ได้รับกา
วันนี้ (12 ก.ย.2564) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการนครบาล (รอง ผบช.น.) ในฐานะโฆษก บช.น. เปิดเผย
วันนี้ (5 ส.ค.2567) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานการประชุมแผนบริหารจัดการน้ำ เพื่อเตรีย
วันนี้ (3 ก.ค.2566) ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อ่านคำพิพากษาในคดีระหว่างอัยการสูงสุดเป็นโจทก์ฟ้องนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ จำเลย โดยโจทก์ยื่นฟ้องวันที่ 18 ส.ค.2565 กล่าวหาว่า ขณะเกิดเหตุจำเลยดำรงตำแหน่ง รมว.มหาดไทย โดยจำเลยรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดอันเกิดจากการคำนวณเป็นเงินได้ จากบริษัทจัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) (บริษัทจัดการ ) ซึ่งมิใช่ญาติ โดยรับตั๋วโดยสารเครื่องบินเดินทางไปและกลับระหว่างประเทศไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีน อันอาจคำนวณเป็นเงินได้จำนวน 39,300 บาท และรับตั๋วโดยสารเครื่องบินเดินทางไปและกลับระหว่างประเทศไทยกับประเทศมาเลเซียอันอาจคำนวณเป็นเงินได้จำนวน 20,780 บาท ซึ่งเป็นทรัพย์สินที่มีราคาเกินกว่า 3,000 บาท อันมิใช่ทรัพย์สินและประโยชน์อันควรได้ตามกฎหมาย ทั้งมิใช่การรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด โดยธรรมจรรยา ตามประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่องหลักเกณฑ์การรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด โดยธรรมจรรยาของเจ้าหน้าที่ของรัฐ พ.ศ. 2543 ข้อ 5 ขอให้ลงโทษตาม พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปรับรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 303, 122 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปรับปรามการทุจริตพ.ศ. 2561 มาตรา 4, 128 ,169,194,198 จำเลยไม่มาศาลพิจารณาจึงพิจารณาคดีโดยไม่ต้องกระทำต่อหน้าจำเลย จำเลยแต่งตั้งทนายความมาดำเนินการแทนและให้การปฏิเสธ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิจารณาแล้วเห็นว่า ทางไต่สวนนาย ช. กรรมการบริหารและการลงทุนบริษัทจัดการฯ ขณะเกิดเหตุเบิกความขัดแย้งแตกต่างกันรับฟังไม่ได้แน่ชัดว่า จำเลยทีมงานของจำเลยหรือบุตรชายของจำเลย เป็นผู้นำเงินค่าตั๋วโดยสารเครื่องบินไปมอบให้พยานไม่อาจรับฟังความเป็นจริงได้ ทั้งคำเบิกความยังขัดแย้งกับคำให้การจำเลยที่ว่า จำเลยให้ทีมงานของจำเลยไป จัดซื้อตั๋วโดยสารเครื่องบิน ด้วยข้อเท็จจริงจึงฟังไม่ได้ว่า จำเลยเป็นผู้ชำระค่าตั๋วโดยสารเครื่องบินหรือให้ทีมงานของจำเลยไปจัดซื้อ เมื่อพิจารณาถึงข้อ เท็จจริงเกี่ยวกับความเป็นมาของการออกตัวโดยสารเครื่องบินและการชำระเงินได้ความว่า กรรมการบริหารและการลงทุนบริษัทจัดการฯ เป็นผู้ดำเนินการออกตั๋วโดยสารเครื่องบิน โดยให้บริษัท อ. และบริษัท ร. เป็นผู้จองและออกตั๋วโดยสารเครื่องบินแล้วเรียกเก็บเงินค่าตั๋วโดยสารจากบริษัทจัดการฯ ซึ่งต่อมาบริษัทจัดการฯ อนุมัติให้ชำระเงินค่าตั๋วโดยสารเครื่องบินดังกล่าวจากเงินค่ารับรองกรรมการ(ตั๋วเครื่องบินรับรองลูกค้าบริษัท) แล้ว พยานหลักฐานที่ไต่สวนจึงรับฟังเป็นความจริงได้ว่า บริษัทจัดการฯ เป็นผู้ชำระเงินค่าตั๋วโดยสารเครื่องบิน แม้ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า บริษัทจัดการฯ ชำระเงินค่าตั๋วโดยสารเครื่องบินหลังจากที่จำเลยใช้ตั๋วโดยสารเครื่องบินเดินทางก็ตาม แต่เหตุดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องมาจากการดำเนินการของบริษัทจัดการฯ ในการเบิกเงินค่ารับรองกรรมการ เพื่อชำระเงินค่าตั๋วโดยสารเครื่องบินเท่านั้น ส่วนบริษัท อ. และบริษัท ร. คืนเงินค่าตั๋วโดยสารเครื่องบินให้แก่บริษัทจัดการฯนั้น ก็เป็นการกระทำที่เกิดขึ้นหลังจากที่บริษัทจัดการชำระเงินค่าตั๋วโดยสารเครื่องบินแล้ว กรณีจึงไม่มีผลทำให้บริษัทจัดการฯ มิใช่เป็นผู้ที่ไม่ได้ชำระเงินค่าตั๋วโดยสารเครื่องบิน เมื่อขณะเกิดเหตุจำเลยดำรงตำแหน่ง รมว.มหาดไทย โดยไม่มีความเกี่ยวข้องกับบริษัทจัดการฯและตามรายละเอียดแนวทางการใช้จ่ายค่ารับรองของคณะกรรมการบริษัท บริษัทจัดการฯไม่สามารถเบิกจ่ายเงินค่ารับรองในนามคณะกรรมการบริษัทให้จำเลยได้ ประกอบกับตามหนังสือของกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่า ขณะเกิดเหตุในระบบสารบัญของสำนักรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย ไม่พบว่า มีการขออนุญาตเดินทางไปราชการต่างประเทศของจำเลย ทำให้ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ขณะเกิดเหตุจำเลยไม่ได้เดินทางไปราชการที่สาธารณรัฐประชาชนจีนและประเทศมาเลเซียแต่เป็นการเดินทางไปส่วนตัวแล้ว ทั้งทางไต่สวนได้ความจากคำเบิกความของนาย ช. กรรมการบริหารการลงทุนบริษัทจัดการ ฯ ขณะเกิดเหตุว่า บุตรชายของจำเลยให้ดูแลจำเลยในการเดินทางไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีนและประเทศมาเลเซีย กับเดินทางไปพร้อมจำเลยด้วย จึงเชื่อว่า จำเลยรู้อยู่แล้วว่า บริษัทจากการฯ เป็นผู้ซื้อตั๋วเครื่องบินโดยสารเครื่องบินให้จำเลย โดยกรรมการบริษัทเป็นผู้ขออนุมัติเบิกเงินจากเงินค่ารับรองกรรมการชำระเงินค่าตั๋วโดยสารเครื่องบินและการที่จำเลยใช้ตั๋วโดยสารเครื่องบินเดินทางกลับบ่งชี้ได้ว่า จำเลยมีเจตนารับตั๋วเครื่องบินโดยสารเครื่องบินนั้น เมื่อตั๋วโดยสารเครื่องบินมีราคารับ เน็ต ฟรี ท รู โบนัสเกิน 3,000 บาท ข้อเท็จจริงจึงฟังได้ว่า จำเลยรับตั๋วโดยสารเครื่องบินเดินทางไปกลับกรุงเทพ-ปักกิ่ง และกรุงเทพ- กัวลาลัมเปอร์ ซึ่งเป็นประโยชน์อื่นใด ซึ่งมีราคามูลค่าเกิน 3,000 บาท จากบริษัทจัดการฯ ซึ่งมิใช่ญาติจึงเป็นความผิดตามฟ้อง ศาลพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่า ด้วยการป้องกันและปรับรามการทุจริตพ.ศ. 2542 มาตรา 122 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิด ไปตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 องค์คณะผู้พิพากษาเสียงข้างมากให้ลงโทษปรับ กระทงละ 60,000 บาท รวม 2 กระทง เป็นเงินปรับ 120,000 บาท หากจำเลยไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญาในมาตรา 29, 30
วันนี้ (14 ส.ค.2564) ศูนย์ข้อมูล COVID-19 เปิดเผยยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่รวม 22,086 คน จำแนกเป