ผลหวยเวียดนามพิเศษ

เมื่อวันที่ 9 ส.ค.2566 ตามเวลาท้องถิ่นประเทศเอกวาด

฿55079

บาท

ห้องนอน

5

ห้องนอน

ห้องน้ำ

74

ห้องน้ำ

ตร.ม.

322

ตร.ม.

auto-size-o

฿ 2834

/ ตารางเมตร

รายละเอียดของอสังหาฯ

home-open-o
คอนโด ขาย
ruler-o
ตกแต่งครบ
document-with-lines-o
วันที่ 3 สิงหาคม 2568 - 19:44 น.
calendar-days-o
ขายขาด
calendar-time-o
วันที่ 3 สิงหาคม 2568 - 19:44 น.
document-with-lines-o
รหัสประกาศ - 11909401

ผลหวยเวียดนามพิเศษ

วันนี้ (19 ธ.ค.2566) ตำรวจ บก.สส.บช.น. จับตัว นายอ

UID: 09153

วันนี้ (8 ม.ค.2565) ชาวบ้าน ต.ปากพลี อ.ปากพลี จ.นครนายก พร้อมด้วยนายสมพงษ์ สายทอง นายกองค์การบริหารส

วันนี้ (27 ส.ค.2567) คนงานเร่งขนเหล็กและอุปกรณ์เข้าไปภายในอุโมงค์ก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ช่วง

เมื่อวันที่ 2 มีนาคม ค.ศ. 1969 “คองคอร์ด” (Concorde) เครื่องบินโดยสารปีกสามเหลี่ยมและลำตัวเรียวยาว ได้โผบินขึ้นไปบนท้องฟ้าเป็นครั้งแรก หลังจากที่สองบริษัทจากอังกฤษและฝรั่งเศสได้ร่วมมือกันก่อสร้างมาเป็นระยะเวลากว่า 4 ปี ซึ่งเครื่องบินลำนี้มีศักยภาพในการทำความเร็วได้มากถึง 2,179 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หรือ เกือบ 2 เท่าของความเร็วเสียง ขณะที่เครื่องบินเจ็ทโดยสารทั่วไปในยุคนั้นอย่าง โบอิง 747 ทำความเร็วได้แค่ประมาณ 900 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเท่านั้น ทันทีที่สาธารณชนและสำนักข่าวต่าง ๆ ได้ยลโฉมเครื่องบินคองคอร์ดในงานปารีสแอร์โชว์ (Paris Airshow) ซึ่งจัดขึ้นหลังจากการทดสอบเที่ยวบินแรกได้ไม่นาน ชื่อเสียงของเครื่องบิน "คองคอร์ด" ลำนี้ก็ได้แพร่สะพัดไปถึงสายการบินที่มีชื่อเสียงอย่างรวดเร็ว จนนำไปสู่ยอดสั่งจองเครื่องบินคองคอร์ดนับร้อยลำ จากหลากหลายสายการบินชื่อดังทั่วโลก ไล่ตั้งแต่ Pan American World Airways ของสหรัฐฯ ไปจนถึง Japan Airlines ของญี่ปุ่น ราวกับว่าในขณะนั้นการเดินทางด้วยความเร็วเหนือเสียงกำลังจะมาแทนที่เครื่องบินเจ็ทธรรมดาไปเสียแล้ว แต่ทว่าเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ไม่กี่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นช่วงครึ่งหลังของคริสต์ศตวรรษที่ 20 ก็กลับทำให้ความนิยมของ "คองคอร์ด" เสื่อมหายลงไปตามกาลเวลา จนนำไปสู่เที่ยวบินสุดท้ายในปี ค.ศ. 2003 ในที่สุด ทั้งนี้การที่เราจะเข้าใจเรื่องราวของ "คองคอร์ด" นั้น ก็ต้องเข้าใจความเป็นมาของต้นกำเนิดเครื่องบินความเร็วเหนือเสียงเสียก่อน ความฝันของการเดินทางความเร็วเหนือเสียง หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้สิ้นสุดลง เทคโนโลยีเครื่องบินเจ็ทก็ได้พัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดด จนกระทั่งเครื่องบินของกองทัพสหรัฐฯลำหนึ่ง สามารถทำความเร็วทะลุกำแพงเสียงได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ช่วงปลายปี ค.ศ. 1947 ซึ่งได้ทำให้เครื่องยนต์บินเจ็ทความเร็วเหนือเสียงเริ่มได้รับความนิยมมาแทนที่เครื่องบินใบพัดลูกสูบเดิมจากทางฝั่งกองทัพมากขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนทางด้านภาคพลเรือนนั้นเครื่องบินเจ็ทที่ถูกพัฒนาขึ้นมาใหม่ช่วงทศวรรษที่ 1950 กลับมีเพียงเครื่องบินเจ็ทที่เดินทางต่ำกว่าความเร็วเสียงทั้งสิ้น เนื่องจากความกังวลด้านความปลอดภัยของผู้โดยสาร และหลักวิศวกรรมการออกแบบที่ซับซ้อนของเครื่องบินความเร็วเหนือเสียง ซึ่งต้องอาศัยเม็ดเงินจำนวนมหาศาลในการพัฒนาให้เครื่องบินความเร็วเหนือมีขนาดใหญ่พอที่จะสามารถรองรับผู้โดยสารนับร้อยได้ แต่เมื่อผู้คนเริ่มเดินทางไปมาระหว่างประเทศมากขึ้นเรื่อย ๆ จากผลพวงของยุคโลกาภิวัตน์ โดยเฉพาะการติดต่อทางด้านธุรกิจ ความต้องการระบบขนส่งที่รวดเร็วกว่าเครื่องบินเจ็ทโดยสารธรรมดาจึงเริ่มเติบโตสูงขึ้นเรื่อย ๆ อย่างมีนัยสำคัญ โดยทางรัฐบาลอังกฤษและฝรั่งเศสในขณะนั้นได้เล็งเห็นโอกาสที่จะเข้ามาพัฒนาเครื่องบินรูปแบบใหม่ ซึ่งมีศักยภาพที่สามารถช่วยผลักดันให้อุตสาหกรรมการบินในประเทศของตนเติบโตไปแข่งขันในตลาดโลกได้ ถึงแม้จะมีความเสี่ยงในการลงทุนอยู่มากก็ตาม ด้วยเงินทุนสนับสนุนอย่างเต็มสูบจากรัฐบาลของทั้งสองประเทศ บริษัท บีเอซี (British Aerospace - BAC) จากอังกฤษ และบริษัท Aérospatiale จากฝรั่งเศส จึงได้เริ่มต้นพัฒนาเครื่องบินโดยสารความเร็วเหนือเสียงในปี ค.ศ. 1962 ก่อนที่จะประสบความสำเร็จในเที่ยวบินแรกในอีก 7 ปีต่อมา ภายใต้ชื่อเครื่องบิน “คองคอร์ด” ที่แปลว่า “ความสามัคคี” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความร่วมมือกันระหว่างสองชาติ วิกฤตการณ์ครั้งสำคัญของ "คองคอร์ด" เราปฏิเสธไม่ได้เลยว่าศักยภาพการเดินทางความเร็วเหนือเสียงที่สามารถข้ามมหาสมุทรได้ภายในพริบตา ได้ส่งผลให้ยอดสั่งจองเครื่องบินของเครื่องบินคอร์ดทยอยเข้ามาอย่างต่อเนื่องในช่วงต้นทศวรรษที่ 1970 และเมื่อประเทศมหาอำนาจใหม่ อย่างสหรัฐอเมริกา และสหภาพโซเวียต ได้เห็นความสำเร็จของคองคอร์ดแล้ว ทั้งสองประเทศนี้ก็ได้หันมาเริ่มโครงการพัฒนาเครื่องบินโดยสารความเร็วเหนือเสียงของตนเช่นกันเพื่อแข่งขันในตลาดเครื่องบินโดยสารความเร็วเหนือเสียงกับคองคอร์ดในอนาคต อย่างไรก็ดีเหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดฝันก็ได้เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1973 กลุ่มชาติพันธมิตรอาหรับที่นำโดยอียิปต์และซีเรีย ได้เปิดฉากบุกโจมตี อิสราเอล ในคืนวันยมคิปปูร์ (Yom Kippur) วันสำคัญทางศาสนาที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของชนชาติยิว เพื่อทวงคืนดินแดนที่เคยสูญเสียให้กับอิสราเอลในสงครามครั้งก่อนหน้า และเพื่อก่อตั้งรัฐปาเลสไตน์สำหรับชาวอาหรับ โดยทางฝั่งสหรัฐฯและพันธมิตรนั้นต่างให้การสนับสนุนอิสราเอลในฐานะผู้ถูกโจมตีด้วยการสนับสนุนทางยุทโธปกรณ์และเงินทุน การกระทำของชาติตะวันตกนี้ จึงได้ทำให้องค์กรของประเทศผู้ส่งออกน้ำมันอาหรับ (Arab Petroleum Exporting Countries - OAPEC) ตัดสินใจประกาศคว่ำบาตรทางการค้าแก่ประเทศที่สนับสนุนอิสราเอลทั้งหมด ซึ่งได้ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อผู้คนในทวีปยุโรปและสหรัฐอเมริกาเป็นอย่างมาก เนื่องจากประเทศเหล่านี้เป็นผู้บริโภคหลักของน้ำมันจากตะวันออกกลาง ราคาน้ำมันในสหรัฐฯได้ดีดตัวขึ้นจากบาร์เรลละ 3 ดอลลาร์สหรัฐ กลายเป็น บาร์เรลละ 12 ดอลลาร์สหรัฐ ในปี ค.ศ. 1973 หรือเพิ่มขึ้นถึง 4 เท่าตัวภายในเวลาไม่กี่วันหลังการเกิดการคว่ำบาตรขึ้น มิหนำซ้ำเมื่อสงครามจบลงราคาน้ำมันก็กลับไม่มีทีท่าจะลดกลับลงมาอยู่ในจุดเดิมเลยแม้แต่น้อย เนื่องจากฝั่งประเทศอาหรับได้ลดกำลังการผลิตลงเพื่อคงราคาซื้อขายให้สูงขึ้น เครื่องบินคองคอร์ดที่ออกแบบมาให้ใช้ปริมาณเชื้อเพลิงมากกว่า 6.7 ตันต่อชั่วโมงสำหรับการบินด้วยความเร็วเหนือเสียง จึงไม่มีความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจอีกต่อไปในสายตาของสายการบินยักษ์ใหญ่ทั้งหลาย และทำให้เกิดการยกเลิกคำสั่งซื้อเครื่องบินคองคอร์ดไปจนหมดสิ้น เหลือเพียงแต่ British Airways จากอังกฤษ และ Air France จากฝรั่งเศส สายการบินของสองประเทศผู้ผลิตเครื่องบิน "คองคอร์ด" แต่เพียงเท่านั้น โมเดลธุรกิจใหม่ของ 2 สายการบินคองคอร์ด ภายหลังสงครามความสัมพันธ์ระหว่างเครื่องบินคองคอร์ดกับรัฐบาลอังกฤษและฝรั่งเศสได้ตกอยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เนื่องจากปัจจัยได้ราคาน้ำมันที่สูงขึ้น จนแลดูเหมือนว่าการยกเลิกโครงการเครื่องบิน "คองคอร์ด" นั้นคือทางออกสุดท้าย แต่ด้วยเกียรติยศและศักดิ์ศรีของ 2 ชาติมหาอำนาจเก่าเป็นเดิมพัน อังกฤษและฝรั่งเศสก็สามารถหาโมเดลทางธุรกิจใหม่เข้ามาช่วยชีวิตคองคอร์ดไว้ได้ทัน โดยโมเดลธุรกิจใหม่นี้ก็คือการแปรสภาพให้เครื่องบินคองคอร์ดนั้นกลายเป็นเครื่องบินหรูหราสำหรับมหาเศรษฐีและนักธุรกิจชั้นนำของโลก ด้วยการบริการบนเครื่องที่ไม่ได้ต่างอะไรไปจากโรงแรมห้าดาว ทั้งด้านอาหารการกินและความบันเทิงจากพนักงานต้อนรับ อีกทั้งทางสายการบินยังได้สงวนเส้นทางการบินส่วนใหญ่ไว้ระหว่างมหานครนิวยอร์กกับลอนดอน และปารีส ที่มีความต้องการเดินทางสูงสุดอยู่เสมอ โดยค่าบัตรโดยสารของ "คองคอร์ด" โฉมใหม่นี้ตกอยู่ที่นั่งละประมาณ 12,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ ราว 400,000 บาท ซึ่งแพงกว่าที่นั่งชั้นหนึ่งของเครื่องบินโดยสารทั่วไปถึง 2 เท่า อย่างไรก็ดี ถึงแม้ว่าบัตรโดยสารของเครื่องบิน คองคอร์ด จะมีราคาแพงหูฉี่ บุคคลที่มีชื่อเสียงระดับโลกก็ยังคงเลือกที่จะเดินทางด้วยเครื่องบินลำนี้มาเป็นระยะเวลาหลายสิบปี ไม่ว่าจะเป็น สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร เดวิด โบอี หรือ ไมเคิล แจ็กสัน ก็ตาม เนื่องจาก "คองคอร์ด" นั้นได้กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งเกียรติยศ ความสำเร็จทางด้านวิศวกรรม และกลายเป็นประสบการณ์ที่ทุกคนต้องได้ลิ้มลองสักครั้งหนึ่งในชีวิต ซึ่งพอช่วยให้สายการบินทั้งสองพอประคับประคองให้เครื่องบินคองคอร์ดให้ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้ ท่ามกลางราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ผันผวน แต่ทว่าชื่อเสียงนี้ก็ไม่อาจคงอยู่ได้ไปตลอดกาล โศกนาฏกรรมกลางเวหา จุดจบของเครื่องบินในตำนาน ในปี ค.ศ. 2000 เครื่องบิน "คองคอร์ด" ที่มีกำหนดการพาผู้โดยสารจากกรุงปารีสไปยังมหานครนิวยอร์ก ในเที่ยวบิน Air France 4590 ได้เกิดอุบัติเหตุสุดระทึกขวัญขึ้น ขณะที่เครื่องบินกำลังเร่งความเร็วเพื่อออกตัวขึ้นบินบนรันเวย์ โดยเครื่องบิน "คองคอร์ด" ลำนี้ได้วิ่งเข้าไปทับเศษโลหะที่หลุดมาจากเครื่องบินอีกลำหนึ่ง จนตัวล้อเกิดการฉีกขาดและระเบิดขึ้น ซึ่งเศษซากที่เกิดจากการระเบิดนั้นได้กระเด็นเข้าไปยังปีกของเครื่อง ส่งผลให้น้ำมันที่อยู่ในปีกรั่วไหลและติดไฟขึ้นในที่สุด แต่ตัวเครื่องก็กลับทะยานขึ้นฟ้าไปเสียแล้ว ภายในสองนาทีหลังจากอยู่กลางอากาศ ตัวเครื่องบินก็ได้ตกกลับลงมาเนื่องจากสูญเสียแรงยกบริเวณปีก และปะทะเข้ากับโรงแรมที่อยู่ใกล้เคียง ก่อนที่จะระเบิดออกเป็นเสี่ยง ๆ ซึ่งได้คร่าชีวิตผู้โดยสารและลูกเรือไปทั้งสิ้น 109 คน กับ ผู้คนที่อยู่ในโรงแรมอีก 4 คนในที่สุด อุบัติเหตุในครั้งนี้จึงได้นำไปสู่การพักบินของ "คองคอร์ด" ไปนานหลายเดือนเพื่อสอบสวนปัญหาทางวิศวกรรมที่เกิดขึ้น ถึงกระนั้นในระหว่างที่เจ้าหน้าที่ทางรัฐกำลังตรวจสอบความปลอดภัยของเครื่องบินคอร์ดอยู่ ก็ได้เกิดเหตุการณ์ก่อการร้ายในสหรัฐฯขึ้น ซึ่งมีการใช้เครื่องบินโดยสารที่ถูกจี้มาในการโจมตีสถานที่สำคัญต่าง ๆ โดยเฉพาะตึกเวิลด์เทรดเซนเตอร์ ที่ก่อให้เกิดการสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินอย่างหนักหน่วง เครื่องบินคองคอร์ดจึงได้รับผลกระทบจากการก่อการร้ายในปี ค.ศ. 2001 เข้าไปเต็ม ๆ จากมาตรการความปลอดภัยที่สูงขึ้น ซึ่งทางสายการบินต้องแบกรับค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมด้วยตนเอง ทั้ง ๆ ที่ผลหวยเวียดนามพิเศษเครื่องบินคองคอร์ดมีค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงที่สูงอยู่แล้วก็ตาม อีกทั้งในอีกไม่กี่เดือนต่อมา กองทัพสหรัฐฯก็ได้ตัดสินใจบุกโจมตีอัฟกานิสถาน ซึ่งได้ก่อให้เกิดความขัดแย้งในภูมิภาคตะวันออกกลาง จนราคาน้ำมันโลกดีดตัวสูงขึ้นอีกครั้ง ด้วยภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มเข้ามามากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ในสายการบิน British Airways และ Air France ตัดสินใจยกเลิกการให้บริการฝูงบินคองคอร์ดทั้งหมดในปี ค.ศ. 2003 นับเป็นอันสิ้นสุดตำนานเครื่องบินโดยสารความเร็วเหนือเสียงที่อยู่คู่ท้องฟ้ามานานนับ 3 ทศวรรษในที่สุด ที่มาข้อมูล: Britannica , The Atlantic“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech

เมื่อวันที่ 2 มีนาคม ค.ศ. 1969 “คองคอร์ด” (Concorde) เครื่องบินโดยสารปีกสามเหลี่ยมและลำตัวเรียวยาว ไ
สิ่งอำนวยความสะดวก
renovated-o

การตกแต่ง

aircon-o

เครื่องปรับอากาศ

layers-2-o

ชั้นบน

asterisk-o

เตาอบ/ไมโครเวฟ

ความสะดวกโดยรอบ
asterisk-o

กล้องวงจรปิด

aircon-o

เครืองปรับอากาศ

lift-o

โถงรอลิฟท์ร้านอาหาร

garage-o

ทางเข้าหลัก

ยอดสินเชื่อโดยประมาณ
รายละเอียดสินเชื่อ
ยอดสินเชื่อที่ต้องชำระต่อเดือนโดยประมาณ
฿ 0 / เดือน
0%
0%
฿ 0 เงินต้น
฿ 0 ดอกเบี้ย
ค่าใช้จ่ายที่อาจต้องมีเบื้องต้น
เงินดาวน์ทั้งหมด
฿ 0
0%
0%
เงินดาวน์
จำนวนสินเชื่อ ฿ 0 ในอัตรา 0% ของสินเชื่อต่อราคาบ้าน (Loan-to-value)

฿
฿
%
ปี

วันนี้ (6 ต.ค.2565) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระ

Project Image

ความคืบหน้าคดีที่นักเรียนหญิงชั้นม.5 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.ยโสธร แจ้งความดำเนินคดีกับตำรวจยศ "ร.ต.อ." ในข้อหาก่อเหตุพรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปีไปเพื่อการอนาจาร วันนี้ (1 ก.พ.2567) นายน

ดูรายละเอียดโครงการ
คำถามที่พบบ่อย
กรณีโลกออนไลน์แชร์คลิปประตูรถไฟฟ้าบีทีเอสขัดข้อง ระหว่างสถานีบางจาก ถึงสถานีปุณณวิถี โดยเจ้าหน้าที่ไ
วันนี้ (20 พ.ค.2567) นายพิชิต ชื่นบาน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวเตรียมลาออกจาก
วันนี้ (26 ก.ย.2567) นายภูมิธรรม​ เวชยชัย​ รองนายก​รัฐมนตรี​ และ​ รมว.กลาโหม​ ย้ำในระหว่างประชุม​ศูน
วันนี้ (5 ม.ค.2565) นพ.ธนะพงศ์ จินวงษ์ ผู้จัดการศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน กล่าวถึงสถิติอุบั
เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ถนนคันคลองชลประทานใกล้ประตูระบายน้ำเจ้าเจ็ด ถูกน้ำกัดเซาะจนถนนทรุดตัวกว้าง