วันนี้ (29 พ.ค.2566) ข้อมูลจากทีมกรุ๊ปอัปเดตเส้นทางพายุไต้ฝุ่น "มาวาร์ (MAWAR)" พายุไต้ฝุ่นลูกที่ 2 ของปี 2566 มาไม่ถึงไทย คาดทำให้ฝนตกหนักมากที่ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน และ ญี่ปุ่น และสลายตัวประมาณวันที่ 8

ภัยแล้งบีบเกษตรกรจำใจขายนาปลดหนี้ พลิกชีวิตหันไปเช่าที่ดินนายทุนทำแทน ภาวะภัยแล้งที่เกิดขึ้นในปี 2558 ทำให้ชาวนาขาดรายได้หรือมีรายได้ลดลง ส่งผลต่อการชำระหนี้และอาจนำไปสู่การสูญเสียกรรมสิทธิ์ในที่ทำกิน โดยเฉพาะในภาคกลางที่พบว่าสถิติการขายที่นาเพื่อใช้หนี้สูงกว่าภูมิภาคอื่น ภัยแล้งบีบเกษตรกรจำใจขายนาปลดหนี้ พลิกชีวิตหันไปเช่าที่ดินนายทุนทำแทน ครอบครัวนิลประเสริฐ เหลือที่นาจำนวน 3 ไร่ใน ต.มารวิชัย อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นที่ดินผืนสุดท้าย หลังจำใจขายที่นาของตัวเองให้กับนายทุนเมื่อหลายสิบปีก่อน นายสุชิน นิลประเสริฐ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้มีนาทั้งหมด 20 ไร่ แต่ประสบปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำสวนทางกับต้นทุนการผลิตที่สูง เฉลี่ยไร่ละไม่ต่ำกว่า 5,000 บาท แต่เมื่อรายรับไม่พอกับรายจ่ายจึงจำเป็นต้องกู้ยืมเงินจากธนาคาร สหกรณ์และนายทุนในพื้นที่ จนเกิดเป็นหนี้สินพอกพูนและเมื่อไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด จึงตัดสินใจขายที่นาเพื่อปลดหนี้และหันมาเช่าที่ของนายทุนจำนวน 70 ไร่ เพื่อทำนาในราคาไร่ละ 1,500 บาท ต่อ 1 รอบการผลิต ตำบลมารวิชัย อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา มีพื้นที่การเกษตรประมาณ 80,000 กว่าไร่ เป็นที่นาเช่าไม่ต่ำกว่า 60,000 ไร่ ที่ดินส่วนใหญ่ตกอยู่ในมือของนายทุนทั้งในและนอกพื้นที่ "ปัญหาคือชาวนาไม่มีอาชีพเสริม แต่ต้องกินและใช้ทุกวัน พอไม่มี หนี้ก็พอกเข้ามา พอหนี้พอกเข้ามาก็ต้องขายสมบัติที่มีอยู่ เพราะฉะนั้นชาวนาจะเหลือนาของตัวเองน้อยมาก จะเป็นนาเช่าส่วนใหญ่" นายฐิติวัฒน์ กลีบมาลัย นายก อบต.มารวิชัย กล่าว ข้อมูลจากกลุ่มปฏิบัติงานท้องถิ่นไร้พรมแดน สภาเครือข่ายองค์กรเกษตรกรแห่งประเทศไทย พบว่าพื้นที่เกษตรกรรมทั้งหมดมีประมาณ 149 ล้านไร่ เป็นพื้นที่ของคนอื่น 78 ล้านไร่ ที่เหลือ 71 ล้านไร่เป็นที่ของเกษตรกรเอง ในจำนวนนี้ 29 ล้านไร่ติดจำนอง แต่ละปีมีเกษตรกรเสียกรรมสิทธิ์ที่ดินจากการจำนองเฉลี่ย 16,250 ไร่ ขณะที่ปัญหาที่ดินหลุดมือชาวนาเกิดจากเหตุหลายปัจจัยเช่น ภาระหนี้สิน, ค่าใช้จ่ายมากกว่ารายได้, ราคาผลผลิตตกต่ำและผลกระทบจากภัยธรรมชาติ เช่น ภัยแล้ง "ชาวนาขายที่มี 2 ปัจจัยหลักคือ ตัวชาวนาเอง การลงทุนการผลิต ราคาผลผลิตตกต่ำ ไม่มีใครช่วยเรื่องการประกันราคาพืชและประกันภัยแล้ง อีกด้านหนึ่งคือ มีแรงผลักดันจากการกว้านซื้อที่ดินของนายทุนเพื่อเก็งกำไร" พงษ์ทิพย์ สำราญจิตต์ ผอ.กลุ่มปฏิบัติงานท้องถิ่นไร้พรมแดน กล่าว นอกจากปัญหาการสูญเสียที่ดินแล้ว ชาวนาส่วนใหญ่ยังมีแนวโน้มหนี้สินเพิ่มสูงขึ้น เพราะรายได้จากการทำนาไม่พอกับค่าใช้จ่ายประจำวัน รวมถึงการกว้านซื้อที่ดินของนายทุน ทำให้การกระจุกตัวของที่ดินและชาวนาไร้ที่ดินเพิ่มขึ้น กลุ่มปฏิบัติงานท้องถิ่นไร้พรมแดนเสนอแนวทางการแก้ปัญหาว่า ภาครัฐควรส่งเสริมให้เกษตรกรพึ่งพาตัวเองได้ในระบบการผลิต โดยลดต้นทุนค่าปุ๋ยและยา กำหนดราคาข้าวไม่ต่ำกว่าเกวียนละ 8000 - 9000 บาท การช่วยเหลือด้านเงินลงทุนทำนาในอัตราดอกเบี้ยต่ำและมีกองทุนเมื่อเกิดภัยพิบัติทั้งน้ำท่วมและภัยแล้ง เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรอย่างยั่งยืน ครอบครัวนิลประเสริฐ เหลือที่นาจำนวน 3 ไร่ใน ต.มารวิชัย อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นที่ดินผืนสุดท้าย หลังจำใจขายที่นาของตัวเองให้กับนายทุนเมื่อหลายสิบปีก่อน นายสุชิน นิลประเสริฐ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้มีนาทั้งหมด 20 ไร่ แต่ประสบปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำสวนทางกับต้นทุนการผลิตที่สูง เฉลี่ยไร่ละไม่ต่ำกว่า 5,000 บาท แต่เมื่อรายรับไม่พอกับรายจ่ายจึงจำเป็นต้องกู้ยืมเงินจากธนาคาร สหกรณ์และนายทุนในพื้นที่ จนเกิดเป็นหนี้สินพอกพูนและเมื่อไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด จึงตัดสินใจขายที่นาเพื่อปลดหนี้และหันมาเช่าที่ของนายทุนจำนวน 70 ไร่ เพื่อทำนาในราคาไร่ละ 1,500 บาท ต่อ 1 รอบการผลิต ตำบลมารวิชัย อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา มีพื้นที่การเกษตรประมาณ 80,000 กว่าไร่ เป็นที่นาเช่าไม่ต่ำกว่า 60,000 ไร่ ที่ดินส่วนใหญ่ตกอยู่ในมือของนายทุนทั้งในและนอกพื้นทีดู บอล ออนไลน์ ต่าง ประเทศ่ "ปัญหาคือชาวนาไม่มีอาชีพเสริม แต่ต้องกินและใช้ทุกวัน พอไม่มี หนี้ก็พอกเข้ามา พอหนี้พอกเข้ามาก็ต้องขายสมบัติที่มีอยู่ เพราะฉะนั้นชาวนาจะเหลือนาของตัวเองน้อยมาก จะเป็นนาเช่าส่วนใหญ่" นายฐิติวัฒน์ กลีบมาลัย นายก อบต.มารวิชัย กล่าว ข้อมูลจากกลุ่มปฏิบัติงานท้องถิ่นไร้พรมแดน สภาเครือข่ายองค์กรเกษตรกรแห่งประเทศไทย พบว่าพื้นที่เกษตรกรรมทั้งหมดมีประมาณ 149 ล้านไร่ เป็นพื้นที่ของคนอื่น 78 ล้านไร่ ที่เหลือ 71 ล้านไร่เป็นที่ของเกษตรกรเอง ในจำนวนนี้ 29 ล้านไร่ติดจำนอง แต่ละปีมีเกษตรกรเสียกรรมสิทธิ์ที่ดินจากการจำนองเฉลี่ย 16,250 ไร่ ขณะที่ปัญหาที่ดินหลุดมือชาวนาเกิดจากเหตุหลายปัจจัยเช่น ภาระหนี้สิน, ค่าใช้จ่ายมากกว่ารายได้, ราคาผลผลิตตกต่ำและผลกระทบจากภัยธรรมชาติ เช่น ภัยแล้ง "ชาวนาขายที่มี 2 ปัจจัยหลักคือ ตัวชาวนาเอง การลงทุนการผลิต ราคาผลผลิตตกต่ำ ไม่มีใครช่วยเรื่องการประกันราคาพืชและประกันภัยแล้ง อีกด้านหนึ่งคือ มีแรงผลักดันจากการกว้านซื้อที่ดินของนายทุนเพื่อเก็งกำไร" พงษ์ทิพย์ สำราญจิตต์ ผอ.กลุ่มปฏิบัติงานท้องถิ่นไร้พรมแดน กล่าว นอกจากปัญหาการสูญเสียที่ดินแล้ว ชาวนาส่วนใหญ่ยังมีแนวโน้มหนี้สินเพิ่มสูงขึ้น เพราะรายได้จากการทำนาไม่พอกับค่าใช้จ่ายประจำวัน รวมถึงการกว้านซื้อที่ดินของนายทุน ทำให้การกระจุกตัวของที่ดินและชาวนาไร้ที่ดินเพิ่มขึ้น กลุ่มปฏิบัติงานท้องถิ่นไร้พรมแดนเสนอแนวทางการแก้ปัญหาว่า ภาครัฐควรส่งเสริมให้เกษตรกรพึ่งพาตัวเองได้ในระบบการผลิต โดยลดต้นทุนค่าปุ๋ยและยา กำหนดราคาข้าวไม่ต่ำกว่าเกวียนละ 8000 - 9000 บาท การช่วยเหลือด้านเงินลงทุนทำนาในอัตราดอกเบี้ยต่ำและมีกองทุนเมื่อเกิดภัยพิบัติทั้งน้ำท่วมและภัยแล้ง เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรอย่างยั่งยืน

วันนี้ (21 พ.ย.2566) ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมสอบสวนคดีพิเศษ เกือบ 20 นาย นำกำลังไปตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ที่ตั้งอยู่ริมถนนเอกชัย จ.สมุทรสาคร หลังขยายผลตรวจสอบเอกสารสำแดงเท็จ พบว่าที่แห่งนี้ เกี่ยวข้องกับ

ภัยแล้งบีบเกษตรกรจำใจขายนาปลดหนี้ พลิกชีวิตหันไปเช่าที่ดินนายทุนทำแทน ภาวะภัยแล้งที่เกิดขึ้นในปี 255

นิยายชีวิต โดย : Setyanavidita livicansera
เรื่องและภาพโดย : Setyanavidita livicansera
[[คลิก]] อ่านเรื่องราว “นิยายชีวิต” ได้ที่นี่..