วันนี้ (25 มี.ค.2564) ที่ศาลอาญามีนบุรี ศาลนัดอ่านคำพิพากษาชั้นฎีกา คดีที่พนักงานอัยการ สำนักงานคดีอวิเคราะห์ บอล อา ร์ เจน ติ น่า ซุปเปอร์ ลี ก้า
วันนี้ (24 พ.ย.2565) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งที่ 11/2565 ณ ห้องศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 ตร. โดยมี ก.ตร. , ผู้บังคับบั
ววิเคราะห์ บอล อา ร์ เจน ติ น่า ซุปเปอร์ ลี ก้าันนี้ (26 ส.ค.2567) นายสนธิ คชวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อมและสุข โพสต์เฟซบุ๊ก วิเคราะห์โอกาสที่น้ำจะท่วมกรุงเทพฯ และ ภาคกลาง เหมือนปี 2554 หรือไม่ โดยระบุถึง 4 ปัจจัยที่สำคัญ คือ 1.มวลน้ำจากภาคเหนือไหลลงมา ซึ่งภาคเหนือมีเขื่อนเก็บกักน้ำอยู่ยกเว้นแม่น้ำยมหากฝนตกลงมามากและมวลน้ำมีมากไหลผ่านสถานีวัดน้ำ C.13 ที่ จ.ชัยนาท หากระบายน้ำออกจากเขื่อนเจ้าพระยาเฉลี่ย 2,800-3,000 ลบ.ม.ต่อวินาทีจะ ทำให้ จ.สิงห์บุรี จ.อ่างทอง และ จ.พระนครศรีอยุธยา มีน้ำท่วมมากขึ้น หากมีการตรวจวัดที่สถานีสูบน้ำ C.29 ที่สถานีหน้าศูนย์ศิลปาชีพบางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา เกิน 2,500 ลบ.ม.ต่อวินาที จะทำให้แม่น้ำเจ้าพระยาช่วง จ.ปทุมธานี จ.นนทบุรี ถึง กรุงเทพฯ มีระดับสูงขึ้นเกิน 1 ม.จากปกติน้ำจะล้นตลิ่ง 2.ในช่วงเดือน ก.ย.-ต.ค. ของทุกปีจะมีพายุเข้ามาอย่างน้อย 1-2 ลูกหรืออาจจะมากกว่า หากฝนตกท้ายเขื่อนสิริกิติ์ และ ขื่อนภูมิพล มากโดยเฉพาะภาคกลางและปทุมธานี กทม.ซึ่งช่วงนี้ฝนจะตกแบบ Rain bomb คือ ฝนตกหนักเฉพาะจุดอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานมีโอกาสทำให้น้ำไหลเข้าท่วมมากขึ้น 3.ในช่วงเดือน ต.ค.เป็นเดือนที่มีน้ำทะเลหนุน หากการระบายน้ำแม่น้ำเจ้าพระ ยาลงสู่คลองต่าง ๆ และอ่าวไทยไม่ได้มากเนื่องจากน้ำทะเลจะทำให้น้ำท่วมนานขึ้น 4.การบริหารจัดการน้ำ การเตรียมตัวของเมืองในการขุดลอกคูคลอง การกั้นตลิ่งการระบายน้ำลงทะเลและการพร่องน้ำจากเขื่อนก่อนซึ่งจะต้องทำแต่เนิ่น ๆ ก่อนน้ำเหนือหลากลงมา ดังนั้น ปัจจัยที่สำคัญที่น้ำจะท่วมถึง จ.ปทุมธานี จ.นนทบุรี และกรุงเทพฯ ในเดือน ก.ย. และ ต.ค.ก็คือ น้ำเหนือไหลหลาก กับพายุเข้าและฝนตกหนักท้ายเขื่อน น้ำทะเลหนุน การจัดการป้องกันน้ำท่วมไม่ดีไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ ก็อาจจะทำให้เกิดน้ำท่วมได้ ให้ได้จับตาดูปริมาณน้ำและฝนตกในเดือน ก.ย. และ ต.ค.ให้ดี ขณะที่นายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยก่อนการประชุม ติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมว่า สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาประชุม เพื่อรายงานสถานการณ์เพื่อประเมินถึงสถานการณ์กลุ่มฝนที่จะเข้ามาในอนาคตข้างหน้านี้ รวมถึงจะมีการ เร่งรัดโครงการที่ สท.นช. เคยเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเมื่อเดือน ก.ค. และต้นเดือนส.ค.ที่ผ่านมา ทั้งหมด 2 โครงการ รวมถึงหาวิธีการในการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบอยู่ในขณะนี้ รวมถึงดูเรื่องงบประมาณว่าจะมีส่วนไหนที่นำมาช่วยเหลือประชาชนได้บ้าง ส่วนงบกลางมาใช้ในการช่วยเหลือประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมจะเพียงพอหรือไม่นั้น นายจักรพงษ์ ชี้แจงว่า ก่อนหน้านี้เคยแถลงข่าวไปแล้วว่ามีการกันงบกลางต่อสภาฯ ที่มีข้อกังวลต่อการใช้งบกลาง โดยขอยืนยันว่า มีการกันงบกลางในส่วนนี้ไว้แล้วเป็นจำนวนหลายพันล้านบาท เพื่อช่วยเหลือในส่วนนี้โดยเฉพาะ ส่วนหลักเกณฑ์ในการเยียวยา สำนักปลัด สำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) จะมีการพิจารณาพิเศษอะไรเป็นหรือไม่ ต้องพูดคุยเพื่อประเมินสถานการณ์ก่อนว่าเป็นอย่างไร และ มีประชาชนเดือดร้อนมากน้อยแค่ไหน จึงขอหารือกันก่อน และจะมีการแถลงความชัดเจนต่อไป ส่วนมีการประเมินหรือไม่ว่าน้ำจะมากเท่าปี 2554 นายจักรพงษ์กล่าวว่า จากข้อมูลเบื้องต้น ปีนี้ปริมาณน้ำไม่เท่ากับปี 54 แน่นอน แต่วันนี้ได้เชิญกรมอุตุนิยมวิทยามาร่วมประเมินสถานการณ์ให้มีความแน่นอนมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ข้อมูลอัพเดทที่สุด ขณะที่ข้อเรียกร้องของประชาชนเกี่ยวกับเรื่องการแจ้งเตือนสถานการณ์ที่ล่าช้า รวมถึงสัญญาณอินเตอร์เน็ตในพื้นที่ เรื่องนี้ได้มีการพูดคุยกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เนื่องจากทั้ง 2 หน่วยงานมีระบบแจ้งเตือนอยู่แล้ว ซึ่งตนจะมีการกำชับไปอีกครั้ง ขณะที่การแก้ไขปัญหาจากอินเทอร์เน็ต เบื้องต้นกระทรวงดิจิตอลและเศรษฐกิจเพื่อสังคม อาจจะมีการนำอุปกรณ์ลงไปในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ โดยการเพิ่มรถโมบายเพื่อส่งสัญญาณชั่วคราวในภารกิจเฉพาะ โดยเริ่มการประชุม กรมอุตุนิยมวิทยาได้มีการรายงานสถานการณ์สภาพอากาศ ว่าในสัปดาห์นึ้มีแนวโน้มว่าร่องมรสุมจะขยับมาที่ภาคเหนือ จึง ตอนล่าง ภาคอีสาน และภาคกลาง จึงทำให้สอง ถึงสามวันนี้จะมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง และพื้นที่ที่มีแนวโน้มฝนตกเพิ่มขึ้นคือในพื้นที่ภาคใต้ ฝั่งตะวันออก รวมไปถึงภาคตะวันออก จึงต้อง เฝ้าระวังในช่วงสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะเพราะในพื้นที่น้ำท่วมภาคเหนือที่จะตกลงมาซ้ำ อ่านข่าว : ใกล้จุดพีค! พระ-เณรลุยช่วยชาวบ้านทำคันดินกั้นน้ำยมแตก เตือน 10 จว.ภาคกลาง-กทม.รับมือน้ำเจ้าพระยาสูงขึ้น 40-80 ซม. สภาพอากาศวันนี้ ไทยมีฝนเพิ่ม "เหนือ - ใต้" ฝนตกหนักมากบางพื้นที่
ความคืบหน้ากรณีน้ำท่วมรีสอร์ตได้รับความเสียหายในพื้นที่ จ.นครนายก แม้ว่าร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษ
วิเคราะห์ บอล อา ร์ เจน ติ น่า ซุปเปอร์ ลี ก้า -Buruh Nilai Peningkatan Kesejahteraan Pekerja Harus Kedepankan Dialog
วันนี้ (25 มี.ค.2564) ที่ศาลอาญามีนบุรี ศาลนัดอ่านคำพิพากษาชั้นฎีกา คดีที่พนักงานอัยการ สำนักงานคดีอวิเคราะห์ บอล อา ร์ เจน ติ น่า ซุปเปอร์ ลี ก้า
วันนี้ (24 พ.ย.2565) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งที่ 11/2565 ณ ห้องศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 ตร. โดยมี ก.ตร. , ผู้บังคับบั
ววิเคราะห์ บอล อา ร์ เจน ติ น่า ซุปเปอร์ ลี ก้าันนี้ (26 ส.ค.2567) นายสนธิ คชวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อมและสุข โพสต์เฟซบุ๊ก วิเคราะห์โอกาสที่น้ำจะท่วมกรุงเทพฯ และ ภาคกลาง เหมือนปี 2554 หรือไม่ โดยระบุถึง 4 ปัจจัยที่สำคัญ คือ 1.มวลน้ำจากภาคเหนือไหลลงมา ซึ่งภาคเหนือมีเขื่อนเก็บกักน้ำอยู่ยกเว้นแม่น้ำยมหากฝนตกลงมามากและมวลน้ำมีมากไหลผ่านสถานีวัดน้ำ C.13 ที่ จ.ชัยนาท หากระบายน้ำออกจากเขื่อนเจ้าพระยาเฉลี่ย 2,800-3,000 ลบ.ม.ต่อวินาทีจะ ทำให้ จ.สิงห์บุรี จ.อ่างทอง และ จ.พระนครศรีอยุธยา มีน้ำท่วมมากขึ้น หากมีการตรวจวัดที่สถานีสูบน้ำ C.29 ที่สถานีหน้าศูนย์ศิลปาชีพบางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา เกิน 2,500 ลบ.ม.ต่อวินาที จะทำให้แม่น้ำเจ้าพระยาช่วง จ.ปทุมธานี จ.นนทบุรี ถึง กรุงเทพฯ มีระดับสูงขึ้นเกิน 1 ม.จากปกติน้ำจะล้นตลิ่ง 2.ในช่วงเดือน ก.ย.-ต.ค. ของทุกปีจะมีพายุเข้ามาอย่างน้อย 1-2 ลูกหรืออาจจะมากกว่า หากฝนตกท้ายเขื่อนสิริกิติ์ และ ขื่อนภูมิพล มากโดยเฉพาะภาคกลางและปทุมธานี กทม.ซึ่งช่วงนี้ฝนจะตกแบบ Rain bomb คือ ฝนตกหนักเฉพาะจุดอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานมีโอกาสทำให้น้ำไหลเข้าท่วมมากขึ้น 3.ในช่วงเดือน ต.ค.เป็นเดือนที่มีน้ำทะเลหนุน หากการระบายน้ำแม่น้ำเจ้าพระ ยาลงสู่คลองต่าง ๆ และอ่าวไทยไม่ได้มากเนื่องจากน้ำทะเลจะทำให้น้ำท่วมนานขึ้น 4.การบริหารจัดการน้ำ การเตรียมตัวของเมืองในการขุดลอกคูคลอง การกั้นตลิ่งการระบายน้ำลงทะเลและการพร่องน้ำจากเขื่อนก่อนซึ่งจะต้องทำแต่เนิ่น ๆ ก่อนน้ำเหนือหลากลงมา ดังนั้น ปัจจัยที่สำคัญที่น้ำจะท่วมถึง จ.ปทุมธานี จ.นนทบุรี และกรุงเทพฯ ในเดือน ก.ย. และ ต.ค.ก็คือ น้ำเหนือไหลหลาก กับพายุเข้าและฝนตกหนักท้ายเขื่อน น้ำทะเลหนุน การจัดการป้องกันน้ำท่วมไม่ดีไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ ก็อาจจะทำให้เกิดน้ำท่วมได้ ให้ได้จับตาดูปริมาณน้ำและฝนตกในเดือน ก.ย. และ ต.ค.ให้ดี ขณะที่นายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยก่อนการประชุม ติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมว่า สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาประชุม เพื่อรายงานสถานการณ์เพื่อประเมินถึงสถานการณ์กลุ่มฝนที่จะเข้ามาในอนาคตข้างหน้านี้ รวมถึงจะมีการ เร่งรัดโครงการที่ สท.นช. เคยเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเมื่อเดือน ก.ค. และต้นเดือนส.ค.ที่ผ่านมา ทั้งหมด 2 โครงการ รวมถึงหาวิธีการในการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบอยู่ในขณะนี้ รวมถึงดูเรื่องงบประมาณว่าจะมีส่วนไหนที่นำมาช่วยเหลือประชาชนได้บ้าง ส่วนงบกลางมาใช้ในการช่วยเหลือประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมจะเพียงพอหรือไม่นั้น นายจักรพงษ์ ชี้แจงว่า ก่อนหน้านี้เคยแถลงข่าวไปแล้วว่ามีการกันงบกลางต่อสภาฯ ที่มีข้อกังวลต่อการใช้งบกลาง โดยขอยืนยันว่า มีการกันงบกลางในส่วนนี้ไว้แล้วเป็นจำนวนหลายพันล้านบาท เพื่อช่วยเหลือในส่วนนี้โดยเฉพาะ ส่วนหลักเกณฑ์ในการเยียวยา สำนักปลัด สำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) จะมีการพิจารณาพิเศษอะไรเป็นหรือไม่ ต้องพูดคุยเพื่อประเมินสถานการณ์ก่อนว่าเป็นอย่างไร และ มีประชาชนเดือดร้อนมากน้อยแค่ไหน จึงขอหารือกันก่อน และจะมีการแถลงความชัดเจนต่อไป ส่วนมีการประเมินหรือไม่ว่าน้ำจะมากเท่าปี 2554 นายจักรพงษ์กล่าวว่า จากข้อมูลเบื้องต้น ปีนี้ปริมาณน้ำไม่เท่ากับปี 54 แน่นอน แต่วันนี้ได้เชิญกรมอุตุนิยมวิทยามาร่วมประเมินสถานการณ์ให้มีความแน่นอนมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ข้อมูลอัพเดทที่สุด ขณะที่ข้อเรียกร้องของประชาชนเกี่ยวกับเรื่องการแจ้งเตือนสถานการณ์ที่ล่าช้า รวมถึงสัญญาณอินเตอร์เน็ตในพื้นที่ เรื่องนี้ได้มีการพูดคุยกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เนื่องจากทั้ง 2 หน่วยงานมีระบบแจ้งเตือนอยู่แล้ว ซึ่งตนจะมีการกำชับไปอีกครั้ง ขณะที่การแก้ไขปัญหาจากอินเทอร์เน็ต เบื้องต้นกระทรวงดิจิตอลและเศรษฐกิจเพื่อสังคม อาจจะมีการนำอุปกรณ์ลงไปในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ โดยการเพิ่มรถโมบายเพื่อส่งสัญญาณชั่วคราวในภารกิจเฉพาะ โดยเริ่มการประชุม กรมอุตุนิยมวิทยาได้มีการรายงานสถานการณ์สภาพอากาศ ว่าในสัปดาห์นึ้มีแนวโน้มว่าร่องมรสุมจะขยับมาที่ภาคเหนือ จึง ตอนล่าง ภาคอีสาน และภาคกลาง จึงทำให้สอง ถึงสามวันนี้จะมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง และพื้นที่ที่มีแนวโน้มฝนตกเพิ่มขึ้นคือในพื้นที่ภาคใต้ ฝั่งตะวันออก รวมไปถึงภาคตะวันออก จึงต้อง เฝ้าระวังในช่วงสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะเพราะในพื้นที่น้ำท่วมภาคเหนือที่จะตกลงมาซ้ำ อ่านข่าว : ใกล้จุดพีค! พระ-เณรลุยช่วยชาวบ้านทำคันดินกั้นน้ำยมแตก เตือน 10 จว.ภาคกลาง-กทม.รับมือน้ำเจ้าพระยาสูงขึ้น 40-80 ซม. สภาพอากาศวันนี้ ไทยมีฝนเพิ่ม "เหนือ - ใต้" ฝนตกหนักมากบางพื้นที่
ความคืบหน้ากรณีน้ำท่วมรีสอร์ตได้รับความเสียหายในพื้นที่ จ.นครนายก แม้ว่าร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษ