วันนี้ (8 ก.ค.2564) สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า

วันที่ (1 เม.ย.2568) ศูนย์สำรวจความคิดเห็นบ้านสมเด็จโพลล์ สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ได้ดำเนินโครงการสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหาการหลอกลวงของคอลเซนเตอร์ โดยเก็บจากกลุ่
วันนี้ (22 ก.พ.2564) จากกรณีที่ชาวบ้านในพื้นที่ อ.บ้านฝาง และ อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น ถูกกลุ่มข้าราชการครูในพื้นที่ ขอบัตรประชาชนแล้วถ่ายเอารูปบัตรประชาชนไป แลกกับเงิน 200 บาท จนนำไปสู่การทุจริตโครงการคน
ชาวบ้าน ใน พื้นที่ ม.7 ต.ไสไทย อ.เมืองกระบี่ มีครัวเรือน 2,600 ครัว ประชาชน กว่า 10,000 คน เป็นชุมชนที่อยู่ด้านหลังของเรือนจำจังหวัดกระบี่ ทีมข่าวไทยพีบีเอส สำรวจแนวรั้วหลังเรือนจำกระบี่ พบว่า เป็นป่ารกก่อนเกิดเหตุจลาจลในเรือนจำ ชาวบ้านก็ได้รับปัญหาความเดือดร้อนเพราะเป็นพื้นที่เดียวที่ผู้ต้องขังในเรือนจำจะใช้ในการหลบหนีออกมา หากทางเรือนจำแจ้งว่า ให้เฝ้าระวัง ทั้งผู้สูงอายุ ไม่เป็นอันหลับนอน ไม่เป็นอันทำมาหากิน ผู้ใหญ่บ้าน ม.7 บอกว่า อยากให้มีการย้ายเรือนจำออกไปในพื้นที่ที่เหมาะสม คนในชุมชนจะได้อยู่กันแบบสบายใจ ไม่ระแวง บริเวณโดยรอบเรือนจำอยู่ติดกับ สถานศึกษาถึง 3 แห่ง ทั้งโรงเรียนอิศรานุสรณ์ อยู่ถัดกับเรือนจำไปถือว่ายังไม่ได้ใกล้มาก แต่ว่าโรงเรียนอุตรกิจ ซึ่งอยู่ติดชิดกับเรือนจำ มีนักเรียนชั้นประถม 1,000 กว่าคน เคยมีเหตุการณ์ผู้ต้องขังหนีออกมาจากเรือนจำด้วย แต่ว่าเหตุเกิดเวลากลางคืน ส่วนโรงเรียนอำมาตย์พานิชนุกูล จุดที่ถ่ายคลิปวีดีโสูตร บา คา ร่า ใช้ได้ ทุก เว็บอไฟไหม้ในเรือนจำได้ เป็นจุดที่คนในชุมชน ผู้ปกครอง บอกว่า จากอาคารที่สร้างสูงขึ้น ทำให้เด็กเห็นพฤติกรรมคนในเรือนจำทั้งหมด ชาวบ้านบอกว่า เป็นโอกาสที่หน่วยงานจะต้องพิจารณากันอีกครั้งให้ย้ายเรือนจำออกไปจากพื้นที่ชุมชนและหาจุดสมดุลที่ดีในการสร้าง ไม่ให้พื้นที่ต่อไปเกิดปัญหาซ้ำซ้อนแบบนี้อีก ชาวบ้านยังบอกอีกว่า ขณะนี้ไม่เกี่ยวข้องว่า อะไรสร้างก่อน -หลัง แต่ในเมื่อ จ.กระบี่ มีความเจริญขึ้น ผังเมืองก็ต้องปรับตัวตามเช่นเดียวกัน
มูลนิธิอิศรา อมันตกุล และสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ได้จัดการประกวดรางวัลอิศรา อมันตกุ
จากกรณีผู้ปกครองนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ได้ร
ชาวบ้าน ใน พื้นที่ ม.7 ต.ไสไทย อ.เมืองกระบี่ มีครัวเรือน 2,600 ครัว ประชาชน กว่า 10,000 คน เป็นชุมชน
ชาวบ้าน ใน พื้นที่ ม.7 ต.ไสไทย อ.เมืองกระบี่ มีครัวเรือน 2,600 ครัว ประชาชน กว่า 10,000 คน เป็นชุมชนที่อยู่ด้านหลังของเรือนจำจังหวัดกระบี่ ทีมข่าวไทยพีบีเอส สำรวจแนวรั้วหลังเรือนจำกระบี่ พบว่า เป็นป่ารกก่อนเกิดเหตุจลาจลในเรือนจำ ชาวบ้านก็ได้รับปัญหาความเดือดร้อนเพราะเป็นพื้นที่เดียวที่ผู้ต้องขังในเรือนจำจะใช้ในการหลบหนีออกมา หากทางเรือนจำแจ้งว่า ให้เฝ้าระวัง ทั้งผู้สูงอายุ ไม่เป็นอันหลับนอน ไม่เป็นอันทำมาหากิน ผู้ใหญ่บ้าน ม.7 บอกว่า อยากให้มีการย้ายเรือนจำออกไปในพื้นที่ที่เหมาะสม คนในชุมชนจะได้อยู่กันแบบสบายใจ ไม่ระแวง บริเวณโดยรอบเรือนจำอยู่ติดกับ สถานศึกษาถึง 3 แห่ง ทั้งโรงเรียนอิศรานุสรณ์ อยู่ถัดกับเรือนจำไปถือว่ายังไม่ได้ใกล้มาก แต่ว่าโรงเรียนอุตรกิจ ซึ่งอยู่ติดชิดกับเรือนจำ มีนักเรียนชั้นประถม 1,000 กว่าคน เคยมีเหตุการณ์ผู้ต้องขังหนีออกมาจากเรือนจำด้วย แต่ว่าเหตุเกิดเวลากลางคืน ส่วนโรงเรียนอำมาตย์พานิชนุกูล จุดที่ถ่ายคลิปวีดีโสูตร บา คา ร่า ใช้ได้ ทุก เว็บอไฟไหม้ในเรือนจำได้ เป็นจุดที่คนในชุมชน ผู้ปกครอง บอกว่า จากอาคารที่สร้างสูงขึ้น ทำให้เด็กเห็นพฤติกรรมคนในเรือนจำทั้งหมด ชาวบ้านบอกว่า เป็นโอกาสที่หน่วยงานจะต้องพิจารณากันอีกครั้งให้ย้ายเรือนจำออกไปจากพื้นที่ชุมชนและหาจุดสมดุลที่ดีในการสร้าง ไม่ให้พื้นที่ต่อไปเกิดปัญหาซ้ำซ้อนแบบนี้อีก ชาวบ้านยังบอกอีกว่า ขณะนี้ไม่เกี่ยวข้องว่า อะไรสร้างก่อน -หลัง แต่ในเมื่อ จ.กระบี่ มีความเจริญขึ้น ผังเมืองก็ต้องปรับตัวตามเช่นเดียวกัน
ประเทศสวีเดนได้เริ่มนำร่องการใช้งานถนนชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle : EV) แบบชั่วคราวไปบ้างแล้ว