หนังม้วนยาวต้องจับตาต่อเนื่อง "โครงการรับจำนำข้าว" ในยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยังปิดจ็อบไม่ลง หลังกระทรวงพาณิชย์ โดยองค์การคลังสินค้า(อคส.) ยื้อประกาศผลการประมูลข้าวปริมาณ 15,000 ตัน หรือ145,590 แส

หนังม้วนยาวต้องจับตาต่อเนื่อง "โครงการรับจำนำข้าว" ในยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยังปิดจ็อบไม่ลง หลังกระทรวงพาณิชย์ โดยองค์การคลังสินค้า(อคส.) ยื้อประกาศผลการประมูลข้าวปริมาณ 15,000 ตัน หรือ145,590 แสนกระสอบ แม้ บริษัทวีเอท อินเตอร์เทรดดิ้ง ชนะการประมูลข้าวไปทั้ง 2 โกดัง แต่บูมเมอแรงสะท้อนกลับมาที่  "องค์การคลังสินค้า (อคส.)" และกระทรวงพาณิชย์ ว่า เหตุใดจึงยังไม่ประกาศผลการประมูลข้าว หรือมีเบื้องหน้า-เบื้องลึก-เบื้องหลังอย่างไร หากพลิกข้อมูลบริษัทวีเอทฯ ในฐานะผู้ชนะการประมูลข้าวทั้ง 2 คลัง พบ เป็นบริษัทในเครือของ "บริษัทสวัสดิ์ไพบูลย์การเกษตร จำกัด" และ "โรงสีสวัสดิ์ไพบูลย์" อยู่ในพื้นที่จ.กำแพงเพชร มี "เสี่ยปู" นายกิตติชัย ตั้งเจริญ เป็นเจ้าของ และเป็นบริษัทผู้ส่งออกมันสำปะหลังรายใหญ่ของประเทศที่ได้รับคัดเลือกให้ไปลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ในงาน Belt and Road Forum เมื่อปลายปี 2566 เพื่อจัดซื้อมันสำปะหลังในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปี 2567 กับ COFCO Group รัฐวิสาหกิจผู้ผลิตอาหารและผู้ค้าธัญพืชรายใหญ่ที่สุดของจีน จำนวน 500,000 ตันหรือ 500 กก. มูลค่าประมาณกว่า 4,600 ล้านบาท ที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินทางร่วมการประชุม Belt and Road Initiative (BRI) ที่ประเทศจีนเมื่อช่วงเดือนต.ค.2566 สำหรับการประมูลข้าวจากโครงการรับจำข้าว อคส.เคยเปิดประมูลไปแล้ว 4 ครั้ง  โดยครั้งแรก (57/58) ผู้ชนะประมูลไม่มาชำระเงิน ซึ่งในคลังนี้เจ้าของคลังเป็นผู้ชนะแต่ไม่ชำระเงิน อ้างว่ามีข้าวขาวปลอมปน อคส.ยกเลิกสัญญาและฟ้อง, ครั้งที่ 2 (1/62) ธ.ค. 2562 ผู้ชนะประมูลไม่มาชำระเงินและรับมอบข้าว ครั้งที่ 3 (1/66) ก.ค.2566 เอกชนคัดค้าน TOR เรื่องแสดงฐานะการเงิน อคส. ยกเลิกประมูลและส่งกลับให้คณะกำหนด TOR พิจารณา และขยายเวลาให้คราวละ 1 ปี และครั้งที่ 4 (1/67) ไม่มีเอกชนเข้าร่วมฟัง TOR เนื่องจาก รมว.พาณิชย์ สั่งยกเลิกการประมูลทำให้อคส.ยกเลิกประมูล และการประมูลครั้งที่ 5 ( 1/2567) อคส.ประกาศเปิดยื่นซอง มีเอกชนสนใจมากถึง 8 ราย แต่ผ่านคุณสมบัติ 7 ราย และได้ผู้เสนอราคาสูงสุดคือ "วีเอท" ทั้ง 2 คลัง แต่อคส. ไม่สามารถประกาศผลการประมูลได้ เนื่องจากมีการตั้งข้อสังเกตถึงทุนจดทะเบียนของบริษัทที่มีเพียง 2 ล้านบาท แต่กลับประมูลข้าวไปในราคาเกือบ 300 ล้านบาท เป็นเหตุให้กระทรวงพาณิชย์ สั่งให้อคส.ตรวจสอบคุณสมบัติของวีเอท โดยให้เวลา 7 วันและครบกำหนดไปแล้วเมื่อวานนี้ (2 ก.ค.67) แหล่งข่าวจากวงในการประมูลข้าว ตั้งคำถามว่าเหตุใด กระทรวงพาณิชย์และอคส.จึงไม่ประกาศผลการประมูลในวันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่ บริษัทธนสรรไรซ์ จำกัด ซึ่งเข้ารวมประมูลและเสนอราคาต่ำลงมาเป็นอันดับสอง แต่อคส. กลับเรียกให้บริษัทธนสรรไรซ์ มาเสนอราคาใหม่อีกรอบเพื่อแข่งกับบริษัทวีเอทที่เสนอเพิ่มเงินให้คลังละ 10,000 บาท ดังนั้น สปอต์ไลท์ จึงกลับมาส่องที่ บริษัท ธนสรรไรซ์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ของประเทศอีกครั้งว่า บริษัทดังกล่าวอาจจะมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับฝ่ายการเมืองหรือไม่ และหากบริษัทธนสรรไรซ์ เสนอราคาใหม่แล้วได้ข้าว 2 กองนี้ไป เกมยื้อเวลาที่ทอดยาวอาจเอื้อประโยชน์ให้พรรคพวกหรือผู้ที่แฝงอยู่เบื้องหลังของนอมินี แหล่งข่าวรายเดิม ให้ข้อมูลเชิงลึกกับ "ไทยพีบีเอสออนไลน์" ว่า ตามกติกา ผู้ที่ชนะการประมูล คือ บริษัทวีเอท อินเตอร์เทรดดิ้ง ที่เสนอราคาสูงทั้ง 2 โกดัง ควรจะจบไปเมื่อวันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา เพราะเบื้องหลังของ วีเอท อินเตอร์เทรดดิ้ง ก็คือ หนึ่งในบริษัทลูกของสวัสดิ์ไพบูลย์การเกษตร และโรงสีสวัสดิ์ไพบูลย์ ที่ต่างก็มีสายสัมพันธ์ที่ดีกับพรรคเพื่อไทยเช่นเดียวกับ บริษัท ธนสรรไรซ์ จำกัด ทั้งนี้ในทีโออาร์ การจำหน่ายข้าวสารในสต๊อกของรัฐเป็นการทั่วไปครั้งที่1/2567 ข้อ 7 การพิจารณาผู้เสนอซื้อ ระบุชัดว่า คณะทำงานรับ-เปิดซองและต่อรองราคา ข้าวในสต๊อกของรัฐจะพิจารณาผู้เสนอที่มีคุณสมบัติถูกต้องครบถ้วนและเสนอซื้อราคาสูงสุดในแต่ละครั้ง โดยคณะทำงานฯจะเจรจากับ "ผู้เสนอซื้อราคาสูงสุดในแต่ละคลัง" แต่กรณีที่ผู้เสนอซื้อราคาสูงสุดในแต่ละคลังเท่ากันทั้งสองรายขึ้นไปให้ผู้เสนอซื้อราคาเท่ากันเสนอซื้อเพิ่มเติมจากราคาเดิมตาม แบบกำหนดในเอกสารแนบท้ายประกาศ 7 คือ การเสนอซื้อเพิ่มแต่ละรายจะต้องเสนอราคาซื้อเพิ่มเติมไม่ต่ำกว่าครั้งละ 5,000 บาท จนกว่าจะได้ผู้เสนอราคาสูงสุดเพียงรายเดียว แหล่งข่าวรายเดิม อธิบายว่า ในทีโออาร์ "วีเอท" คือ ผู้เสนอสูงสุดรายเดียว ดังนั้น อคส.ไม่ควรเรียกผู้ที่เสนอราคารองลงมา มาต่อรองราคาอีก การเรียกอันดับที่ 2 และที่ 3 มาต่อรองราคา เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง หากทำแบบนี้ไม่ต้องมีการเปิดซอง และเหตุผลที่ไม่ควรเรียกผู้ที่เสนอราคาต่ำกว่ามาเจรจา เนื่องจากทีโออาร์ไม่ได้ระบุไว้ว่า ต้องเรียกเรียกเบอร์ 2 เบอร์ 3 มาเจรจา ซึ่งผู้เข้าประมูลจะทราบกติกาอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม หากย้อนกลับไปดู แผนประทุษกรรมในโครงการทุจริตจำนำข้าวที่ผ่านมา จะเห็นพฤติการณ์บ่อยครั้งของผู้ประกอบการบางรายหรือเจ้าของคลังบางคลัง นำข้าวในคลังไปขายแล้ว สวมข้าวชนิดอื่นมาเวียนเทียนขาย หากข้าวชนิดใดมีราคาสูงก็จะนำไปขายเพื่อทำกำไรก่อน เช่น เมื่อนำข้าวหอมมะลิเข้าคลังเสร็จ หากพบว่า ข้าวหอมมะลิในขณะนั้นราคาสูงจะมีการแอบนำข้าวหอมมะลิไปขาย แล้วนำข้าวขาวมาใส่ไว้ในคลัง หรือหากเป็นข้าวเหนียวแอบนำข้าวเหนียวไปจำหน่ายแล้วนำข้าวขาวมาสวมแทน “ข้อเท็จจริงมีให้เห็น เมื่ออดีต เช่น กรณีไฟไหม้ โรงสี-คลังสินค้าใหญ่ที่ จ.กำแพงเพชรหลายปีก่อน ตรวจสอบพันธุ์กรรมข้าวที่ถูกไฟไหม้กลับพบป็นข้าวขาว ไม่ใช่ข้าวเหนียวอย่างที่แจ้งไว้ ....เมื่อก่อนราคาข้าวเหนียวแพงกว่าข้าวขาวหลายเท่าตัว เช่น ข้าวเหนียวโละ 22 บาท ข้าวขาว โลละ 12 บาท หรือข้าวเหนียวโลละ 30 บาท แต่ข้าวขาวโลละ 15 บาท ราคาที่จูงใจเช่นนี้ ทำผู้ประกอบการบางรายหัวใสแอบนำข้าวที่มีราคาสูงในโกดังไปขายทำราคาก่อนแล้วหาข้าวชนิดอื่นมาแทน” สำหรับการเปิดโกดังข้าว ของอคส. ตามปกติ จะต้องมีกุญแจ 3 ดอก เพื่อเปิดโกดังพร้อมกัน แต่ต้องไม่ลืมว่าประตูโกดังไม่ได้มีทางเข้าออกเพียงทางเดียวและทางออกไม่จำเป็นกุญแจเท่านั้น หากจะมีการทุจริตก็จะมีวิธีการที่รู้กัน อ่านข่าว: เบื้องลึกประมูล "ฟอกข้าวเก่า 10 ปี" ยากปิดจ็อบ "ยิ่งลักษณ์" รับจำนำข้าว "วี เอท" เสนอราคา 19.07 บ./กก. คว้าชัยประมูลข้าว 10 ปี มีข้อมูลจากวงการค้าข้าว ระบุว่า การประมูลข้าวครั้งแรก (2557/2558) อคส.เปิดประมูลข้าวและเจ้าของโกดังได้เข้าร่วมประมูลแต่ไม่มารับมอบข้าวจนมีเรื่องฟ้องร้องกับอคส. เนื่องจากพบข้าวขาวปลอมปนอยู่ในโกดัง ดังนั้นหากข้อเท็จจริงเป็นไปในลักษณะเดียวกัน อาจจะมีคำถาม เหตุใด ข้าวเพียง 15,000 ตัน จึงมีปัญหามากเพียงนี้ นอกจากนี้ยังมีคำถามอีกว่า เมื่อทั้ง 2 บริษัท ต่างมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับพรรคเพื่อไทย แล้วเหตุใดถึงไม่หลีกทางให้กัน มีการวิเคราะห์ข้อมูลจากวงในค้าข้าว ว่า มีความเป็นไปได้ที่อาจจะเกิดการผิดคิวเพราะไม่ได้คุยกันก่อน ราคาที่เสนอกิโลกรัมละ 18 บาท เป็นราคาที่สมเหตุสมผล แต่เมื่อวีเอท เสนอมากิโลละ 19 บาท ซึ่งสูงกว่าธนสรรไรซ์ ถือว่าผิดคาดพอสมควร เพรผล บอล ยู ฟ่า แาะธนสรรไรซ์ คือ ตัวเต็งของการประมูลข้าวครั้งนี้ ทั้งนี้ หากกระทรวงพาณิชย์ จะผลักดันให้ธนสรรไรซ์ได้ข้าว 2 คลังนี้ ต้องถามว่า คณะกรรมการที่อยู่ในคณะเจรจาฯซึ่งเป็นคนนอก จากสภาหอการค้าไทย หรือ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์(ธกส.)จะเอาด้วยหรือไม่ เพราะในทีโออาร์ไม่ได้กำหนดว่าเปิดซองราคาแล้วต้องต่อรองกับคนที่เสนอราคารองลงมา แต่ทีโออาร์ระบุว่าต้องต่อรองราคากับผู้ที่ชนะเท่านั้นเงื่อนไขกติกาเป็นอย่างนี้นับตั้งแต่มีการประมูลมา 10 ปีแล้ว “เชื่อว่า คณะกรรมการพิจารณาฯ คงยืนให้ "วีเอท"ได้ข้าวไป แต่ก็มีการกำชับคณะทำงานของกระทรวงพาณิชย์ ...ให้ธนสรรไรซ์ได้ข้าว 2 กองนี้ไป โดย วีเอท ต้องยอมถอย ซึ่งยากเพราะวีเอทจะโดน อคส.ฟ้องส่วนต่างถือว่าทิ้งงาน ในทีโออาร์ ระบุชัดว่า เมื่อมีการเสนอซื้อสินค้า ถือว่าผู้เสนอซื้อได้ตรวจสอบปริมาณและสถานะของสินค้าที่เก็บรักษาที่คลังสินค้า และเมื่อมีการเสนอซื้อ ผู้เสนอซื้อจะขอถอนการซื้อไม่ได้ ถ้าหากผู้เสนอซื้อถอนการเสนอซื้อ อคส.ขอสงวนสิทธิในการริบหลักประกันทั้งหมดและอคส.จะให้สิทธิผู้เสนอซื้อในลำดับต่อไป แต่ในกรณีนี้วีเอทยังไม่ถอนการซื้อและพร้อมจะจ่ายเงินสดเกือบ 300 ล้านบาท และขนข้าวออกจากโกดังที่ประมูลได้ทันที จะเข้าข่ายพ.ร.บ.ฮั้วประมูลหรือไม่ คิดว่า คงไม่ แต่จะเป็นการฮั้วเพื่อเอื้อผลประโยชน์มากกว่า แต่จนถึงวันนี้ ยังไม่มีคำตอบว่า จะทราบผลการประมูลข้าวเมื่อใด แม้ก่อนหน้านี้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ได้แจ้งต่อสังคมว่า ผลการประมูลจะได้ข้อยุติภายในเดือนก.ค.นี้ก็ตาม โปรดอย่ากระพริบตา เพราะไม่ว่าใครจะฝ่ายชนะ สะท้อนให้เห็นเบื้องลึกความสัมพันธ์ทางการเมืองเด่นชัดขึ้น ส่วนรัฐจะได้ประโยชน์จากการฟอกขาวให้ใครหรือไม่นั้น เป็นอีกเรื่องหนึ่ง อ่านข่าว: ข้าวไทยแพง ถูกเวียดนามแย่งตลาด "ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย" แกะรอย มหกรรมโชว์กินข้าว 10 ปี กินได้จริงหรือ? ฤาหาทางลง ย้อนรอย มหากาพย์ "โครงการจำนำข้าว" ปิดฉากฟอกข้าว 10 ปี

สงครามการเมือง ระดับประเทศ ยังไม่จบ หลัง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ออกมาทิ้งบอมบ์ ได้เข้าเยี่ยม "ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี ขณะถูกควบคุมตัว โดยไปพักรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลต

วันนี้ (14 เม.ย.2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี รายงานสถานการณ์ผู้ติดเชื้อ 

นิยายชีวิต โดย : Donald Karouw
เรื่องและภาพโดย : Donald Karouw
[[คลิก]] อ่านเรื่องราว “นิยายชีวิต” ได้ที่นี่..