3 องค์กรวิชาชีพสื่อ ออกแถลงการณ์เลิกคุกคามสื่อ 3 องค์กรวิชาชีพสื่อ ออกแถลงการณ์ ระบุ การกระทำและพฤติกรรมข่มขู่ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 7 เป็นการคุกคามสิทธิ เสรีภาพและการทำหน้าที่ของสื่อมวล
วันนี้ (8 ม.ค.2565) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กระทรวงการจัดการสถานการณ์ฉุกเฉินจีนระดมกำลังเจ้าหน้าที่กู้ภัยมากกว่า 600 คน ลงพื้นที่เร่งค้นหาและช่วยเหลือผู้รอดชีวิตที่อาจติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังของอา
3 องค์กรวิชาชีพสื่อ ออกแถลงการณ์เลิกคุกคามสื่อ 3 องค์กรวิชาชีพสื่อ ออกแถลงการณ์ ระบุ การกระทำและพฤติกรรมข่มขู่ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 7 เป็นการคุกคามสิทธิ เสรีภาพและการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนอย่างชัดแจ้ง พร้อมเรียกร้องให้ประชาชนที่มีจุดยืนทางการเมืองแตกต่างกันใช้ความอดทนอดกลั้น ติดตามข่าวสารอย่างมีสติ 3 องค์กรวิชาชกีฬาzpellSLOTีพสื่อ ออกแถลงการณ์เลิกคุกคามสื่อ สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย, สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ออกแถลงการณ์กรณี การส่งต่อจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ที่มีข้อความปลุกระดมให้เกิดความเกลียดชังผู้สื่อข่าวช่อง 7 ด้วยการโพสต์ภาพถ่าย และชื่อ นามสกุล โดยระบุว่า เป็นการเปิดเผยโฉมหน้านักข่าวที่ซักถามจนทำให้นายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ชินวัตรเดินหนี เรียกร้องให้ทุกฝ่ายตระหนักว่าสื่อมวลชน ทำหน้าที่รายงานข่าวและสัมภาษณ์เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงตามหน้าที่ ไม่ใช่เป็นคู่ขัดแย้งกับใคร จึงไม่ควรตกเป็นเป้าหมายของการข่มขู่คุกคามจนไม่สามารถทำหน้าที่ได้อย่างอิสระและส่งผลกระทบต่อประชาชนที่ไม่สามารถรับรู้ข่าวสารข้อมูลและข้อเท็จจริง ตามรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 28 ระบุว่า "บุคคลจะใช้สิทธิและเสรีภาพของตนได้เท่าที่ไม่ละเมิดสิทธิเสรีภาพของบุคคลอื่น" ดังนั้น บุคคล ที่มีความเห็นแตกต่างกันในทางการเมือง ต้องไม่ใช้วิธีการที่เป็นการละเมิด ข่มขู่ คุกคาม สิทธิเสรีภาพของบุคคลอื่น และสำหรับประชาชนกลุ่มต่างๆ ซึ่งอาจมีจุดยืนหรือความเห็นทางการเมืองแตกต่างกัน ควรใช้ความอดกลั้น ความเข้าใจและมีสติยับยั้งในการสนับสนุนกลุ่มหรือพรรคการเมืองใด โดยติดตามข่าวสารอย่างมีสติ อย่าเชื่อข่าวสารที่ปราศจากที่มาชัดเจน ซึ่งอาจยั่วยุให้มีการใช้ความรุนแรง สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย, สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ออกแถลงการณ์กรณี การส่งต่อจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ที่มีข้อความปลุกระดมให้เกิดความเกลียดชังผู้สื่อข่าวช่อง 7 ด้วยการโพสต์ภาพถ่าย และชื่อ นามสกุล โดยระบุว่า เป็นการเปิดเผยโฉมหน้านักข่าวที่ซักถามจนทำให้นายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ชินวัตรเดินหนี เรียกร้องให้ทุกฝ่ายตระหนักว่าสื่อมวลชน ทำหน้าที่รายงานข่าวและสัมภาษณ์เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงตามหน้าที่ ไม่ใช่เป็นคู่ขัดแย้งกับใคร จึงไม่ควรตกเป็นเป้าหมายของการข่มขู่คุกคามจนไม่สามารถทำหน้าที่ได้อย่างอิสระและส่งผลกระทบต่อประชาชนที่ไม่สามารถรับรู้ข่าวสารข้อมูลและข้อเท็จจริง ตามรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 28 ระบุว่า "บุคคลจะใช้สิทธิและเสรีภาพของตนได้เท่าที่ไม่ละเมิดสิทธิเสรีภาพของบุคคลอื่น" ดังนั้น บุคคล ที่มีความเห็นแตกต่างกันในทางการเมือง ต้องไม่ใช้วิธีการที่เป็นการละเมิด ข่มขู่ คุกคาม สิทธิเสรีภาพของบุคคลอื่น และสำหรับประชาชนกลุ่มต่างๆ ซึ่งอาจมีจุดยืนหรือความเห็นทางการเมืองแตกต่างกัน ควรใช้ความอดกลั้น ความเข้าใจและมีสติยับยั้งในการสนับสนุนกลุ่มหรือพรรคการเมืองใด โดยติดตามข่าวสารอย่างมีสติ อย่าเชื่อข่าวสารที่ปราศจากที่มาชัดเจน ซึ่งอาจยั่วยุให้มีการใช้ความรุนแรง
เมื่อวันที่ 5 เม.ย.2567 โพสต์ในสื่อสังคมออนไลน์ ระบุ ใจความว่าเดินทางด้วยสายการบินหนึ่งจากกรุงเทพฯไปหาดใหญ่ ช่วงบ่ายวันเสาร์ที่ผ่านมา (4 เม.ย.) แต่เครื่องยนต์ดับ สตาร์ทไม่ติด ในช่วงก่อนที่จะบินขึ้นจาก
แก๊งต้มตุ๋นหลอกเงินชาวบ้านอ้างนำไปมัดจำซื้อที่ ชาวบ้านในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ถูกแก๊งต้มตุ๋นหลอกเงิน
