UID: 82986

วันนี้ (27 มี.ค.2564) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นำรัฐมนตรีใหม่ทั้ง 4 คน เฝ้าพระบาทสมเด็จ

การเป็นเจ้าภาพประชุมใหญ่สามัญประจำปีของสหพันธ์เทนนิสนานาชาติปลายเดือนกันยายนนี้ อาจจะทำให้ไทยได้ประโ

การเป็นเจ้าภาพประชุมใหญ่สามัญประจำปีของสหพันธ์เทนนิสนานาชาติปลายเดือนกันยายนนี้ อาจจะทำให้ไทยได้ประโยชน์ในการเสนอตัวจัดเทนนิสรายการใหญ่อย่างเทนนิส มาสเตอร์ หรือ เวิลด์ทัวร์ในอนาคต ขณะที่นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภปฏิเสธไม่รับตำแหน่งบอร์ดบริหารไอทีเอฟแน่นอนหากมีคนเสนอชื่อ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ นายกลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในการประชุมใหญ่สามัญประจำปีของสหพันธ์เทนนิสนานาชาติ หรือ ไอทีเอฟ ระหว่างวันที่ 21-23 กันยายนนี้ ภาพลักษณ์อันงดงามของไทยจะทำให้บรรดาสมาชิกสหพันธ์กว่า 500 คน ซึ่งบางคนที่ปัจจุบันดำรงตำแหน่งนายกลอนเทนนิสสมาคมเคยเป็นอดีตประธานาธิบดี อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตรัฐมนตรี ซึ่งถือเป็นบุคคลที่มีอิทธิพลในระดับต้นๆ  ของประเทศเกิดความสนใจ ดังนั้น จึงมั่นใจว่าหลังการป็นเจ้าภาพประเทศไทยจะได้ประโยชน์หลายด้านทั้งความร่วมมือในการส่งนัdafabet หลักกกีฬามาร่วมฝึกกับศูนย์พัฒนาเทนนิสเอเชีย และที่สำคัญนายสุวัจน์มีแนวคิดที่จะนำทัวร์นาเมนท์สำคัญในระดับสูงขึ้นมาจัดในประเทศไทย อาทิ รายการมาสเตอร์ และการแข่งขันเวิลด์ทัวร์ ซึ่งโอกาสที่ไทยจะได้เป็นเจ้าภาพมีมากกว่าการเสนอตัวเป้นเจ้าภาพฟุตบอลโลก หรือ โอลิมปิกแน่นอน แม้ว่ารายการเหล่านี้จะใช้งบประมาณอย่างน้อย 450 ล้านบาท แต่อนาคตไทยจะมีความพร้อมมากขึ้นเพราะสนามฟุตซอลสร้างใหม่ที่หนองจอกความจุอย่างน้อย 12,000 ที่นั่ง อยู่ในเกณฑ์ที่จะใช้จัดการแข่งขันเทนนิสด้วยเช่นกัน ซึ่งไม่ต้องลงทุนเพิ่ม เพียงแต่รัฐบาลต้องให้การสนับสนุนงบประมาณด้านอื่น สำหรับวันสุดท้ายของการประชุมประธานไอทีเอฟจะเป็นเจ้าภาพเลี้ยงขอบคุณประเทศสมาชิกโดยจะใช้ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาลเป็นสถานที่จัดเลี้ยง โดนล่าสุด นายสุวัจน์ทำหนังสือเรียบเชิญ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเข้าร่วมงานเลี้ยงครั้งนี้ด้วย นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ นายกลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในการประชุมใหญ่สามัญประจำปีของสหพันธ์เทนนิสนานาชาติ หรือ ไอทีเอฟ ระหว่างวันที่ 21-23 กันยายนนี้ ภาพลักษณ์อันงดงามของไทยจะทำให้บรรดาสมาชิกสหพันธ์กว่า 500 คน ซึ่งบางคนที่ปัจจุบันดำรงตำแหน่งนายกลอนเทนนิสสมาคมเคยเป็นอดีตประธานาธิบดี อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตรัฐมนตรี ซึ่งถือเป็นบุคคลที่มีอิทธิพลในระดับต้นๆ  ของประเทศเกิดความสนใจ ดังนั้น จึงมั่นใจว่าหลังการป็นเจ้าภาพประเทศไทยจะได้ประโยชน์หลายด้านทั้งความร่วมมือในการส่งนักกีฬามาร่วมฝึกกับศูนย์พัฒนาเทนนิสเอเชีย และที่สำคัญนายสุวัจน์มีแนวคิดที่จะนำทัวร์นาเมนท์สำคัญในระดับสูงขึ้นมาจัดในประเทศไทย อาทิ รายการมาสเตอร์ และการแข่งขันเวิลด์ทัวร์ ซึ่งโอกาสที่ไทยจะได้เป็นเจ้าภาพมีมากกว่าการเสนอตัวเป้นเจ้าภาพฟุตบอลโลก หรือ โอลิมปิกแน่นอน แม้ว่ารายการเหล่านี้จะใช้งบประมาณอย่างน้อย 450 ล้านบาท แต่อนาคตไทยจะมีความพร้อมมากขึ้นเพราะสนามฟุตซอลสร้างใหม่ที่หนองจอกความจุอย่างน้อย 12,000 ที่นั่ง อยู่ในเกณฑ์ที่จะใช้จัดการแข่งขันเทนนิสด้วยเช่นกัน ซึ่งไม่ต้องลงทุนเพิ่ม เพียงแต่รัฐบาลต้องให้การสนับสนุนงบประมาณด้านอื่น สำหรับวันสุดท้ายของการประชุมประธานไอทีเอฟจะเป็นเจ้าภาพเลี้ยงขอบคุณประเทศสมาชิกโดยจะใช้ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาลเป็นสถานที่จัดเลี้ยง โดนล่าสุด นายสุวัจน์ทำหนังสือเรียบเชิญ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเข้าร่วมงานเลี้ยงครั้งนี้ด้วย

วันนี้ (24 มี.ค.2564) น.ส.จันทร์จิรา จันทร์แผ้ว ทนายความภาคีนักกฎหมายเพื่อสิทธิมนุษยชน พร้อมทีมงาน เ