ทั้งโลกเป็นหนี้บุญคุณประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เพราะเขาเป็นผู้ทำลายระบบพหุภาคีนิยม (multilateralis

เมื่อวันที่ 17 พ.ย.2565 ทวิตเตอร์ส่วนตัว Emmanuel Macron ของ เอมานูว์แอล มาครง ปธน.ฝรั่งเศส ได้โพสต์คลิปวิดีโอ ปธน.ฝรั่งเศสเดินทางเยี่ยมชม ศูนย์ศิลปะมูลนิธิ จิม ทอมป์สัน ใน กทม. พร้อมบรรยายว่า สถานที่

ทั้งโลกเป็นหนี้บุญคุณประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เพราะเขาเป็นผู้ทำลายระบบพหุภาคีนิยม (multilateralism) อย่างเลือดเย็น ระบบที่เคยเป็นแกนหลักของระเบียบโลกหลังสงครามโลกครั้งที่สอง เขาทำสำเร็จภายในเวลาเพียงเจ็ดสัปดาห์หลังกลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีในวาระที่สอง ทรัมป์ใช้นโยบาย "America First" หรือ "อเมริกาต้องมาก่อน" หรือ "อเมริกาเท่านั้น" เป็นกลไกสร้างความยิ่งใหญ่ให้กับประเทศและตัวเขา ทำลายความร่วมมือพันธมิตรระหว่างประเทศที่สหรัฐฯ เคยสนับสนุนมากว่าเจ็ดสิบปี และยังขู่ขึ้นภาษีอย่างไร้ยางอายกับประเทศคู่ค้าทั่วโลก ที่ผ่านมา ทรัมป์ได้ถอนสหรัฐฯ ออกจากข้อตกลงระหว่างประเทศหลายฉบับ เช่น ความตกลงปารีสว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในปี 2017 ซึ่งส่งผลให้ความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อมในเวทีระหว่างประเทศอ่อนแอลง นอกจากนี้ เขายังถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านในปี 2018 ทำให้การเมืองตะวันออกกลางยิ่งไร้เสถียรภาพ และกระตุ้นให้อิหร่านกลับมาเสริมสร้างศักยภาพด้านนิวเคลียร์ โดยส่วนตัว ทรัมป์ไม่ให้ความสำคัญกับกรอบความร่วมมือภายใต้องค์การสหประชาชาติ เขาถอนตัวจากองค์การยูเนสโก (UNESCO) และองค์การอนามัยโลก (WHO) ส่งผลให้ความร่วมมือด้านวัฒนธรรมและสาธารณสุขโลกลดความสำคัญลง นอกจากนี้ ทรัมป์ยังทำให้พันธ มิตรของสหรัฐฯ หมดความศักดิ์สิทธิ์และอ่อนแอลง ด้านเศรษฐกิจ สหรัฐฯ ถอนตัวจากข้อตกลงการค้าเสรีเอเชีย-แปซิฟิก (Trans-Pacific Partnership: TPP) ส่วนด้านการเมือง เกิดความไม่แน่นอนทางการทูตและแนวคิดการโดดเดี่ยวตัวเอง (Isolationism) ไทยต้องวางตัวให้ดีในโลกหลายขั้ว ยุคหลังการถอนตัวของสหรัฐฯ จะเป็นช่วงที่จีนมีบทบาทสูงขึ้นในเวทีระหว่างประเทศ โดยเฉพาะด้านการค้า ผ่านความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) และโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Initiative) ขณะเดียวกัน สหภาพยุโรปแข็งแกร่งขึ้นและกลายเป็นมหาอำนาจอิสระที่ไทยต้องเข้าหาทั้งในด้านการค้าและความมั่นคง นอกจากนี้ ยังมีประเทศนอกภูมิภาค เช่น อินเดีย ตุรกี บราซิล รวมถึงมหาอำนาจระดับกลางอย่างญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และเกาหลีใต้ ที่จะมีบทบาทมากขึ้นในเวทีโลก โลกหลายขั้วเปิดโอกาสให้ไทยแสดงบทบาทในการเสริมสร้างกรอบความร่วมมือในเวทีการ เมืองโลกที่มีความสมดุลและยุติธรรมมากขึ้น แต่ไทยต้องมีผู้นำที่มีความรู้และภาวะผู้นำเพียงพอที่จะดำเนินนโยบายในระเบียบโลกใหม่ เพราะแต่ละประเทศต้องดูแลผลประโยชน์ของตนเอง เนื่องจากโลกที่แบ่งขั้วแบบเดิมไม่มีอีกแล้ว ไทยหวย รัฐบาล 1 ตุลาคม 2562เคยเอาตัวรอดในอดีตได้ด้วยปัญญาและการทูตที่สามารถรักษาผลประ โยชน์ของชาติได้ ซึ่งสถานการณ์ในปัจจุบัน ก็ไม่แตกต่างกันมากนัก มหา อำนาจยังคงแข่งขันกันเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง เช่น การขับเคี่ยวระหว่างสหรัฐฯ และจีน เนื่องจากจีนขยายอิทธิพลทางเศรษฐกิจและความมั่นคง ท้าทายอำนาจของสหรัฐฯ อย่างต่อเนื่องไม่เคยมีมาก่อน เพื่อความอยู่รอด ผู้นำไทยต้องตระหนักถึงผลประโยชน์แห่งชาติอย่างถ่องแท้ และต้องสามารถจับกระแสแนวโน้มใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน ปัจจุบันไม่มีมหาอำนาจใดสามารถควบคุมสถานการณ์โลกได้อย่างเบ็ดเสร็จ เช่น หากเกิดภัยธรรมชาติที่ส่งผลกระทบต่อทั่วโลก เช่น สึนามิ แผ่นดินไหว หรือภาวะการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ อย่างไรก็ตาม น่าเสียดายที่ศักยภาพด้านการต่างประเทศและนักการทูตของไทยถูกบั่นทอนโดยนักการเมืองที่มองเพียงผลประโยชน์ส่วนตนและพรรคพวกในระยะสั้น ตัดสินนโยบายต่างประเทศโดยใช้ความรู้สึกส่วนตัว มากกว่าการพิจารณาผลประโยชน์ของชาติในระยะยาว จุดที่เป็นสัญญาณดีคือ คนไทยเริ่มให้ความสนใจในเรื่องการต่างประเทศมากขึ้น แม้ว่าจะยังมองในแง่ของการแข่งขันและการแย่งชิงอำนาจแบบพระเอก-ผู้ร้ายในภาพยนตร์ ในขณะนี้ ประเทศไทยต้องเสริมสร้างภูมิปัญญาของประชาชนเกี่ยวกับผลประโยชน์แห่งชาติ ว่ามิใช่เรื่องส่วนตัว และไม่สามารถตัดสินใจแบบ "ฟาสต์ฟู้ด" ได้ เพราะการทูตมีผลผูกพันกับประเทศทั้งในปัจจุบันและอนาคต ชั่วลูกชั่วเหลน มองเทศคิดไทย : กวี จงกิจถาวร สื่อมวลชนอาวุโส อ่านข่าว: "ปูติน" เสนอ "ยูเครน" ตั้งรัฐบาลชั่วคราวปูทางเลือกตั้ง-ยุติสงคราม เงินเยนอ่อน ต่างชาติเดินทางพุ่ง ญี่ปุ่นเจอวิกฤตนักท่องเที่ยวล้นเมือง "เมียนมา" ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินแผ่นดินไหว-ขอนานาชาติช่วย

วานนี้ (22 เม.ย.2568) น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยถึงการดำเนินการตรวจสอบกรณีที่มีข่าวว่าคนจีนได้วีซานักเรียนมาทำงานในไซต์งานก่อสร้างต่าง ๆ ของไทย โด