โจ๊กเกอร์918-เม.ย.คนไทยจมน้ำตายเฉลี่ย 327 คน/ปี สงกรานต์เกิดเหตุเพิ่ม 1.5 เท่า

วันนี้ (12 ส.ค.66) นายจรยุทธ จตุรพรประสิทธิ์ สส.กทม.พรรคก้าวไกล โพสต์คลิปเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทในร้านอาหาร พร้อมเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 11 ส.ค.ที่ผ่านมาว่า ระบุว่า ตนเองได้ไปดื่มกินที่ร้า
วันนี้ (26 เม.ย.2566) ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีฆ่าชิงทองในห้างสรรพสินค้า
เมื่อวันที่ 10 มี.ค.2567 ผู้ประกอบการในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ให้ข้อมูลว่า มีชาวต่างชาติใช้คนไทยหรือภรรยาเป็นนอมินี เพื่อทำธุรกิจจำนวนมาก โดยอ้างว่านอกจากผับ-บาร์แล้ว ยังมีธุรกิจอื่นที่ต่างชาติเข้ามาลงทุน เช่น ร้านนวด, ร้านกัญชา, ร้านสัก, ร้านอาหาร รวมถึงบริษัททัวร์และธุรกิจเช่ารถ ซึ่งเจ้าของมีทั้งรัสเซีย, เยอรมันนี, สวีเดน, จีน และเกาหลี พร้อมเรียกร้องให้ภาครัฐตรวจสอบอย่างจริงจัง ขณะที่นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ยอมรับว่า มีธุรกิจประเภทนี้จริง ซึ่งมีการร้องเรียนต่อเนื่อง แต่เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบกลับพบคนไทยออกหน้ารับแทน จึงดำเนินคดีได้ยาก ขณะนี้ได้สั่งตั้งศูนย์ปราบปรามธุรกิจต่างด้าวแล้ว และจะดึงกรมสอบสวนคดีพิเศ (ดีเอสไอ) เข้าตรวจสอบเส้นทางการเงินของนอมินีและเจ้าของด้วย ด้าน พล.ต.ต. สินเลิศ สุขุม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า หลังตั้งศูนย์ฯ จะบูรณาการทั้งตำรวจและฝ่ายปกครอง ตรวจสอบธุรกิจที่ชาวต่างชาติใช้คนไทยเป็นนอมินีอย่างจริงจัง หากพบผิดกฎหมายให้ดำเนินคดีทันที ส่วนการตรวจสอบธุรกิจของนายเดวิด ชาวต่างชาติที่ทำร้ายแพทย์หญิงใน จ.ภูเก็ต พบว่า เพจเฟซบุ๊กปางช้างของนายเดวิดและภรรยายังคงมีความเคลื่อนไหว อัปเดตรูปภาพกิจกรรมในปางช้าง ล่าสุดเป็นกิจกรรมวันที่ 8 มี.ค. ตั้งแต่กิจกรรมช่วงเช้า กลางวันและช่วงบ่าย การตรวจสอบโดย จ.ภูเก็ต ยืนยันว่า ธุรกิจปางช้างที่มีชื่อนายเดวิด ถือหุ้น 49% ขณะที่ภรรยาคนไทยและญาติถือหุ้น 51% จดทะเบียนและชำระภาษีถูกต้อง ส่วนช้างเช่าและช้างที่ซื้อมามีตั๋วถูกต้อง แต่สิ่งที่จังหวัดดำเนินการแล้วคือตรวจสอบพบมูลนิธิฯ ของนายเดวิดและภรรยา มีชื่อกรรมการชุดเดียวกับปางช้าง ใช้โลโก้และสัญลักษณ์เดียวกัน ซึ่งเห็นว่าอาจเป็นการตั้งมูลนิธิฯ เพื่อหาผลประโยชน์หรือไม่ จึงสั่งให้ชี้แจงภายใน 30 วัน จากนั้นจะส่งเรื่องให้อัยการเพื่อส่งศาลพิจารณาว่าจะเพิกถอนมูลนิธิหรือไม่ ข้อมูลจากดีเอสไอพบว่าปัจจุบัน รูปแบบมาเฟียต่างชาติเข้ามาแบ่งเป็น 2 กลุ่มหลักๆ กลุ่มแรกเป็นมาเฟียรัสเซีย วิธีการคือตั้งบริษัทให้คนไทยถือหุ้น 51% หรือที่เราเรียกว่า "นอมินี" ซื้อที่ดิน ทำธุรกิจแข่งกับคนไทย เช่น โครงการบ้านจัดสรร และขายให้กลุ่มต่างชาติในราคาสูง กลุ่มที่ 2 มาเฟียจีน-เกาหลี รูปแบบคือการทำบริษัททัวร์แบบเบ็ดเสร็จ หรือที่เรารู้จักกันในนาม "ทัวร์ศูนย์เหรียญ" นำนักท่องเที่ยวเข้ามาพักโรงแรม ร้านอาหาร สปา ที่เจ้าของไม่ใช่คนไทย ผลกระทบที่ส่งผลต่อประเทศไทยคือการหลีกเลี่ยงจ่ายภาษี ราคาอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดท่องเที่ยวสูงขึ้น คนไทยจับต้องไม่ได้ และยังตั้งตัวเป็นมาเฟียก่อคดีอาชญากรรม เช่น เก็บส่วยธุรกิจเพื่อนร่วมชาติ อุ้มเพื่อนร่วมชาติเรียกค่าไถ่เพื่อสร้างบารมีในพื้นที่ และยังมีข้อมูลว่ามีการจ่ายส่วยให้นักการเมืองท้องถิ่นด้วย พ.ต.อ.ปริญญา กลิ่นเกษร รองโฆษก สตม. ยังเปิดเผยตัวเลขบริษัทที่มีต่างชาติถือหุ้น 49% มากกว่า 200 บริษัท มาตรการเชิงรุกจะตรวจสอบย้อนหลังทุกบริษัทว่าคนไทยที่ถือหุ้นเป็นนอมินีหรือไม่ เช่น เส้นทางการเงิน ความน่าเชื่อถือ โดยหากพบว่ามีคนไทยเป็นนอมินี จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับตั้งแต่ 100,000 - 1,000,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนต่างชาติจะถูกดำเนินคดี ขับออกนอกประเทโจ๊กเกอร์918ศและติดแบล็คลิสต์ทันที อ่านข่าวอื่นๆ จ่อพิจารณาซื้อที่ดิน เปิดทางลง "หาดแหลมหงา" ภูเก็ต "หมอเดว" ชี้เกมจับเด็กแก้ผ้า ผิดอนุสัญญาสิทธิเด็ก พบพินัยกรรม-จดหมายบอกปืนลั่นสาเหตุหญิง 63 ปี เสียชีวิตพร้อมเลขา
เมื่อวันที่ 10 มี.ค.2567 ผู้ประกอบการในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ให้ข้อมูลว่า มีชาวต่างชาติใช้คนไทยหรือภรรยาเป็นนอมินี เพื่อทำธุรกิจจำนวนมาก โดยอ้างว่านอกจากผับ-บาร์แล้ว ยังมีธุรกิจอื่นที่ต่างชาติเข้ามาลงทุน เ