วันนี้ (22 มี.ค.2565) นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของ น.ส.นิดา พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม พร้อมด้วยนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความ แถลงข่าวกรณี น.ส.รสนา โตสิตระกูล พร้อมด้วยนายนิติธร ล้ำเหลือ ยื่นหนังสือถึ
วันนี้ (9 มี.ค.2566) นพ.ระวี มาศฉมาดล หัวหน้าพลังธรรมใหม่ แถลงเปิดตัวพร้อมทำกิจกรรมเข้าสู่โหมดเลือกต
"เราจะไม่ยอมเป็นกะเหรี่ยงแก่งกระจาน...รุ่นสุดท้าย" กรรณิกา สาลิลา ชาวกะเหรี่ยงห้วยกระซู่ ซึ่งอาศัยอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน อ.หนอง หญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี กล่าวความตั้งใจของเธอและชาวกะเหรี่ยงกลุ่
"เราจะไม่ยอมเป็นกะเหรี่ยงแก่งกระจาน...รุ่นสุดท้าย" กรรณิกา สาลิลา ชาวกะเหรี่ยงห้วยกระซู่ ซึ่งอาศัยอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน อ.หนอง หญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี กล่าวความตั้งใจของเธอและชาวกะเหรี่ยงกลุ่มหนึ่ง ที่พยายามเดินหน้าต่อสู้ทั้งในทางกฎหมายและในทางวิชาการ เพื่อรักษาสิทธิในการทำกินด้วยรูปแบบ "ไร่หมุนเวียน" ซึ่งเป็นวิถีการทำเกษตรที่ชาวกะเหรี่ยงสืบทอดกันมาตั้งแต่พรรพบุรุษและยังช่วยอนุรักษ์ป่าไม้ให้อุดมสมบูณ์ต่อเนื่องมายาวนานกว่าร้อยปี แต่เมื่อกำลังจะมี "กฎหมาย" ที่ตีความได้ว่า "การทำไร่หมุนเวียนเป็นความผิด" ชาวกะเหรี่ยงหนองหญ้าปล้อง ที่ใช้ชื่อกลุ่มว่า "โพลงเช้อมา" ซึ่งมีความหมายว่า "วิถีชีวิตที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษ" จึงลุกขึ้นมาต่อสู้ เพราะรู้ดีว่าถ้าไม่มีไร่หมุนเวียน ก็ไม่หลงเหลือวิถีความเป็นกะเหรี่ยงอยู่บนแผ่นดินนี้อีกต่อไป หรือมีค่าเท่ากับสูญสิ้นเผ่นพันธุ์ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดหลักเกณฑ์การอยู่อาศัยหรือทำกินในโครงการอนุรักษ์และดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติภายในอุทยานแห่งชาติ พ.ศ....ทยอยถูกประกาศบังคับใช้ในแต่ละพื้นที่อุทยานแห่งชาติมาเรื่อยๆ และมีผลบังคับใช้ไปแล้วในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ 7 แห่ง ที่ไม่มีกลุ่มชาติพันธุ์อยู่ สาเหตุสำคัญที่ร่างพระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ มีผลอย่างมากกับพื้นที่ที่มีกลุ่มชาติพันธุ์อาศัยอยู่ ซึ่งรวมถึงพื้นที่ในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน แม้จะถูกนำเสนอว่าเป็นร่างกฎหมายที่ช่วยแก้ไขข้อพิพาทระหว่างกลุ่มชาติพันธุ์ที่อยู่อาศัยในพื้นที่ป่ามานานแล้วกับอุทยานโดยการอนุญาตให้ใช้พื้นที่ทำกินชั่วคราวเป็นเวลา 20 ปี แต่เมื่อพิจารณาอย่างถี่ถ้วนจะพบว่า เนื้อหาในร่างพระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ มีสาระสำคัญที่ไปจำกัดรูปแบบการทำเกษตรในพื้นที่อุทยานฯ ซึ่งไม่สอดคล้องกับวิถีการทำไร่หมุนเวียนของชาวกะเหรี่ยงที่สืบทอดกันมา คือ เงื่อนไขทั้งหมดนี้มีความหมายที่ทำให้ชาวกะเหรี่ยงทั้งในพื้นที่ภาคเหนือและในผืนป่าตะวันตกต้องแสดงความกังวล เพราะตีความได้ว่า "เราต้องการให้ร่างกฎหมาย ระบุให้ชัดเจนว่า เรามีสิทธิทำเกษตรตามวิถีดั้งเดิมของเรา คือ ไร่หมุนเวียน ซึ่งเป็นรูปแบบการทำเกษตรแบบแปลงรวม ต่างจากเงื่อนไขที่กรมอุทยานฯระบุไว้ในพระราชกฤษฎีกา คือ ต้องเป็นสิทธิของรายบุคคล และทุกแปลงต้องทำกินอย่างต่อเนื่องทุกปี ... เพราะเรามั่นใจว่า ไร่หมุนเวียนที่สืบทอดกันมา เป็นการเกษตรที่อนุรักษ์ป่าได้ดีกว่าสิ่งที่อุทยานบอกให้ทไฮโล ต่ำำ" กรรณิกา อธิบาย กรรณิกา สาลิลา ชาวกะเหรี่ยงห้วยกระซู่ กรรณิกา สาลิลา ชาวกะเหรี่ยงห้วยกระซู่ ดังนั้น ชาวกะเหรี่ยงแก่งกระจาน จาก อ.หนองหญ้าปล้องในนามกลุ่ม "โพลงเช้อมา" จึงร่วมมือกับกลุ่มนักกฎหมายและนักวิชาการทำงานวิจัยที่เกี่ยวกับไร่หมุนเวียน ซึ่งได้ผลออกมาว่า ไร่หมุนเวียน เป็นรูปแบบการทำเกษตรที่ช่วยอนุรักษ์ป่าได้ดีกว่ารูปแบบที่กรมอุทยานฯบอกให้ทำ ช่วยรักษาสภาพของดินและป่าต้นน้ำ และยังช่วยดูดซับคาร์บอนได้ดีที่สุด หากทำตามวงรอบของการหมุนเวียน คือ จะเวียนแปลงทำไร่ไปเรื่อยๆเพื่อปล่อยให้ป่าฟื้นตัวและจะวนกลับมาทำไร่ในแปลงเดิมทุกๆ 7 ปี ตามภูมิปัญญาที่สืบทอดต่อกันมา พร้อมท้าให้กรมอุทยานฯ เปิดให้ทดลองเปรียบเทียบว่ารูปแบบไหนช่วยอนุรักษ์ป่าได้ดีกว่ากันระหว่างการทำเกษตรแปลงเดี่ยวตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ กับการทำไร่หมุนเวียน อ่าน อุทยานฯ ห้ามทำไร่หมุนเวียน ผลศึกษาชี้ วิถีเกษตรกะเหรี่ยง "รักษ์ป่า" นอกจากงานวิจัย ชาวกะเหรี่ยงแก่งจาน 3 ชุมชน คือ ชุมชนห้วยกระซู่, ชุมชนห้วยหินเพลิง และชุมชนสาริกา อ.หนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี ยังไปยื่นข้อเรียกร้องต่อคณะกรรมาธิการการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ช่วยพิจารณาเพิ่มเติมเงื่อนไข ... การรับรองวิถีการใช้ประโยชน์ด้วยการ "ทำไร่หมุนเวียน" ของชุมชนให้ถือเป็นการดำรงชีพอย่างเป็นปกติธุระ ... ไว้ในร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดโครงการอนุรักษ์และดูแลทรัพยากรในเขตอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. ...โดยให้เหตุผลว่า ร่างพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวถือเป็นกฎหมายลำดับรองของพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ซึ่งมีบทบัญญัติเพิ่มเติมในมาตรา 64 และ 65 ไว้ว่า ให้สำรวจและรับรองวิถีทำกินแบบดั้งเดิมของกลุ่มชาติพันธุ์ ดังนั้นจะต้องรับรองวิถีการทำกินดั้งเดิมไว้ด้วย "เรายื่นข้อเรียกร้องนี้ต่ออุทยานมาตั้งแต่วันที่ 8 กรกฎาคม 2563 เรื่องแรกคือเราขอใช้สิทธิตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ มาตรา 64 และ 65 ที่ระบุให้ต้องคำนึงถึงวิถีชีวิตดั้งเดิมของชุมชน โดยขอให้ทางอุทยานมาสำรวจพื้นที่ทำไร่หมุนเวียนและพิจารณารังวัดที่ดินทำเกษตรในรูปแบบแปลงรวมเป็นของชุมชน แต่มาจนถึงวันนี้ก็ยังไม่เคยได้รับการตอบรับ" "ต่อมาเพื่อมีร่างพระราชกฤษฎีกาฉบับที่จะเป็นปัญหานี้ออกมา พวกเราได้มีข้อเสนอไปยังกรมอุทยานฯ และกระทรวงให้ปรับปรุงร่างพระราชกฤษฎีกา แต่ก็ยังไม่ได้มีการนำข้อเสนอของพวกเราไปปรับปรุง พวกเราจึงไปยื่นเรื่องกับ กมธ ที่ดิน ให้ตรวจสอบกระบวนการออกกฎหมายนี้ และขอให้ช่วยเสนอให้กรมอุทยานฯ เพิ่มเติมหลักเกณฑ์การให้สิทธิทำกินในเขตอุทยานว่าต้องมีคำว่า "ไร่หมุนเวียนแปลงรวม" ระบุไว้ในกฎหมายด้วย เพราะในหลักเกณฑ์ที่เขียนมามีเพียงคำว่า ให้สิทธิกับผู้ยากไร้ในแบบเกษตรแปลงเดี่ยวเท่านั้น" กรรณิกา อธิบายเส้นทางการต่อสู้ทางข้อกฎหมายของชาวกัเหรี่ยง 3 ชุมชนในป่าแก่งกระจาน หลังได้รับข้อร้องเรียนจากชาวกะเหรี่ยงหนองหญ้าปล้อง คณะกรรมาธิการการที่ดินฯ จึงเชิญผู้แทนจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพรรณพืชมาให้คำชี้แจง จากนั้นจึงหารือในกรรมาธิการ และออกแถลงข่าวเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2567 มีเนื้อหาที่น่าสนใจ คือ กรรมาธิการได้ข้อสรุปว่า ต้องเสนอแก้ไข พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ 2562 เกี่ยวกับการระบุถึงนิยามและรายละเอียดของการทำไร่หมุนเวียน ซึ่งได้ยื่นเป็นข้อเสนอแนะให้กรมอุทยานฯและคณะกรรมการกฤษฎีกาไปแล้ว ในรายงานของคณะกรรมาธิการที่ดิน ฯ อ้างอิงถึงข้อความของ "เล่าฟั้ง บัณฑิตเทอดสกุล" ส.ส.เชื้อสายม้ง ซึ่งเป็นหนึ่งในกรรมาธิการ เปิดเผยไว้ว่า มี 2 ประเด็นใหญ่ที่ได้เสนอให้กรมอุทยานฯ และคณะกรรมการกฤษฎีกาทบทวนกฎหมาย ประเด็นแรก ขอให้ระบุคำว่า "ไร่หมุนเวียน" ไว้ในกฎหมาย เพื่อให้กฎหมายคุ้มครองพื้นที่การทำไร่หมุนเวียน โดยขอให้เปลี่ยนจากเดิมที่ใช้คำว่า "แปลงรวม" เพราะอาจถูกนำไปตีความเป็นอย่างอื่นได้ นี่เป็นประเด็นที่ชาวกะเหรี่ยงเป็นห่วง "ผู้แทนจากกรมอุทยานฯ ชี้แจงกับกรรมาธิกาว่า ได้เพิ่มเติมคำว่า "แปลงรวม" ไว้ในร่างพระกฤษฎีกาที่อยู่ในชั้นคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว แต่เรายังขอเสนอให้ระบุคำว่า " ไร่หมุนเวียน" ไส่ไว้ในกฎหมายเลย เพราะถ้าใช้เพียงคำว่า แปลงรวม เมื่อเวลาผ่านไปอาจจะมีผู้ไม่หวังดีนำที่ดินไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นก็ได้ ทั้งที่เราต้องการแปลงรวมไว้ทำไร่หมุนเวียนตามวิถีดั้งเดิมของเราเท่านั้น" กรรณิกา อธิบายเพิ่ม ประเด็นที่สอง กรรมาธิการเห็นว่า กรมอุทยานฯ ต้องดำเนินการสำรวจพื้นที่ทำไร่หมุนเวียนของกลุ่มชาติพันธุ์ทั่วประเทศที่ยังมีปัญหาตกหล่นอยู่ให้ครบถ้วน "การขอให้อุทยานมาวัดที่เดินเป็นแปลงรวม เพราะเราต้องการทำไร่หมุนเวียนร่วมกันในฐานะของชุมชน โดยเราต้องการวางกติกาการจัดการในพื้นที่ไร่หมุนเวียนแปลงรวมกันเอง และพร้อมให้เจ้าหน้าที่เข้ามามีส่วนร่วมดูแลพื้นที่รอบนอกแปลง แต่ปัญหาที่ผ่านมา คือ กรมอุทยานฯ ได้แต่ส่งคนมารับหนังสือ แต่ยังไม่เคยตอบรับข้อเสนอและไม่เคยมาวัดที่เดินแปลงรวมเลย มีแต่ส่งเจ้าหน้าที่อุทยานฯแก่งกระจานมาวัดและปักหมุดแนวเขตให้เป็นรายบุคคล" "ครั้งนี้เราได้ยื่นเรื่องต่อคณะกรรมาธิการ และกรรมาธิการได้เชิญกรมอุทยานฯมาชี้แจงแล้ว โดยมีมติส่งเรื่องไปที่กรมอุทยานฯและคณะกรรมการกฤษฎีกาขอให้แก้ไขเพิ่มเติมในข้อกฎหมายแล้ว งานวิจัยเราก็ทำแล้ว ที่เหลือก็ต้องรอดูว่าทางกรมอุทยานฯและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจะตอบรับข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการอย่างไร ... เราก็ต้องรอ" "แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ... เราจะไม่ยอมให้ภูมิปัญญาไร่หมุนเวียนถูกทำให้หายไป ... เราต้องการรักษาวิถีที่บรรพบุรุษถ่ายทอดไว้ให้ ... ถ้าไม่มีไร่หมุนเวียน ก็ไม่ต่างจากการสูญเสียจิตวิญญาณของคนกะเหรี่ยงไป ... เราจะไม่ยอมเป็นชาวกะเหรี่ยงรุ่นสุดท้าย" เป็นคำตอบของ กรรณิกา สาลิลา ชาวกะเหรี่ยงจากป่าแก่งกระจาน ต่อคำถามที่ว่า เธอจะทำอย่างไรถ้าร่างหระราชกฤษฎีกาของกรมอุทยานฯยังออกมาในรูปแบบเดิม รายงานโดย: สถาพร พงษ์พิพัฒน์วัฒนา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรุ่งนี้ (29 พ.ค.67) เวลา 09.00 น. อัยการสูงสุดนัดฟังคำสั่ง คดีที่นายทักษิณ ชินวัตร กระทำผิดตามกฎหมายอาญา ม.112 กรณีให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่เกาหลีใต้ ซึ่งเดิมอัยการสูงสุด เคยสั่งฟ้
- ไฮโล ต่ำ
- แมน ยู วัน นี้ ช่อง ไหน
- 29 รับ 100 ล่าสุด
- สมัครคาสิโนออนไลน์ ขั้นต่ํา100
- microgaming $5 min deposit
- ว ธ โหลดแอฟ ufabet