วันนี้ (7 ส.ค.2566) นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความผู้ได้รับมอบอำนาจจากนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรั
วันนี้ (16 พ.ย.2566) ที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน คาดว่าปีนี้น่าจะได้เห็นกระทงที่ทำจากวัสดุธรรมชาติแบบนี้กันทุกพื้นที่ เพราะนายเชษฐา โมสิกรัตน์ ผวจ.แม่ฮ่องสอน ได้แจ้งไปยังนายอำเภอทุกอำเภอ รวมทั้งองค์การปกครอง
วันนี้ (7 ส.ค.2566) นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความผู้ได้รับมอบอำนาจจากนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณียื่นฟ้องนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง ในความผิดฐานหมิ่นประมาท ด้วยการโฆษณา กรณีที่นายชูวิทย์กล่าวหาว่า บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) โดยนายเศรษฐาซื้อที่ดินและมีการหลีกเลี่ยงภาษี ว่า นายเศรษฐาได้มอบอำนาจให้ตนฟ้อง และดำเนินคดีกับนายชูวิทย์ โดยมีสาระสำคัญว่า เมื่อวันที่ 3 ส.ค.2566 จำเลยทราบอยู่แล้วว่า ในวันที่ 4 ส.ค.2566 จะมีการประชุมร่วมกันของรัฐสภา และในวันประชุมรัฐสภาดังกล่าว คาดหมายว่าจะมีการเสนอชื่อในฐานะเป็นบุคคลที่สมควรจะได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ต่อที่ประชุมรัฐสภา นายเศรษฐา ทวีสิน และนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ นายเศรษฐา ทวีสิน และนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ จำเลยจัดแถลงข่าวต่อหน้าสื่อมวลชนและสาธารณชน ที่โรงแรมเดอะเดวิส สุขุมวิท 24 โดยใช้ชื่อว่า "แฉเพื่อชาติ EP 1" ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ โดยการป่าวประกาศ ใส่ความโจทก์ต่อหน้าสื่อมวลชวนที่ไปทำข่าว และมีการถ่ายทอดสดเผยแพร่ต่อสื่อออนไลน์ ทั้งสื่อโทรทัศน์ สื่อออนไลน์แพลตฟอร์มต่าง ๆ ในลักษณะใส่ความโจทก์ต่อบุคคลที่สาม เพื่อให้ประชาชนบุคคลทั่วไป รวมทั้งสมาชิกรัฐสภา ทั้งสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา ที่จะต้องลงมติเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบให้โจทก์เป็นนายกรัฐมนตรี รวมทั้งบุคคลทั่วไป ที่ได้รับฟังรับชมการแถลงข่าวของจำเลย หลงเชื่อและเข้าใจว่า โจทก์เป็นบุคคลไม่ดี เป็นคนที่ไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และไม่สมควรที่จะได้รับแต่งตั้งให้เป็นนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ ก่อนการแถลงข่าว บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ได้ออกแถลงการณ์ หัวข้อ แสนสิริ ชี้แจงซื้อที่ดินถูกต้องตามหลักกฎหมายและธรรมาภิบาล ยืนยันว่า บริษัทฯ ยืนยันว่าได้ดำเนินการตามหลักธรรมาภิบาล ถูกต้องตามกฎหมาย โปร่งใสและตรวจสอบได้ จำเลยสามารถตรวจสอบข้อเท็จจริงตามความจริงที่ถูกต้องได้ ทั้งต้องใช้ความระมัดระวังในการเสนอข้อเท็จจริง แต่จำเลยกลับไม่ตรวจสอบให้ดีก่อนมีการแถลงดังกล่าว แต่ยืนยันข้อเท็จจริงและมีเจตนาที่จะไม่ให้สมาชิกรัฐสภาทั้งสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ที่จะต้องลงมติเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบให้โจทก์เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น และจำเลยมีเจตนาให้ประชาชนบุคคลทั่วไปที่ได้รับชมรับฟังการแถลงข่าวของจำเลยดังกล่าว หลงเชื่อ และเข้าใจทันทีว่า โจทก์เป็นบุคคลไม่ดี โกงภาษี ไม่มีธรรมาภิบาล เป็นคนที่ไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ทำให้โจทก์ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง นายวิญญ8richd เครดิต ฟรีัติ กล่าวว่า ความจริงผู้ขายได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินโดยการโอนแบ่งคืนให้ผู้ถือหุ้นคนละวันกัน จึงไม่ถือว่าบุคคลดังกล่าวได้กรรมสิทธิ์รวมในที่ดินพร้อมกัน นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความผู้ได้รับมอบอำนาจจาก นายเศรษฐา ทวีสิน นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความผู้ได้รับมอบอำนาจจาก นายเศรษฐา ทวีสิน ต่อมาเมื่อมีการขายให้บริษัท แสนสิริฯ บริษัทเดียวโดยต่างคนต่างขายคนละวัน หรือแม้ว่าจะขายในวันเดียวกัน ผู้ขายทั้งหมดก็ไม่ต้องเสียภาษีเงินได้ ในฐานะห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล ตามมาตรา 56 แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ป. 100/2543 ลงวันที่ 24 พ.ย.2543 ข้อ 4 (2) เนื่องจากข้อเท็จจริงกรณีนี้ไม่ได้มีการเข้าถือกรรมสิทธิ์รวมพร้อมกัน จึงให้บุคคลแต่ละคนที่ถือกรรมสิทธิ์รวม เสียภาษีเงินได้ในฐานะบุคคลธรรมดา โดยแยกเงินได้ตามส่วนของแต่ละคนที่มีส่วนอยู่ในอสังหาริมทรัพย์ที่ถือกรรมสิทธิ์รวม จำเลยยังเป็นการทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายต่อร่างกายและจิตใจ เป็นการกล่าวหรือไขข่าวแพร่หลายข้อความ ซึ่งฝ่าฝืนความจริงเป็นที่เสียหายแก่ชื่อเสียงและเกียรติคุณของโจทก์ หรือเป็นที่เสียหายแก่ทางทำมาหาได้หรือทางเจริญของโจทก์ ทำให้โจทก์ขาดความน่าเชื่อถือจากประชาชน เนื่องจากโจทก์เป็นนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงและเป็นบุคคลที่พรรคเพื่อไทย มีมติให้ส่งชื่อกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง เพื่อให้สภาผู้แทนราษฎรให้ความเห็นชอบแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน และนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ นายเศรษฐา ทวีสิน และนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ซึ่งทางโจทก์ได้ยื่นฟ้องพร้อมเรียกค่าเสียหายจากนายชูวิทย์ จากการกระทำละเมิดต่อโจทก์ดังกล่าวเป็นเงินจำนวน 500 ล้านบาทถ้วน พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 5 ต่อปี ของเงินจำนวนดังกล่าวนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าตำเลยจะชำระเสร็จสิ้นแก่โจทก์ นายวิญญัติ กล่าวว่า ตนทราบว่า นายชูวิทย์กำลังป่วยตนจึงให้กำลังใจในฐานะเพื่อนมนุษย์ แต่ที่ต้องฟ้องไม่ใช่การรังแกคนป่วยเป็นคนละเรื่อง เพราะการกระทำของคุณชูวิทย์ เข้าข่ายเป็นการกระทำความผิดกฎหมาย จะใช้สิทธิละเมิดผู้อื่นมิได้เราทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกัน หากโดนละเมิดสิทธิ นายเศรษฐาก็ต้องปกป้องสิทธิของตัวเอง ไม่เช่นนั้นคนทั่วไปและสมาชิกรัฐสภาหรือวิญญูชนย่อมเข้าใจในทางไม่ดีต่อนายเศรษฐา และยังมีการกล่าวหรือกระทำการให้ร้ายอยู่ต่อไป แม้นายชูวิทย์จะบอกว่า ตัวเองป่วย มีเวลาไม่นาน แต่ก็ใช่ว่าสิ่งที่พูดจะต้องจริง ทางกฎหมายคือเจตนาใส่ความนั่นเอง เมื่อตนยื่นฟ้องเป็นคดีต่อศาลอาญาแล้ว อยากให้ทุกฝ่ายเข้าใจว่าคดีอยู่ในกระบวนการยุติธรรม ไม่ควรนำไปขยายประเด็นหรือใส่ความอีก เพราะจำเป็นต้องมีการฟ้องดำเนินคดีตามสิทธิ์ กล่าวโดยสรุป นายเศรษฐา เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ย่อมอาจถูกตรวจสอบได้ แต่ประชาชนที่รับข้อมูลข่าวสารต้องพึงระวังว่าในข้อมูลนั้น และต้องรอบด้าน ไม่ใช่รีบตัดสินเพื่อเชื่อเลยทีเดียว เรื่องนี้เกี่ยวกับเรื่องภาษีและเป็นการดำเนินการตามมาตรการการจัดเก็บภาษีของกรมสรรพากรไม่ใช่เรื่องเลี่ยงภาษีหรือทำให้รัฐเสียหาย อ่านข่าวอื่นๆ “จตุพร” มอง “เพื่อไทย” หมดอำนาจต่อรองตั้งแต่ปาร์ตี้มินต์ช็อก ไปต่อยาก ถอยกลับก็เสีย "ศิธา" ประกาศพร้อมทิ้ง "ไทยสร้างไทย" หากสลับขั้ว-ย้ายฝั่ง
ในช่วงวันที่ 3-5 ธ.ค.2567 หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่างจะเคลื่อนผ่านอ่าวไทยและภาคใต้ตอนล่างลงสู่ทะเลอันดามันตอนล่าง ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักบริเวณ จ.ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง พ