วันนี้ (9 ม.ค.2566) สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า

ล่าสุด "พังกันยา" ก็มีพัฒนาการด้านร่างกายดีขึ้น น้ำหนักตัวที่เคยเพิ่มขึ้นในช่วงแรก วันละ 300 กรัม ปัจจุบันเพิ่มขึ้นวันละ 700 กรัม หรือ 3 วัน 2 กิโลกรัม ควาญช้าง และ เจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติฯ ช่วยก
วันนี้ (11 มี.ค.2564) นายประภาศ คงเอียด อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า กรมบัญชีกลางได้ปรับปรุงหลักเกณฑ์และอัตราค่ารักษาพยาบาล สำหรับผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรังด้วยวิธีการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม โดยกำหนด
ล่าสุด "พังกันยา" ก็มีพัฒนาการด้านร่างกายดีขึ้น น้ำหนักตัวที่เคยเพิ่มขึ้นในช่วงแรก วันละ 300 กรัม ปัจจุบันเพิ่มขึ้นวันละ 700 กรัม หรือ 3 วัน 2 กิโลกรัม ควาญช้าง และ เจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติฯ ช่วยกันปรุงอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของ ใบไผ่ งาดำ และ สมุนไพร นำมาปั่นให้ละเอียดก่อนจะบดรวมกับกล้วยน้ำว้า เพื่อให้ "พังกันยา" กินสลับกับการดื่มนมจากเต้าของช้างแม่รับ 2 เชือก คือ พังวันดี และ พังบือละ อ่านข่าว : 1 ปี "วัคซีนทำหมันช้าง" ไปไม่ถึงฝัน ติดขั้นตอนอนุญาตนำเข้า ปัจจุบัน "พังกันยา" มีอายุประมาณ 6-7 เดือน เส่งเงินบาทไทย มือถือฟรีนื่องจากขณะพลัดหลงโขลงบริเวณริมป่านาตู้ดำ มีอายุราว 2 สัปดาห์ กิจวัตร นอกจากพักผ่อนนอนหลับ และ เล่นกับควาญแล้ว ก็ยังได้ใกล้ชิดกับช้างแม่รับ และ เล่นกับลูกช้าง ลูกพี่ ลูกน้อง ตามประสาช้างเล็ก ควาญช้างผู้ดูแลพังกันยาบอกว่า "พังกันยา" มีพัฒนาการดีขึ้น ทั้งการเล่น และ การกิน นอกจากนี้ ยังดูจะมีชีวิตชีวาดีขึ้น เมื่อได้อยู่กับช้างแม่รับ อ่านข่าว : ปลอกคอจีพีเอส "ช้างป่า" ติดนาน 6 ปี "ไม่มีอะไร เร็วเท่าใจคน" ธีรภัทร ตรังปราการ นายกสมาคมสหพันธ์ช้างไทย เจ้าของ Patara Elephant Farm เล่าว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการทำให้กันยามีชีวิตรอดให้ได้ โดยระยะ 24 เดือนแรก "พังกันยา" จะต้องได้รับน้ำนมแม่ให้มากที่สุด โดยปัจจุบันจะนำกันยาเข้ากินนมแม่ วันละประมาณ 35 ครั้ง สลับกับการกินอาหารเสริมสูตรเฉพาะผสมกับสมุนไพรที่ได้จากหมอช้างรุ่นโบราณ โดยน้ำหนักตัว "พังกันยา" ที่เพิ่มขึ้นประมาณวันละ 700 กรัม ถือว่าเป็นอัตราการเพิ่มที่ไม่น้อยแล้วก็ไม่มากเกินไป "เราเกรงว่าถ้าน้ำหนักเพิ่มเร็ว น้ำหนักตัวที่เยอะ อาจกระทบกับสภาวะกระดูกไม่แข็งแรง เพราะเราไม่รู้เลยว่าเมื่อแรกเกิด พังกันยา ได้รับนมแม่มากน้อยแค่ไหน เราจึงอยากให้กันยาโตแบบที่กระดูกกับร่างกายมีความสัมพันธ์กัน" อ่านข่าว : ศึกขัดแย้ง “คน-ช้างป่า” 12 ปียังไม่จบ ระยะทางอีกยาวไกล สำหรับอนาคตของ "พังกันยา" หลังการดูแลครบตามแผน 24 เดือน ก็ขึ้นอยู่กับทางกรมอุทยานแห่งชาติฯ และ นักวิชาการ ที่จะหารือกัน ว่าจะนำ "พังกันยา" กลับไปเข้าโขลงช้างเดิมได้หรือไม่ แต่ในความเห็นส่วนตัว ก็มีความตั้งใจลึกๆ ว่า อยากจะดูแล "พังกันยา" จนโตเป็นช้างสาว และ อยู่เป็นช้างแม่รับต่อไป อ่านข่าว : คืนสัญชาตญาณสัตว์ป่า “ทับเสลา” ช้างน้อยดอยผาเมือง ทั้งนี้เชื่อว่าแทบทุกปี เราอาจต้องพบปัญหาลูกช้างพลัดหลงอยู่ ฉะนั้นจึงเตรียมเสนอภาครัฐร่วมก่อตั้งศูนย์บริบาลช้างพลัดหลง และ ให้ "พังกันยา" เป็นช้างต้นทุนประจำศูนย์บริบาลช้างพลัดหลงต่อไป อ่านข่าวอื่นๆ : "พะยูน" ตรัง ลดฮวบเหลือ 36 ตัว ส่อสูญพันธุ์ หลังหญ้าทะเลเสื่อมโทรม FC "แม่มะลิ" ฮิปโปอายุยืน 58 ปียังแข็งแรง-หลบแช่น้ำทั้งวัน
วันนี้ (1 พ.ค.2567) มีการเผยแพร่ภาพจากกล้องวงจรปิดของวัดแห่งหนึ่งใน ต.คลองนครเนื่องเขต อ.เมืองฉะเชิง
วันนี้ (22 มี.ค.2566) สำนักจุฬาราชมนตรี ประกาศเรื่อง กำหนดวันที่ 1 ของเดือนรอมฎอน ฮิจเราะห์ศักราช 14
ในภาพรวมก็ยังคงเป็นประเด็นโควิด-19 ที่ถูกค้นหาเยอะ ซึ่งในปีนี้จะเกี่ยวกับโครงการเยียวยาและวัคซีน รวม
ล่าสุด "พังกันยา" ก็มีพัฒนาการด้านร่างกายดีขึ้น น้ำหนักตัวที่เคยเพิ่มขึ้นในช่วงแรก วันละ 300 กรัม ปัจจุบันเพิ่มขึ้นวันละ 700 กรัม หรือ 3 วัน 2 กิโลกรัม ควาญช้าง และ เจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติฯ ช่วยกันปรุงอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของ ใบไผ่ งาดำ และ สมุนไพร นำมาปั่นให้ละเอียดก่อนจะบดรวมกับกล้วยน้ำว้า เพื่อให้ "พังกันยา" กินสลับกับการดื่มนมจากเต้าของช้างแม่รับ 2 เชือก คือ พังวันดี และ พังบือละ อ่านข่าว : 1 ปี "วัคซีนทำหมันช้าง" ไปไม่ถึงฝัน ติดขั้นตอนอนุญาตนำเข้า ปัจจุบัน "พังกันยา" มีอายุประมาณ 6-7 เดือน เส่งเงินบาทไทย มือถือฟรีนื่องจากขณะพลัดหลงโขลงบริเวณริมป่านาตู้ดำ มีอายุราว 2 สัปดาห์ กิจวัตร นอกจากพักผ่อนนอนหลับ และ เล่นกับควาญแล้ว ก็ยังได้ใกล้ชิดกับช้างแม่รับ และ เล่นกับลูกช้าง ลูกพี่ ลูกน้อง ตามประสาช้างเล็ก ควาญช้างผู้ดูแลพังกันยาบอกว่า "พังกันยา" มีพัฒนาการดีขึ้น ทั้งการเล่น และ การกิน นอกจากนี้ ยังดูจะมีชีวิตชีวาดีขึ้น เมื่อได้อยู่กับช้างแม่รับ อ่านข่าว : ปลอกคอจีพีเอส "ช้างป่า" ติดนาน 6 ปี "ไม่มีอะไร เร็วเท่าใจคน" ธีรภัทร ตรังปราการ นายกสมาคมสหพันธ์ช้างไทย เจ้าของ Patara Elephant Farm เล่าว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการทำให้กันยามีชีวิตรอดให้ได้ โดยระยะ 24 เดือนแรก "พังกันยา" จะต้องได้รับน้ำนมแม่ให้มากที่สุด โดยปัจจุบันจะนำกันยาเข้ากินนมแม่ วันละประมาณ 35 ครั้ง สลับกับการกินอาหารเสริมสูตรเฉพาะผสมกับสมุนไพรที่ได้จากหมอช้างรุ่นโบราณ โดยน้ำหนักตัว "พังกันยา" ที่เพิ่มขึ้นประมาณวันละ 700 กรัม ถือว่าเป็นอัตราการเพิ่มที่ไม่น้อยแล้วก็ไม่มากเกินไป "เราเกรงว่าถ้าน้ำหนักเพิ่มเร็ว น้ำหนักตัวที่เยอะ อาจกระทบกับสภาวะกระดูกไม่แข็งแรง เพราะเราไม่รู้เลยว่าเมื่อแรกเกิด พังกันยา ได้รับนมแม่มากน้อยแค่ไหน เราจึงอยากให้กันยาโตแบบที่กระดูกกับร่างกายมีความสัมพันธ์กัน" อ่านข่าว : ศึกขัดแย้ง “คน-ช้างป่า” 12 ปียังไม่จบ ระยะทางอีกยาวไกล สำหรับอนาคตของ "พังกันยา" หลังการดูแลครบตามแผน 24 เดือน ก็ขึ้นอยู่กับทางกรมอุทยานแห่งชาติฯ และ นักวิชาการ ที่จะหารือกัน ว่าจะนำ "พังกันยา" กลับไปเข้าโขลงช้างเดิมได้หรือไม่ แต่ในความเห็นส่วนตัว ก็มีความตั้งใจลึกๆ ว่า อยากจะดูแล "พังกันยา" จนโตเป็นช้างสาว และ อยู่เป็นช้างแม่รับต่อไป อ่านข่าว : คืนสัญชาตญาณสัตว์ป่า “ทับเสลา” ช้างน้อยดอยผาเมือง ทั้งนี้เชื่อว่าแทบทุกปี เราอาจต้องพบปัญหาลูกช้างพลัดหลงอยู่ ฉะนั้นจึงเตรียมเสนอภาครัฐร่วมก่อตั้งศูนย์บริบาลช้างพลัดหลง และ ให้ "พังกันยา" เป็นช้างต้นทุนประจำศูนย์บริบาลช้างพลัดหลงต่อไป อ่านข่าวอื่นๆ : "พะยูน" ตรัง ลดฮวบเหลือ 36 ตัว ส่อสูญพันธุ์ หลังหญ้าทะเลเสื่อมโทรม FC "แม่มะลิ" ฮิปโปอายุยืน 58 ปียังแข็งแรง-หลบแช่น้ำทั้งวัน
วันนี้( 6 ส.ค.2567) ทีมBig Data สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) เปิดเผย ผลวิเคราะห์สถ