วันนี้ (20 มี.ค.2567) สถานการณ์ฝนตกหนักใน กทม.และป

เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.2566 นายพงศธร พร้อมขุนทด หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด หลังได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนฯ ว่า มีกลุ่มคนขึ้นไปลักลอบตัดหินพระธาตุ บนเทือกเขาบริเวณถ้ำมังกร ท้องที่หมู่ท
วันนี้ (2 พ.ค.2568) นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. นายสิทธิโชติ อินทรวิเศษ กกต. และนายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. พร้อมด้วย นายศุภมิตร ชิณศรี ผู้ว่าฯ สมุทรปราการ ร่วมกิจกรรมโค้งสุดท้ายการเลือกตั้งสมาช
คณะกรรมการ 10 คน ที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษแห่งแพทยสภา แต่งตั้งเพื่อพิจารณามติของแพทยสภาให้ลงโทษแพทย์ 3 คน กำหนดส่งความเห็นเสนอนายสมศักดิ์ ภายในบ่ายวันที่ 27 พ.ค. เพื่อลงนามส่งกลับไปยังแพทยสภาภายใน 15 วัน จะครบ 30 พ.ค. ล่าสุด นายสมศักดิ์ยอมรับว่า คณะกรรมการชุดดังกล่าว ได้ส่งความเห็นมาให้แล้ว แต่ตนยังไม่ได้ทำการพิจารณา และคาดว่าช่วงเย็นจะพิจารณา โดยจะอิงกับแนวทางความเห็นของกรรมการ เนื่องจากเป็นชุดที่ตนเองตั้งขึ้น ทำให้ยังต้องลุ้นกันต่อ เพราะหากเห็นชอบตามมติแพทยสภา ต่อไปจะเป็นประกาศผลลงโทษ แต่หากวีโต้ ต้องไปลุ้นเสียงของบอร์ดแพทยสภา 2 ใน 3 จากทั้งหมด 70 คนเพื่อให้เป็นผลในทางปฏิบัติ หลังจากประชุมนัดแรก วันที่ 26 พ.ค. ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข ที่เป็นคนใกล้ชิด และช่วยงานนายสมศักดิ์มานาน แถลงยอมรับว่า แพทยสภา ไม่ได้ส่งเอกสารอย่างครบถ้วน ไปให้กรรมการประกอบการพิจารณา ทั้งที่ร้องขอไปถึง 2 ครั้ง จึงเปรียบเสมือนทำงาน 10 ขั้นตอน แต่หายไป 1 ขั้นตอน อย่างไรก็ตาม ย้ำว่า กรรมการจะพิจารณาตามข้อมูลที่มีและได้รับ แม้อาจมีผลต่อการพิจารณาของกรรมการมากน้อยแตกต่างกัน ต่างจากกรรมการสอบสวนที่เสียงข้างมากเห็นว่า ควรลงโทษตักเตือน ส่วนเสียงข้างน้อยเห็นว่า ควรลงโทษพักใบอนุญาต ทำให้มติสลับกัน การยื่นเรื่องร้องเรียนไปยังแพทยสภา จะมี 4 ขั้นตอน คือเริ่มจากอนุกรรมการจริยธรรม ขั้นตอนที่ 2 กรรมการสอบสวนความผิด ขั้นตอนที่ 3 กรรมการกลั่นกรองการสอบสวน ก่อนจะถึงขั้นตอนสุดท้าย เป็นบอร์ดแพทยสภาชุดใหญ่ ที่มีรวม 70 คน สำหรับกรรมการกลั่นกรองการสอบสวน แม้ไม่มีกำหนดไว้ในกฎหมาย แต่แพทยสภาเห็นว่า ควรต้องมีกรรมการอีกชุดหนึ่ง ทำหน้าที่ตรวจสอบกลั่นกรอง จากกรรมการสอบสวนความผิดอีกชั้นหนึ่งเพื่อถ่วงดุล แพทยสภาจึงไม่ส่งเอกavenger slotสาร 2 รายการ ให้กับกรรมการที่นายสมศักดิ์ตั้งขึ้น แต่ได้ส่งเอกสาร 95 หน้า ว่าด้วยความเป็นมา ผลการสอบสวน รวมทั้งความเห็นต่าง ๆ กระทั่งมติของแพทยสภา ซึ่งถือว่าเป็นฉบับสมบูรณ์ให้ไปแล้ว เมื่อมีการขอเพิ่มเติม ได้จัดส่งเอกสารประกอบอีกเป็นพันหน้าไปให้ เนื่องจากต้องการปกป้องทั้งตัวบุคคลและความเห็นของกรรมการกลั่นกรองการสอบสวนไว้ ก่อนจะกลายเป็นประเด็นที่คณะกรรมการที่สภานายกพิเศษตั้งขึ้น นำขึ้นมาใช้เป็นข้ออ้างถึงความไม่ครบถ้วนของเอกสารที่ขอไป จะด้วยเจตนาเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ครบถ้วนประกอบการพิจารณา ป้องกันข้อครหาใด ๆ หรือ จะโดยหวังผลอื่นใดก็ตามที แต่สิ่งที่ถูกจับตามากกว่า คือความเห็นของกรรมการชุดนี้ ที่ต้องสรุปส่งให้นายสมศักดิ์ เพื่อให้ความเห็นว่า เห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วย กับมติแพทยสภา “ให้มีการลงโทษ” เนื่องจากปมชั้น 14 รพ.ตำรวจ เป็นหนังยาวที่มีความสลับซับซ้อน ซ่อนเงื่อนปมไว้มากมาย ตั้งแต่จัดวางคนไปไว้ในตำแหน่งสำคัญๆ ในรัฐบาลชุดต่าง ๆ เพื่อเตรียมการเอื้อประโยชน์ ตั้งแต่ผลักดันกฎหมาย ออกกฎกระทรวง และประกาศของกรมราชทัณฑ์อย่างเป็นขั้นเป็นตอนล่วงหน้าหลายปี หรือร่วมสิบปี จึงเป็นเรื่องที่ฝ่ายตรงข้ามนายทักษิณ หรือที่ถูกมองว่าเป็น “โจทก์เก่า” พยายามเดินหน้าเต็มที่เพื่อความกระจ่างและหาความเป็นจริงในเรื่องนี้ แม้จนแล้วจนรอด ยังจะไกลจากเป้าที่คาดหวังไว้ แต่การลุ้นมติแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ และวันนัดพร้อม 13 มิ.ย.2568 ของศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมือง สั่งไต่สวนปมบังคับโทษนายทักษิณ เป็นไปตามหมายจำคุกแล้วหรือไม่ คือ 2 เหตุการณ์สำคัญที่คนกลุ่มนี้ยังคงรอคอยอย่างมีความหวังอยู่ วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา บรรณาธิการอาวุโส อ่านข่าว :
ดินเนอร์ ร่วมสำรับ มื้อค่ำวันนี้ (21 ต.ค) ของพรรคร่วมรัฐบาล ที่ แพทองธาร ชินวัตร เข้าร่วมครั้งแรกในฐ
จากกรณีมีผู้โพสต์คลิปวิดีโอและข้อความลงโซเชียล เป็นเหตุการณ์ขณะที่ควาญช้างใช้ตะขอสับหัวช้าง ชื่อว่า
วันนี้ (21 ก.พ.2564) จากกรณีอุบัติเหตุล่มกลางทะเลอ่าวไทย ในเขต อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี เมื่อช่วงเช้ามืดวัน
คณะกรรมการ 10 คน ที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษแห่งแพทยสภา แต่งตั้งเพื่อพิจารณามติของแพทยสภาให้ลงโทษแพทย์ 3 คน กำหนดส่งความเห็นเสนอนายสมศักดิ์ ภายในบ่ายวันที่ 27 พ.ค. เพื่อลงนามส่งกลับไปยังแพทยสภาภายใน 15 วัน จะครบ 30 พ.ค. ล่าสุด นายสมศักดิ์ยอมรับว่า คณะกรรมการชุดดังกล่าว ได้ส่งความเห็นมาให้แล้ว แต่ตนยังไม่ได้ทำการพิจารณา และคาดว่าช่วงเย็นจะพิจารณา โดยจะอิงกับแนวทางความเห็นของกรรมการ เนื่องจากเป็นชุดที่ตนเองตั้งขึ้น ทำให้ยังต้องลุ้นกันต่อ เพราะหากเห็นชอบตามมติแพทยสภา ต่อไปจะเป็นประกาศผลลงโทษ แต่หากวีโต้ ต้องไปลุ้นเสียงของบอร์ดแพทยสภา 2 ใน 3 จากทั้งหมด 70 คนเพื่อให้เป็นผลในทางปฏิบัติ หลังจากประชุมนัดแรก วันที่ 26 พ.ค. ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข ที่เป็นคนใกล้ชิด และช่วยงานนายสมศักดิ์มานาน แถลงยอมรับว่า แพทยสภา ไม่ได้ส่งเอกสารอย่างครบถ้วน ไปให้กรรมการประกอบการพิจารณา ทั้งที่ร้องขอไปถึง 2 ครั้ง จึงเปรียบเสมือนทำงาน 10 ขั้นตอน แต่หายไป 1 ขั้นตอน อย่างไรก็ตาม ย้ำว่า กรรมการจะพิจารณาตามข้อมูลที่มีและได้รับ แม้อาจมีผลต่อการพิจารณาของกรรมการมากน้อยแตกต่างกัน ต่างจากกรรมการสอบสวนที่เสียงข้างมากเห็นว่า ควรลงโทษตักเตือน ส่วนเสียงข้างน้อยเห็นว่า ควรลงโทษพักใบอนุญาต ทำให้มติสลับกัน การยื่นเรื่องร้องเรียนไปยังแพทยสภา จะมี 4 ขั้นตอน คือเริ่มจากอนุกรรมการจริยธรรม ขั้นตอนที่ 2 กรรมการสอบสวนความผิด ขั้นตอนที่ 3 กรรมการกลั่นกรองการสอบสวน ก่อนจะถึงขั้นตอนสุดท้าย เป็นบอร์ดแพทยสภาชุดใหญ่ ที่มีรวม 70 คน สำหรับกรรมการกลั่นกรองการสอบสวน แม้ไม่มีกำหนดไว้ในกฎหมาย แต่แพทยสภาเห็นว่า ควรต้องมีกรรมการอีกชุดหนึ่ง ทำหน้าที่ตรวจสอบกลั่นกรอง จากกรรมการสอบสวนความผิดอีกชั้นหนึ่งเพื่อถ่วงดุล แพทยสภาจึงไม่ส่งเอกavenger slotสาร 2 รายการ ให้กับกรรมการที่นายสมศักดิ์ตั้งขึ้น แต่ได้ส่งเอกสาร 95 หน้า ว่าด้วยความเป็นมา ผลการสอบสวน รวมทั้งความเห็นต่าง ๆ กระทั่งมติของแพทยสภา ซึ่งถือว่าเป็นฉบับสมบูรณ์ให้ไปแล้ว เมื่อมีการขอเพิ่มเติม ได้จัดส่งเอกสารประกอบอีกเป็นพันหน้าไปให้ เนื่องจากต้องการปกป้องทั้งตัวบุคคลและความเห็นของกรรมการกลั่นกรองการสอบสวนไว้ ก่อนจะกลายเป็นประเด็นที่คณะกรรมการที่สภานายกพิเศษตั้งขึ้น นำขึ้นมาใช้เป็นข้ออ้างถึงความไม่ครบถ้วนของเอกสารที่ขอไป จะด้วยเจตนาเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ครบถ้วนประกอบการพิจารณา ป้องกันข้อครหาใด ๆ หรือ จะโดยหวังผลอื่นใดก็ตามที แต่สิ่งที่ถูกจับตามากกว่า คือความเห็นของกรรมการชุดนี้ ที่ต้องสรุปส่งให้นายสมศักดิ์ เพื่อให้ความเห็นว่า เห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วย กับมติแพทยสภา “ให้มีการลงโทษ” เนื่องจากปมชั้น 14 รพ.ตำรวจ เป็นหนังยาวที่มีความสลับซับซ้อน ซ่อนเงื่อนปมไว้มากมาย ตั้งแต่จัดวางคนไปไว้ในตำแหน่งสำคัญๆ ในรัฐบาลชุดต่าง ๆ เพื่อเตรียมการเอื้อประโยชน์ ตั้งแต่ผลักดันกฎหมาย ออกกฎกระทรวง และประกาศของกรมราชทัณฑ์อย่างเป็นขั้นเป็นตอนล่วงหน้าหลายปี หรือร่วมสิบปี จึงเป็นเรื่องที่ฝ่ายตรงข้ามนายทักษิณ หรือที่ถูกมองว่าเป็น “โจทก์เก่า” พยายามเดินหน้าเต็มที่เพื่อความกระจ่างและหาความเป็นจริงในเรื่องนี้ แม้จนแล้วจนรอด ยังจะไกลจากเป้าที่คาดหวังไว้ แต่การลุ้นมติแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ และวันนัดพร้อม 13 มิ.ย.2568 ของศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมือง สั่งไต่สวนปมบังคับโทษนายทักษิณ เป็นไปตามหมายจำคุกแล้วหรือไม่ คือ 2 เหตุการณ์สำคัญที่คนกลุ่มนี้ยังคงรอคอยอย่างมีความหวังอยู่ วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา บรรณาธิการอาวุโส อ่านข่าว :
คณะกรรมการ 10 คน ที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษแห่งแพทยสภา แต่งตั้งเพื่อพิ