วันนี้ (20 ธ.ค.2566) กรมควบคุมมลพิษ รายงาน สถานการ

วันนี้ (21 มิ.ย.2567) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยความคืบหน้าคดีขโมยเรือน้ำมันเถื่อนของกลางจากท่าเทียบเรือตำรวจน้ำสัตหีบ จ.ชลบุรี ว่า แม้จะสามารถตามยึดเรือของกลางกล
ฮิตไกลถึงต่างประเทศ สำหรับซีรีส์ดัง Shooting Star หรือ F4 Thailand ที่กระแสดีจนมีแฟนคลับต่างชาติติดตามและสนับสนุนจำนวนมาก นำไปสู่การจัดเอเชียร์ทัวร์ Shooting Star Asia Tour In Taipei ซึ่งล่าสุด นักแสด
วันนี้ (18 พ.ค.2566) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีมีการเผยแพร่คลิปชายหนุ่มขับรถยนต์จอดขวางรถผู้เสียหาย บนถนนเชียงใหม่-ดอยสะเก็ด ขาเข้าเมือง บริเวณสี่แยกศาลเด็ก ในตัวเมือง จ.เชียงใหม่ ก่อนลงรถมาชักอาวุธปืนข่มขู่ ทำให้ผู้เสียหายเกิดความหวาดกลัวจนรีบขับรถออกจากที่เกิดเหตุและแจ้งความที่สถานีตำรวจ ตำรวจได้เข้าตรวจค้นบ้านพักของนายสิทธิพัฒน์ อายุ 25 ปี ซึ่งเป็นหลานชายของนักการเมืองใน จ.เชียงใหม่ พบอาวุธปืนทั้งปืนพกสั้นและปืนยาว จำนวน 13 กระบอก ซึ่งการตรวจค้นพบปืนกระบอกที่นายสิทธิพัฒน์ ใช้ขู่คู่กรณี คือปืน Glock จากการตรวจสอบเบื้องต้น ปืนทั้งหมดมีการครอบครองถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งเป็นชื่อของนายสิทธิ์พัฒน์ครอบครองปืน 3 กระบอก ส่วนที่เหลือเป็นชื่อบุคคลอื่น พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วทาง เล่น xoิวัฒนชัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาได้เข้ามอบตัวกับตำรวจ โดยรับสารภาพว่ากระทำจริง เพราะบันดาลโทสะเรื่องการขับรถ ตำรวจจึงแจ้ง 2 ข้อหา คือ ข่มขู่ให้ผู้อื่นตกใจกลัว และพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ ซึ่งจะมีการเพิกถอนใบอนุญาตเกี่ยวกับอาวุธปืนด้วย ก่อนหน้านี้ ตำรวจได้ส่งภาพผู้ต้องสงสัยมาให้ผู้เสียหายชี้ตัว แต่ผู้เสียหายยืนยันว่าไม่ใช่คนเดียวกับผู้ก่อเหตุ แม้ตำรวจจะยืนยันว่าเป็นคนเดียวกัน จึงทำให้ผู้เสียหายรู้สึกไม่สบายใจและเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากหลังเกิดเหตุและเข้าแจ้งความแล้ว ปรากฏว่าผู้ก่อเหตุยังข่มขู่ด้วยการโพสต์ภาพอาวุธปืนในโซเชียลมีเดีย พร้อมข้อความระบุในทำนองว่าสามารถเคลียร์เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ และจะเอาปืนมายิงผู้เสียหายหากไม่ยอมยุติเรื่อง ทีมข่าวไทยพีบีเอส สอบถามไปยัง พล.ต.ต.ธวัชชัย ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจทำคดีนี้อย่างตรงไปตรงมา และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยได้สืบสวนสอบสวนติดตามตัวผู้ก่อเหตุ ตามข้อมูลพยานหลักฐานที่ผู้เสียหายมอบให้ ก่อนที่ตำรวจจะทราบตัวผู้ต้องสงสัยและนำกำลัง พร้อมหมายค้น เข้าตรวจสอบเก็บหลักฐาน โดยเฉพาะอาวุธปืนที่บ้านพักของผู้ต้องสงสัยในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ พล.ต.ต.ธวัชชัย ย้ำว่า คดีนี้ไม่มีการสลับสับเปลี่ยนตัวผู้ต้องหาอย่างแน่นอน และจะดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด ไม่ว่าผู้ก่อเหตุจะเป็นลูกหลานนักการเมืองหรือผู้ใดก็ตาม หากกระทำความผิดก็ต้องว่าไปตามผิด ด้านคนใกล้ชิดนักการเมืองที่ปรากฏในข่าว ระบุว่า วันนี้ (18 พ.ค.) ตำรวจได้นำกำลังเข้าตรวจสอบบ้านพักของผู้ก่อเหตุแล้ว และยอมรับว่าผู้ก่อเหตุเป็นหลานของนักการเมืองจริง โดยเป็นลูกของน้องชาย พร้อมยืนยันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำและพฤติกรรมส่วนตัวของผู้ก่อเหตุ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับนักการเมืองคนดังกล่าวและได้ตำหนิหลานชายไปแล้ว ทั้งนี้จะไม่มีการให้ความช่วยเหลือใดๆ ให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย อ่านข่าวอื่นๆ "แอม" ไม่ให้การ ตร.เพิ่มปม "ก้อย" เสียชีวิต มือตบ "ศรีสุวรรณ" ร่ำไห้รับทราบ 2 ข้อหา ยอมติดคุก ศาลให้ประกัน "จตุพร" คดีบุกบ้านสี่เสาเทเวศร์ ตีราคา 2 แสน
วันนี้ (18 พ.ค.2566) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีมีการเผยแพร่คลิปชายหนุ่มขับรถยนต์จอดขวางรถผู้เ
วันนี้ (12 พ.ค.2567) เวลา 15.30 น.เกิดเพลิงไหม้ในโรงงานเก็บกากสารเคมีของ บริษัท วิน โพรเสส จำกัด บ้า
วันนี้ (18 ต.ค.2564) องค์การเภสัชกรรม (GPO) จำหน่าย ATK ที่มีคุณภาพตามมาตรฐาน อย.ในราคาที่เหมาะสม ให
วันนี้ (18 พ.ค.2566) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีมีการเผยแพร่คลิปชายหนุ่มขับรถยนต์จอดขวางรถผู้เสียหาย บนถนนเชียงใหม่-ดอยสะเก็ด ขาเข้าเมือง บริเวณสี่แยกศาลเด็ก ในตัวเมือง จ.เชียงใหม่ ก่อนลงรถมาชักอาวุธปืนข่มขู่ ทำให้ผู้เสียหายเกิดความหวาดกลัวจนรีบขับรถออกจากที่เกิดเหตุและแจ้งความที่สถานีตำรวจ ตำรวจได้เข้าตรวจค้นบ้านพักของนายสิทธิพัฒน์ อายุ 25 ปี ซึ่งเป็นหลานชายของนักการเมืองใน จ.เชียงใหม่ พบอาวุธปืนทั้งปืนพกสั้นและปืนยาว จำนวน 13 กระบอก ซึ่งการตรวจค้นพบปืนกระบอกที่นายสิทธิพัฒน์ ใช้ขู่คู่กรณี คือปืน Glock จากการตรวจสอบเบื้องต้น ปืนทั้งหมดมีการครอบครองถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งเป็นชื่อของนายสิทธิ์พัฒน์ครอบครองปืน 3 กระบอก ส่วนที่เหลือเป็นชื่อบุคคลอื่น พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วทาง เล่น xoิวัฒนชัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาได้เข้ามอบตัวกับตำรวจ โดยรับสารภาพว่ากระทำจริง เพราะบันดาลโทสะเรื่องการขับรถ ตำรวจจึงแจ้ง 2 ข้อหา คือ ข่มขู่ให้ผู้อื่นตกใจกลัว และพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ ซึ่งจะมีการเพิกถอนใบอนุญาตเกี่ยวกับอาวุธปืนด้วย ก่อนหน้านี้ ตำรวจได้ส่งภาพผู้ต้องสงสัยมาให้ผู้เสียหายชี้ตัว แต่ผู้เสียหายยืนยันว่าไม่ใช่คนเดียวกับผู้ก่อเหตุ แม้ตำรวจจะยืนยันว่าเป็นคนเดียวกัน จึงทำให้ผู้เสียหายรู้สึกไม่สบายใจและเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากหลังเกิดเหตุและเข้าแจ้งความแล้ว ปรากฏว่าผู้ก่อเหตุยังข่มขู่ด้วยการโพสต์ภาพอาวุธปืนในโซเชียลมีเดีย พร้อมข้อความระบุในทำนองว่าสามารถเคลียร์เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ และจะเอาปืนมายิงผู้เสียหายหากไม่ยอมยุติเรื่อง ทีมข่าวไทยพีบีเอส สอบถามไปยัง พล.ต.ต.ธวัชชัย ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจทำคดีนี้อย่างตรงไปตรงมา และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยได้สืบสวนสอบสวนติดตามตัวผู้ก่อเหตุ ตามข้อมูลพยานหลักฐานที่ผู้เสียหายมอบให้ ก่อนที่ตำรวจจะทราบตัวผู้ต้องสงสัยและนำกำลัง พร้อมหมายค้น เข้าตรวจสอบเก็บหลักฐาน โดยเฉพาะอาวุธปืนที่บ้านพักของผู้ต้องสงสัยในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ พล.ต.ต.ธวัชชัย ย้ำว่า คดีนี้ไม่มีการสลับสับเปลี่ยนตัวผู้ต้องหาอย่างแน่นอน และจะดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด ไม่ว่าผู้ก่อเหตุจะเป็นลูกหลานนักการเมืองหรือผู้ใดก็ตาม หากกระทำความผิดก็ต้องว่าไปตามผิด ด้านคนใกล้ชิดนักการเมืองที่ปรากฏในข่าว ระบุว่า วันนี้ (18 พ.ค.) ตำรวจได้นำกำลังเข้าตรวจสอบบ้านพักของผู้ก่อเหตุแล้ว และยอมรับว่าผู้ก่อเหตุเป็นหลานของนักการเมืองจริง โดยเป็นลูกของน้องชาย พร้อมยืนยันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำและพฤติกรรมส่วนตัวของผู้ก่อเหตุ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับนักการเมืองคนดังกล่าวและได้ตำหนิหลานชายไปแล้ว ทั้งนี้จะไม่มีการให้ความช่วยเหลือใดๆ ให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย อ่านข่าวอื่นๆ "แอม" ไม่ให้การ ตร.เพิ่มปม "ก้อย" เสียชีวิต มือตบ "ศรีสุวรรณ" ร่ำไห้รับทราบ 2 ข้อหา ยอมติดคุก ศาลให้ประกัน "จตุพร" คดีบุกบ้านสี่เสาเทเวศร์ ตีราคา 2 แสน
วันนี้ (23 ก.ค.2567) กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคล