จนท.จับ 2 ผู้ต้องสงสัยวางบึ้ม 3 จุดที่ จ.นราฯ ได้แ

วันนี้ (22 ก.ย.2567) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังพายุซูลิกกระหน่ำลงมาอย่างหนัก เกิดน้ำป่าทะลักไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน บ้านผาเจริญ ต.ท่าสะอาด อ.นาด้วง จ.เลย ซึ่งน้ำป่าได้ไหลหลาก ช่วงถนน สายเลย-นาด้วง
ศาลออกหมายจับ หน.อุทยานแก่งกระจายเอี่ยวยิง แกนนำ ต่อต้านผลักดันชนกลุ่มน้อย ศาลจังหวัดเพชรบุรีอนุมัติหมายจับหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ในคดีเกี่ยวข้องกับการสังหาร แกนนำช่วยเหลือชาวกะเหรี่ยงในพื้นท
2 คดีลักลอบตัดไม้กฤษณาในป่าเขาใหญ่ ที่เกิดขึ้นในช่วงเดือน ก.ค.2564 นับเป็นการลักลอบตัดของป่าหวงห้ามที่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อีกครั้ง (อ่านข่าว : 2 วันติด! จับไทย-กัมพูชาลอบตัด "ไม้กฤษณา" บนเขาใหญ่) ในแต่ละปีมีคนลักลอบเข้าไปขโมยไม้กฤษณาหลายราย และเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้หลายครั้ง หลายคนอาจสงสัยว่า “ไม้กฤษณา” มีอะไรดี ทำไมจึงมีราคาแพง ให้คนเหล่านั้นยอมเสี่ยง ไทยพีบีเอสออนไลน์ ชวนหาคำตอบถึงสาเหตุที่ “ไม้กฤษณา” เป็นที่ต้องการของขบวนการลักลอบตัดไม้ และสำรวจพื้นที่ไม้กฤษณาในประเทศ ที่อาจกลายเป็นจุดเสี่ยงให้ต้องเฝ้าระวัง ภาพ : กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ภาพ : กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ข้อมูลจากกลุ่มงานพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยี สำนักวิจัยและพัฒนาการป่าไม้ กรมป่าไม้ ระบุว่า สารกฤษณาที่แทรกอยู่ในเนื้อไม้กฤษณา เป็นน้ำมันหอมระเหย หรือยางชันที่มีราคาสูง เป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ มีการนำไปใช้ประโยชน์ในด้านการแพทย์ อุตสาหกรรมกลั่นน้ำหอม การแต่งกลิ่นยาสูบ และการทำผลิตภัณฑ์ป้องกันแมลง ด้วยเหตุนี้จึงทำให้มีการลักลอบตัดต้นกฤษณาในป่าธรรมชาติ จนทำให้ไม้ชนิดนี้มีแนวโน้มใกล้จะสูญพันธุ์ สำหรับไม้กฤษณาที่พบในประเทศไทยมีอยู่ 5 ชนิด คือ กฤษณา (Aquilaria crassna) ไม้หอม (Aquilaria malaccensis) กำแยหรือกาแย (Aquilaria subintegra) ไม้จาแน (Aquilaria hirta Ridl.) และกฤษณาดอยหรือกฤษณาพม่า (Aquilaria rugosa) พันธุ์ไม้กฤษณาที่สร้างสารกฤษณาได้มีเพียง 2 ชนิดแรกเท่านั้น “กฤษณา” เป็นสารพวกน้ำมันระเหย หรือชัน หรือยาง (terpenoid) เกิดจากขบวนการรักษาบาดแผลของต้นกฤษณา โดยการสร้างสารกฤษณามาที่บริเวณบาดแผล ทำให้เนื้อไม้เปลี่ยนจากสีขาว เป็นสีน้ำตาลไปจนถึงดำ และมีกลิ่นหอม ขณะที่การเกิดกฤษณาในธรรมชาติต้องใช้ระยะเวลานาน ความต้องการกฤษณามีทั้งในและต่างประเทศ ในรูปของไม้แก่นกฤษณา ไม้สับ กากไม้ และน้ำหอม มีราคาแตกต่างกันในแต่ละส่วนและคุณภาพ เช่น แม้ว่าไม้กฤษณาจะไมวิเคราะห์ บอล สกอร์ สูง ต่ํา่เป็นไม้หวงห้าม ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 แต่ชิ้นไม้กฤษณาและกฤษณาถูกกำหนดให้เป็นของป่าหวงห้ามตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 ซึ่งจะเป็นของป่าหวงห้ามเฉพาะที่เกิดขึ้นในเขตป่าเท่านั้น แต่ในที่ดินที่ไม่ใช่ป่าก็จะไม่ใช่ของป่าหวงห้าม ย้อนกลับไปเมื่อปี 2550 กลุ่มงานสำรวจทรัพยากรป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ทำการสำรวจพื้นที่ป่าประเทศไทย พบว่า มีต้นกฤษณา 397,411 ต้น กระจายอยู่ในป่าอนุรักษ์ ทั้งเขตอุทยานแห่งชาติ และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า รวม 24 แห่ง โดยพบมากที่สุดในแถบภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 10 อันดับแรก ดังนี้ ป่าที่พบต้นกฤษณา 24 แห่งทั่วประเทศ จึงเป็นพื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังขบวนการลักลอบตัดไม้ผิดกฎหมาย เพราะไม้ชนิดนี้เป็นที่ต้องการของตลาด เป็นไม้หายากและมีราคาแพง
การจับลิงตึกลพบุรี 10 วัน 800 ตัว วางแผนไว้ตามพื้นที่ ที่กรงในสวนลิงโพธิ์เก้าต้น จะรองรับลิงได้ประมา
วันนี้ (19 มี.ค.2565) เขาแดง อ.สิงหนคร จ.สงขลา เป็นโบราณสถานอายุกว่า 1,000 ปี ได้รับความเสียหายหลังถ
2 คดีลักลอบตัดไม้กฤษณาในป่าเขาใหญ่ ที่เกิดขึ้นในช่วงเดือน ก.ค.2564 นับเป็นการลักลอบตัดของป่าหวงห้ามท
2 คดีลักลอบตัดไม้กฤษณาในป่าเขาใหญ่ ที่เกิดขึ้นในช่วงเดือน ก.ค.2564 นับเป็นการลักลอบตัดของป่าหวงห้ามที่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อีกครั้ง (อ่านข่าว : 2 วันติด! จับไทย-กัมพูชาลอบตัด "ไม้กฤษณา" บนเขาใหญ่) ในแต่ละปีมีคนลักลอบเข้าไปขโมยไม้กฤษณาหลายราย และเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้หลายครั้ง หลายคนอาจสงสัยว่า “ไม้กฤษณา” มีอะไรดี ทำไมจึงมีราคาแพง ให้คนเหล่านั้นยอมเสี่ยง ไทยพีบีเอสออนไลน์ ชวนหาคำตอบถึงสาเหตุที่ “ไม้กฤษณา” เป็นที่ต้องการของขบวนการลักลอบตัดไม้ และสำรวจพื้นที่ไม้กฤษณาในประเทศ ที่อาจกลายเป็นจุดเสี่ยงให้ต้องเฝ้าระวัง ภาพ : กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ภาพ : กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ข้อมูลจากกลุ่มงานพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยี สำนักวิจัยและพัฒนาการป่าไม้ กรมป่าไม้ ระบุว่า สารกฤษณาที่แทรกอยู่ในเนื้อไม้กฤษณา เป็นน้ำมันหอมระเหย หรือยางชันที่มีราคาสูง เป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ มีการนำไปใช้ประโยชน์ในด้านการแพทย์ อุตสาหกรรมกลั่นน้ำหอม การแต่งกลิ่นยาสูบ และการทำผลิตภัณฑ์ป้องกันแมลง ด้วยเหตุนี้จึงทำให้มีการลักลอบตัดต้นกฤษณาในป่าธรรมชาติ จนทำให้ไม้ชนิดนี้มีแนวโน้มใกล้จะสูญพันธุ์ สำหรับไม้กฤษณาที่พบในประเทศไทยมีอยู่ 5 ชนิด คือ กฤษณา (Aquilaria crassna) ไม้หอม (Aquilaria malaccensis) กำแยหรือกาแย (Aquilaria subintegra) ไม้จาแน (Aquilaria hirta Ridl.) และกฤษณาดอยหรือกฤษณาพม่า (Aquilaria rugosa) พันธุ์ไม้กฤษณาที่สร้างสารกฤษณาได้มีเพียง 2 ชนิดแรกเท่านั้น “กฤษณา” เป็นสารพวกน้ำมันระเหย หรือชัน หรือยาง (terpenoid) เกิดจากขบวนการรักษาบาดแผลของต้นกฤษณา โดยการสร้างสารกฤษณามาที่บริเวณบาดแผล ทำให้เนื้อไม้เปลี่ยนจากสีขาว เป็นสีน้ำตาลไปจนถึงดำ และมีกลิ่นหอม ขณะที่การเกิดกฤษณาในธรรมชาติต้องใช้ระยะเวลานาน ความต้องการกฤษณามีทั้งในและต่างประเทศ ในรูปของไม้แก่นกฤษณา ไม้สับ กากไม้ และน้ำหอม มีราคาแตกต่างกันในแต่ละส่วนและคุณภาพ เช่น แม้ว่าไม้กฤษณาจะไมวิเคราะห์ บอล สกอร์ สูง ต่ํา่เป็นไม้หวงห้าม ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 แต่ชิ้นไม้กฤษณาและกฤษณาถูกกำหนดให้เป็นของป่าหวงห้ามตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 ซึ่งจะเป็นของป่าหวงห้ามเฉพาะที่เกิดขึ้นในเขตป่าเท่านั้น แต่ในที่ดินที่ไม่ใช่ป่าก็จะไม่ใช่ของป่าหวงห้าม ย้อนกลับไปเมื่อปี 2550 กลุ่มงานสำรวจทรัพยากรป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ทำการสำรวจพื้นที่ป่าประเทศไทย พบว่า มีต้นกฤษณา 397,411 ต้น กระจายอยู่ในป่าอนุรักษ์ ทั้งเขตอุทยานแห่งชาติ และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า รวม 24 แห่ง โดยพบมากที่สุดในแถบภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 10 อันดับแรก ดังนี้ ป่าที่พบต้นกฤษณา 24 แห่งทั่วประเทศ จึงเป็นพื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังขบวนการลักลอบตัดไม้ผิดกฎหมาย เพราะไม้ชนิดนี้เป็นที่ต้องการของตลาด เป็นไม้หายากและมีราคาแพง
วันนี้ (5 มี.ค.2564) น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลั