เรือ Amerigo Vespucci ซึ่งเป็นเรือสำเภาสัญชาติอิตาลี ที่ได้รับสมญานามว่า the most beautiful ship in
วันนี้ (20 ก.ย.2565) โลกโซเชียลโชว์ภาพบิลค่าไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากค่าไฟฟ้าผันแปรปรับขึ้น 93.43 สตางค์ต่อหน่วย ในงวดเดือน ก.ย. โดยนำบิลค่าไฟมาเปรียบเทียบกับงวด ส.ค. โดยผู้ใช้ไฟฟ้า ระบุว่า ค่าไฟฟ้
เรือ Amerigo Vespucci ซึ่งเป็นเรือสำเภาสัญชาติอิตาลี ที่ได้รับสมญานามว่า the most beautiful ship in the world หรือเรือที่สวยที่สุดในโลก และยังเก่าแก่ที่สุดในโลกจากอิตาลี ซึ่งอยู่ระหว่างการเดินทางรอบโลก ได้เข้าจอดเทียบท่าเรือภูเก็ตเมื่อช่วงค่ำวานนี้ (5 พ.ย.) เรือมีความโดดเด่นด้วยโครงสร้างเรือใบสามเสาที่งดงาม โครงเรือและลวดลายแกะสลักได้รับการออกแบบอย่างประณีตและสง่างาม ผสมผสานความคลาสสิกและความอลังการอย่างลงตัว โดยจะเปิดให้ประชาชนที่ลงทะเบียนไว้แล้ว ได้เข้าเยี่ยมชมระหว่างวันที่ 6-10 พ.ย.นี้ จากนั้นจะเดินทางไปยังอินเดียต่อไป ขณะที่ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล หรือ ศรชล.ภาค 3 ร่วมกับทัพเรือภาคที่ 3 ได้จัดเรือตรวจการณ์และเฮลิคอปเตอร์ ออกไปต้อนรับและคุ้มกันความปลอดภัย พร้อมทั้งอำนวยความสะดวกในการเข้าเทียบท่า อีกทั้งมีการบรรเลงดนตรีจากวงดุริยางค์ต้อนรับอย่างสมเกียรติ สำหรับเร1️35pg slotือสำเภา Amerigo Vespucci สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1930 สำหรับฝึกทหารเรือของอิตาลี โดยตั้งชื่อเรือตาม Amerigo Vespucci นักสำรวจและต้นหนเรือที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งของอิตาลีในช่วงศตวรรษที่ 16 เป็นเรือใบทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสเต็มลำ จะมีใบเรือ 24 ใบ พื้นที่ทั้งหมด 2,600 ตารางเมตร ความยาว 101 เมตร เสากระโดงหลักสามเสาสูงจากระดับน้ำทะเล 54 เมตร ความลึกในการกินน้ำสูงสุดคือ 7.30 เมตร และระวางขับน้ำ 4,100 ตัน ในช่วงแรกเรือลำนี้ถูกใช้งานเพื่อฝึกซ้อมการเดินสมุทรให้กับเหล่านาวิกโยธินชาวอิตาลี จากนั้นถูกใช้งานเพื่อเป็นเรือสำรวจน่านน้ำเชิงอนุรักษ์ เป็นเวลาอีกกว่า 30 ปี รวมแล้วอายุของเรือลำนี้มากกว่า 90 ปี โดยกำลังเดินทางรอบโลก เพื่อเผยแพร่ศิลปะวัฒนธรรมของอิตาลี และจะแวะให้ผู้สนใจเข้าชมตามเมืองท่าต่าง ๆ 15 แห่ง ทั้งนี้ เป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปีของการออกเดินทางรอบโลก ซึ่งบนเรือนอกจากจะเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนาน ยังมีภัตตาคารอิตาเลี่ยน และรายการบันเทิงต่าง ๆ สำหรับผู้สนใจประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของอิตาลี
ปลุกกระแสตั้งแต่ต้นปี 2568 เรื่องปรับคณะรัฐมนตรี ขยายไฟความขัดแย้งในพรรคร่วมรัฐบาล จนมีข่าว นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และรมว.พลังงาน จากพรรครวมไทยสร้างชาติ จะถูกปรับออกจากครม. เนื่องจากมีแนว