วันนี้ (3 ม.ค.2565) นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรม
ความคืบหน้าการควบคุมตัว ผู้ต้องหาคดี สตง.ที่มี นายเปรมชัย กรรณสูตร และพวกรวม 14 คน คืนแรก ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ล่าสุึดวันนี้ (17 พ.ค.2568) นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ รองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว
นางเอ (นามสมมติ) อายุ 69 ปี ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา รับสายโทรศัพท์เบอร์แปลก บอกว่าผู้เสียหายส่งของผิดกฎหมายผ่านบริษัทขนส่งแห่งหนึ่งไปยังประเทศจีน เป็นพาสปอร์ต 7 เล่ม และบัตร
นางเอ (นามสมมติ) อายุ 69 ปี ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา รับสายโทรศัพท์เบอร์แปลก บอกว่าผู้เสียหายส่งของผิดกฎหมายผ่านบริษัทขนส่งแห่งหนึ่งไปยังประเทศจีน เป็นพาสปอร์ต 7 เล่ม และบัตรเอทีเอ็ม 15 ใบ และขณะนี้จับผู้ที่ซัดทอดมายังผู้เสียหายได้แล้ว ผู้เสียหายต้องมาดำเนินการชี้แจง ที่ สภ.เชียงใหม่ หากไม่สะดวกจะช่วยดำเนินการแทนให้ นอกจากนี้ ยังอ้างว่าจะให้คุยผ่านสารวัตรตำรวจ สภ.เชียงใหม่ ซึ่งก็คือหนึ่งในแก๊งมิจฉาชีพที่สร้างโปรไฟล์หลอกผู้เสียหายให้เชื่อถือ โดยมิจฉาชีพจะเพิ่มเพื่อนมาทางไลน์ และโทรกลับมายังผู้เสียหาย ระหว่างที่พูดคุยจะพยายามถามถึงข้อมูลส่วนตัว ให้ผู้เสียหายอยู่คนเดียว และข่มขู่หากมีบุคคลอื่นอยู่ด้วยระหว่างคุยจะทำให้รูปคดีในชั้นศาลเสียหาย จากนั้นมิจฉาชีพจะถามถึงจำนวนเงินในบัญชีว่ามีจำนวนเท่าไร หากบอกยอดเงินกลับไปจะเข้าเป้าหมายทันที กรณีนี้ผู้เสียหายตอบกลับไป มิจฉาชีพจึงบอกให้โอนเงินักสืบ บอล เต็งนจำนวน 3 ล้านบาท มาตรวจสอบก่อน เมื่อตรวจสอบแล้วจะโอนกลับ ขณะที่ผู้เสียหายได้ ตั้งการโอนเงินไว้ครั้งละไม่เกิน 700,000 บาท ความพยายามของมิจฉาชีพยังไม่หยุด โดยให้นางเอโอนเงินไปครั้งละ 699,999 บาท จำนวน 4 ครั้ง ชื่อบัญชีปลายทาง คือ นายณัฐวัฒน์ โสลมัย และครั้งที่ 5 โอนอีก 600,000 บาท ใช้เวลาในการพูดคุย 1 ชั่วโมง 44 นาทีและใช้เวลาในการโอนเงินเพียง 12 นาที สูญเงินไปกว่า 3 ล้านบาท ภายหลังผู้เสียหายแจ้งความที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ ตำรวจโทรศัพท์ไปหาเจ้าของบัญชีธนาคาร พบว่า มารดาของนายณัฐวัฒน์ เจ้าของบัญชี เป็นผู้รับสาย บอกว่าลูกชายอายุ 15 ปี ไม่ได้เรียนหนังสือ และตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าไปอยู่ที่ไหน ไม่เพียงกรณีนี้เท่านั้น ในโลกออนไลน์ยังพบว่ามีอีกหลายคนที่ถูกแก๊งมิจฉาชีพ โทรมาในลักษณะนี้ แต่ส่วนใหญ่ไหวตัวทัน ไม่หลงเชื่อ เนื่องจากพฤติการณ์ที่ทำมีลักษณะเดียวกัน ที่ในโซเชียลมีเดียมีการแชร์ไว้เตือนภัย คือ บอกว่าส่งของไปประเทศจีนและเรียกเงินตรวจสอบ นี่จึงเป็นอีกวิธีที่มิจฉาชีพใช้หลอก และต้องถามกลับถึงความปลอดภัย โดยเฉพาะเบอร์โทรศัพท์ ชื่อนามสกุล ที่มักถูกล้วงข้อมูลและไปอยู่ในมือของมิจฉาชีพได้อย่างไรกัน
ครอบครัวชูวงษ์เข้ายื่นหนังสือถึง ผบ.ตร.ขอเปลี่ยน ตร.เจ้าของคดี เหตุเป็นเพื่อนร่วมรุ่น พ.ต.ท.บรรยิน ค
วันนี้ (22 มี.ค.2567) ความคืบหน้าเกิดเหตุลอบวางเพลิงวางระเบิดหลายจุดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ใน
วันนี้ (30 ก.ค.2565) นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เป็นประธานในพิธีวาง
นางเอ (นามสมมติ) อายุ 69 ปี ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา รับสายโทรศัพท์เบอร์แปลก บอกว่าผู้เสียหายส่งของผิดกฎหมายผ่านบริษัทขนส่งแห่งหนึ่งไปยังประเทศจีน เป็นพาสปอร์ต 7 เล่ม และบัตรเอทีเอ็ม 15 ใบ และขณะนี้จับผู้ที่ซัดทอดมายังผู้เสียหายได้แล้ว ผู้เสียหายต้องมาดำเนินการชี้แจง ที่ สภ.เชียงใหม่ หากไม่สะดวกจะช่วยดำเนินการแทนให้ นอกจากนี้ ยังอ้างว่าจะให้คุยผ่านสารวัตรตำรวจ สภ.เชียงใหม่ ซึ่งก็คือหนึ่งในแก๊งมิจฉาชีพที่สร้างโปรไฟล์หลอกผู้เสียหายให้เชื่อถือ โดยมิจฉาชีพจะเพิ่มเพื่อนมาทางไลน์ และโทรกลับมายังผู้เสียหาย ระหว่างที่พูดคุยจะพยายามถามถึงข้อมูลส่วนตัว ให้ผู้เสียหายอยู่คนเดียว และข่มขู่หากมีบุคคลอื่นอยู่ด้วยระหว่างคุยจะทำให้รูปคดีในชั้นศาลเสียหาย จากนั้นมิจฉาชีพจะถามถึงจำนวนเงินในบัญชีว่ามีจำนวนเท่าไร หากบอกยอดเงินกลับไปจะเข้าเป้าหมายทันที กรณีนี้ผู้เสียหายตอบกลับไป มิจฉาชีพจึงบอกให้โอนเงินักสืบ บอล เต็งนจำนวน 3 ล้านบาท มาตรวจสอบก่อน เมื่อตรวจสอบแล้วจะโอนกลับ ขณะที่ผู้เสียหายได้ ตั้งการโอนเงินไว้ครั้งละไม่เกิน 700,000 บาท ความพยายามของมิจฉาชีพยังไม่หยุด โดยให้นางเอโอนเงินไปครั้งละ 699,999 บาท จำนวน 4 ครั้ง ชื่อบัญชีปลายทาง คือ นายณัฐวัฒน์ โสลมัย และครั้งที่ 5 โอนอีก 600,000 บาท ใช้เวลาในการพูดคุย 1 ชั่วโมง 44 นาทีและใช้เวลาในการโอนเงินเพียง 12 นาที สูญเงินไปกว่า 3 ล้านบาท ภายหลังผู้เสียหายแจ้งความที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ ตำรวจโทรศัพท์ไปหาเจ้าของบัญชีธนาคาร พบว่า มารดาของนายณัฐวัฒน์ เจ้าของบัญชี เป็นผู้รับสาย บอกว่าลูกชายอายุ 15 ปี ไม่ได้เรียนหนังสือ และตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าไปอยู่ที่ไหน ไม่เพียงกรณีนี้เท่านั้น ในโลกออนไลน์ยังพบว่ามีอีกหลายคนที่ถูกแก๊งมิจฉาชีพ โทรมาในลักษณะนี้ แต่ส่วนใหญ่ไหวตัวทัน ไม่หลงเชื่อ เนื่องจากพฤติการณ์ที่ทำมีลักษณะเดียวกัน ที่ในโซเชียลมีเดียมีการแชร์ไว้เตือนภัย คือ บอกว่าส่งของไปประเทศจีนและเรียกเงินตรวจสอบ นี่จึงเป็นอีกวิธีที่มิจฉาชีพใช้หลอก และต้องถามกลับถึงความปลอดภัย โดยเฉพาะเบอร์โทรศัพท์ ชื่อนามสกุล ที่มักถูกล้วงข้อมูลและไปอยู่ในมือของมิจฉาชีพได้อย่างไรกัน
วันนี้ (10 ม.ค.2564) ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เชิญชวนประชาชนมาร่วมกันบริจาคโลหิต ซึ่งขณะ