UID: 91101

กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชียล หลังเพจ "สมาคมแท็กซี่ไทย" ซึ่งเป็นเพจที่ถูกระบุว่า เป็นของเค

วันนี้ (10 ก.ค.2565) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม.และนายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าฯ กทม. ร่

กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชียล หลังเพจ "สมาคมแท็กซี่ไทย" ซึ่งเป็นเพจที่ถูกระบุว่า เป็นของเครือข่าย กลุ่มสมาคมแท็กซี่ไทย ออกมาโพสต์ให้คำแนะนำกับผู้หญิง 5 ข้อ ไม่ควรทำในการใช้บริการบนรถแท็กซี่ โดยระบุข้อความว่า ไม่นั่งหน้า,ไม่นั่งหลับ,ไม่นุ่งสั้น,ไม่ชวนคุย และไม่บอกว่า ไม่รู้เส้นทาง โดยหลังจากโพสต์ดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ออกไปมีหลายความเห็นที่ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย เรื่องแรกยังไม่ผ่านพ้นกลายเป็นดรามาขึ้นมาอีกครั้ง หลังทางเพจโพสต์ภาพพร้อมข้อความ ระบุว่า "ประกาศ ขอความร่วมมือคนขับใช้ "ภาษาไทย" ในการสื่อสารกับผู้โดยสาร เน้นย้ำไม่ให้ใช้ภาษาอีสานเด็ดขาด เพื่อเป็นการยกระดับและสร้างภาพลักษณ์คนขับ ในการให้บริการอย่างมืออาชีพ" ซึ่งกำลังถูกตั้งคำถามจากผู้คนจำนวนมากว่าเหมาะสมหรือไม่ที่จะหยิบนำประเด็นเรื่องการใช้ภาษามาเป็นคำแนะนำ แม้จะอ้างว่าเป็นการยกระดับและสร้างภาพลักษณ์ในการให้บริการก็ตาม ไม่เว้นแม้แต่โพสต์ที่บอกว่า "ขอความร่วมมือผู้ใช้บริการทุกท่านขึ้นทางด่วนหากต้องการเร็ว เพราะทุกปีเกิดการกระทบกระทั่งระหว่างคนขับและผู้ใช้บริการ ประกอบกับสภาพการจราจรของกรุงเทพฯ เอาแน่เอานอนไม่ได้จึงเรียนมาเพื่อทราบ" จากประเด็นที่เกิดขึ้นต่อเนื่องทำให้มีบางคนถึงขั้นสงสัยว่านี่เป็นเพจจริงหรือเพจปั่นกระแสกันแน่ ล่าสุดไทยพีบีเอสได้รับคำชี้แจงจากทางแอดมินเพจแล้ว นายวีระชัย เกียรติวิมล แอดมินเพจ สมาคมแท็กซี่ไทย เปิดเผยถึงสาเหตุที่โพสต์เตือนภัยผู้หญิงว่า จากการศึกษาเหตุอาชญากรรมบนรถแท็กซี่กับผู้โดยสารผู้หญิง ส่วนใหญ่เกิดจากพฤติกรรมเหล่านี้ เช่น การนั่งด้านหน้าอาจไม่สามารถหลบหนีหรือทันระวังตัวได้ การหลับเป็นเหตุให้ถูกล่วงละเมิด การนุ่งสั้นอาจทำให้นำไปสู่การล่วงละเมิดได้ จึงได้ออกมาเตือนภัยให้ระมัดระวังตัวเอง ไม่มีเจตนาทำให้สังคมเข้าใจผิดและไม่ใช่คนขับแท็กซี่ทุกคนจะเป็นคนไม่ดี ทีมข่าวยังลงพื้นที่สำรวจความเห็นของคนขับแท็กซี่ หลายคนบอกว่า เป็นสิ่งที่ดีที่เตือนภัยผู้โดยสาร เพราะบางคนชอบชวนคุย นั่งหน้า นุ่งสั้น นัvip สล็อต่งหลับ หรือไม่รู้ทางอาจถูกโกงค่าโดยสารได้ ขณะที่ผู้ใช้บริการแท็กซี่ บอกว่า เป็นสิ่งที่ดีที่ออกมาเตือนทำให้ตระหนักถึงภัยที่อาจเกิดขึ้นและไม่สามารถรู้ได้ว่า คนขับแท็กซี่คนไหนดีหรือไม่ดีจึงควรระวังตัวเองให้ปลอดภัยที่สุด รถติด รถติด เมื่อพูดถึงการใช้บริการแท็กซี่ยังมีอีกประเด็นที่ถูกพูดถึงมาต่อเนื่อง นั่นคือการปฏิเสธผู้โดยสาร ทั้งอ้างว่าส่งรถ ไกล หรือรถติด โดยหนึ่งในผู้ใช้บริการแท็กซี่คนหนึ่ง เล่าว่า เรียกแท็กซี่จากหน้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งไปย่านสำเพ็ง ระยะทางประมาณ 10 กม. แต่กลับต้องเจอเหตุการณ์แบบนี้ เหตุการณ์เกิดขึ้นคืนวันเสาร์ ช่วงประมาณ 2 ทุ่ม รถไม่ติด ระยะทางก็ปกติของการเดินทางในกรุงเทพฯ และไม่ได้ไปที่เปลี่ยว แต่ต้องเรียกรถถึง 3 คัน กว่าจะมี 1 คันที่ไป ส่วนใหญ่ไม่ได้ให้เหตุผลว่า ทำไมถึงไม่ไปด้วยซ้ำ ทั้ง ๆ ที่ตามปกติก็ไม่ควรปฏิเสธผู้โดยสารหรือไม่

วันนี้ ( 4 ธ.ค.2567) นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย ในฐานะประธานที่ประชุมคณะกรรมการร่ว