วันนี้ (7 มิ.ย.2568) จากสถานการณ์ความไม่แน่นอนบนแน

หลังจากปล่อยทีเซอร์ซิงเกิลใหม่ "ROCKSTAR" ความยาว 10 วินาทีผ่านทุกแพลตฟอร์มออนไลน์ของ LLOUD Official ไปแล้ว เรียกได้ว่าการปรากฏตัวกลางถนนเยาวราชท่ามกลางแสงสปอตไลต์ที่ส่องมาที่ลิซ่า และแสงสว่างจากป้ายร
วันนี้ (18 เม.ย.2567) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.ผบ.ตร.) มีหนังสือคำสั่งที่ 178/2567 ลงวันที่ 18 เม.
วันนี้ (26 ม.ค.2564) ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณะบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ยกแบบจำลองมาอธิบายภูมิคุ้มกันต่อเชื้อ COVID-19 ว่า หากมีคนจำนวนหนึ่งอยู่รวมกันในชุมชน ทุกคนไม่มีภูมิคุ้มกันโรค บางส่วนสวมหน้ากากอนามัย บางคนไม่ได้สวมก็สามารถรับเชื้อได้ โดยธรรมชาติของ COVID-19 ผู้ที่รับเชื้อแล้วไม่เสียชีวิตในสัปดาห์ที่ 2 ก็จะสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกายขึ้น ขณะที่ไวรัสยังอยู่ในชุมชนก็จะทำให้มีการติดเชื้อในกลุ่มใหม่ ๆ ได้ และในกลุ่มก็จะเกิดในลักษณะเดียวกันกับกลุ่มแรก คือ บางรายเสียชีวิต และผู้ที่ไม่เสียชีวิตก็จะมีภูมิคุ้มกันขึ้น เชื้อ COVID-19 หากอยู่ในอากาศอุณหภูมิ 25 องศาเซสเซียส โดยไม่มีอะไรห่อหุ้มเซลล์ แค่ไม่กี่นาทีก็สลายตัว แต่หากมีสิ่งห่อหุ้ม เช่น น้ำลาย เสมหะ อาจอยู่ได้นานถึง 1 ชั่วโมง แต่ไม่สามารถแบ่งตัวมันเองได้ เนื่องจากไวรัสจะเพิ่มจำนวนได้ต่อเมื่อเข้าไปในสิ่งมีชีวิต และแพร่กระจายออกไป นอกจากนี้ หากจำลองสถานการณ์ใหม่ คือ คนส่วนใหญ่ในชุมชนมีภูมิคุ้มกัน มีบางส่วนที่ป้องกันตัวเอง ใส่หน้ากากอนามัย และส่วนน้อยไม่มีภูมิคุ้มกันและไม่ป้องกันตัวเอง ก็กลายเป็นคนติดเชื้อและอาจเสียชีวิต แต่คนที่เหลือจะมีภูมิคุ้มกันหมด ไวรัสในอากาศจะไม่สามารถเข้าร่างกายได้ เพราะแต่ละคนมีภูมิคุ้มกัน ไวรัสจะสลายไปในที่สุด นี้เป็นเหตุผลที่มีการพูดว่า หากสัดส่วนคนในประเทศใดประเทศหนึ่ง มีจำนวนมากพอจะทำให้ไวรัสไม่สามารถอยู่ในพื้นที่นั้นได้ และจะสลายไปในที่สุด สำหรับ COVID-19 ยังไม่ตัวเลขชัดเจนเพราะเป็นโรคใหม่ โรคบ้างโรคในอดีต เช่น หัด สัดส่วนคนที่ต้องมีภูมิคุ้มกันในประเทศนั้น คือ ร้อยละ 95 โรคหัดจะหายไปจากประเทศ ซึ่งโอกาสจะน้อย ถึงยังต้องมีการฉีดวัคซีนตลอด ศ.นพ.ประสิทธิ์ ยังได้ยก 2 วิธีที่ทำให้เกิดภูมิคุ้มกัน คือ 1.เกิดจากการติดเชื้อ สิ่งที่แลกมาคือ การเสียชีวิต 2.การฉีดวัคซีน โดย COVID-19 คาดประมาณร้อยละ 70 ของประชากรในประเทศ อาจจะทำให้ไวรัสหายไป เพราะหากคนมีภูมิคุ้มกันเยอะพอ ไวรัสในอากาศเข้าตัวคนไม่ได้ ไม่นานก็จะหายไป และหากหายไปถาวร ตอนนั้น จึงสามารถเลิกสวมหน้ากากอนามัยได้ ข้อมูลนี้ต้องการจำลองสถานการณ์ หากคนไทยช่วยกันฉีดวัคซีน เบ็ดเสร็จ คือ เราช่วยชาติ เพราะทันทีที่คนไทยมีภูมิคุ้มกันมากพอ COVID-19 ก็อยู่ในประเทศไม่ได้ คนจำนวนหนึ่งกลัวกับการฉีดวัคซีน แต่บางคนอยากฉีดวัคซีนเพราะไม่อยากตายจากไวรัส ฉะนั้นการเลือกวัคซีนที่มาฉีดให้กับประชาชนจะเน้นเรื่องความปลอดภัยและประสิทธิภาพเป็นสำคัญ เนื่องจากไม่มีใครอยากตายจากไวรัส และไม่มีใครอยากตายเพราะวัคซีน ศ.นพ.ประสิทธิ์ กล่าวว่า ข้อมูลล่าสุด วันที่ 14 ม.ค. มีวัคซีนที่ผ่านเข้าสู่ระยะที่ 3เกมส์ ล็ อ ต 777 แล้วใน 20 บริษัท โดยการศึกษาในคนอย่างน้อย 30,000 คน เพื่อดูความปลอดภัยและประสิทธิภาพ และมีด้วยกัน 4 เทคโนโลยี ซึ่งวัคซีนของบริษัทไฟเซอร์และบริษัทโมเดอนา ใช้เทคโนโลยี mRNA ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ และมีราคาแพง แต่ไทยไม่ได้นำเข้า แม้วัคซีนมีประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัสสูงสุดถึงร้อยละ 95 แต่ไม่จำเป็น เพราะร้อยละ 50-60 ก็เพียงพอ อย่างเช่นวัคซีนไข้หวัดใหญ่ที่ฉีดประจำปีมีประสิทธิภาพประมาณร้อยละ 50-60 เท่านั้น ส่วนที่มีผู้สงสัยว่าการรับวัคซีนทำไมต้องเป็นไปตามความสมัครใจ ควรบังคับทุกคนฉีดหรือไม่นั้น ศ.นพ.ประสิทธิ์ กล่าวว่า ส่วนตัวเห็นว่า ไม่ควรบังคับเพราะวัคซีนแต่ละตัวไม่มีการยืนยันว่าจะปลอดภัย 100 เปอร์เซ็นต์ เหมือนการรักษาคนไข้ก็ต้องได้รับความยินยอมจากคนไข้ให้รับการรักษา โดยแพทย์จะต้องอธิบายให้คนไข้เข้าใจว่า การรักษานั้นจะเกิดประโยชน์อย่างไรและมีผลกระทบอย่างไรบ้าง ทั้งนี้ยืนยันว่าวัคซีนมีความจำเป็น และวัคซีนที่นำเข้ามามีเทคโนโลยีที่มีความปลอดภัยสูง การแพ้อาจจะมีบ้างแต่ไม่รุนแรง ก็อยากเชิญชวนให้คนไทยมาฉีดวัคซีน
วันนี้ (19 พ.ย.2565) เป็นวันสุดท้ายของการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 29 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้
กรณีคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงป้ายสถานีกลางบางซื่อ เป็นสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน
วันนี้ (26 ม.ค.2564) ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณะบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ยกแบบ
วันนี้ (26 ม.ค.2564) ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณะบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ยกแบบจำลองมาอธิบายภูมิคุ้มกันต่อเชื้อ COVID-19 ว่า หากมีคนจำนวนหนึ่งอยู่รวมกันในชุมชน ทุกคนไม่มีภูมิคุ้มกันโรค บางส่วนสวมหน้ากากอนามัย บางคนไม่ได้สวมก็สามารถรับเชื้อได้ โดยธรรมชาติของ COVID-19 ผู้ที่รับเชื้อแล้วไม่เสียชีวิตในสัปดาห์ที่ 2 ก็จะสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกายขึ้น ขณะที่ไวรัสยังอยู่ในชุมชนก็จะทำให้มีการติดเชื้อในกลุ่มใหม่ ๆ ได้ และในกลุ่มก็จะเกิดในลักษณะเดียวกันกับกลุ่มแรก คือ บางรายเสียชีวิต และผู้ที่ไม่เสียชีวิตก็จะมีภูมิคุ้มกันขึ้น เชื้อ COVID-19 หากอยู่ในอากาศอุณหภูมิ 25 องศาเซสเซียส โดยไม่มีอะไรห่อหุ้มเซลล์ แค่ไม่กี่นาทีก็สลายตัว แต่หากมีสิ่งห่อหุ้ม เช่น น้ำลาย เสมหะ อาจอยู่ได้นานถึง 1 ชั่วโมง แต่ไม่สามารถแบ่งตัวมันเองได้ เนื่องจากไวรัสจะเพิ่มจำนวนได้ต่อเมื่อเข้าไปในสิ่งมีชีวิต และแพร่กระจายออกไป นอกจากนี้ หากจำลองสถานการณ์ใหม่ คือ คนส่วนใหญ่ในชุมชนมีภูมิคุ้มกัน มีบางส่วนที่ป้องกันตัวเอง ใส่หน้ากากอนามัย และส่วนน้อยไม่มีภูมิคุ้มกันและไม่ป้องกันตัวเอง ก็กลายเป็นคนติดเชื้อและอาจเสียชีวิต แต่คนที่เหลือจะมีภูมิคุ้มกันหมด ไวรัสในอากาศจะไม่สามารถเข้าร่างกายได้ เพราะแต่ละคนมีภูมิคุ้มกัน ไวรัสจะสลายไปในที่สุด นี้เป็นเหตุผลที่มีการพูดว่า หากสัดส่วนคนในประเทศใดประเทศหนึ่ง มีจำนวนมากพอจะทำให้ไวรัสไม่สามารถอยู่ในพื้นที่นั้นได้ และจะสลายไปในที่สุด สำหรับ COVID-19 ยังไม่ตัวเลขชัดเจนเพราะเป็นโรคใหม่ โรคบ้างโรคในอดีต เช่น หัด สัดส่วนคนที่ต้องมีภูมิคุ้มกันในประเทศนั้น คือ ร้อยละ 95 โรคหัดจะหายไปจากประเทศ ซึ่งโอกาสจะน้อย ถึงยังต้องมีการฉีดวัคซีนตลอด ศ.นพ.ประสิทธิ์ ยังได้ยก 2 วิธีที่ทำให้เกิดภูมิคุ้มกัน คือ 1.เกิดจากการติดเชื้อ สิ่งที่แลกมาคือ การเสียชีวิต 2.การฉีดวัคซีน โดย COVID-19 คาดประมาณร้อยละ 70 ของประชากรในประเทศ อาจจะทำให้ไวรัสหายไป เพราะหากคนมีภูมิคุ้มกันเยอะพอ ไวรัสในอากาศเข้าตัวคนไม่ได้ ไม่นานก็จะหายไป และหากหายไปถาวร ตอนนั้น จึงสามารถเลิกสวมหน้ากากอนามัยได้ ข้อมูลนี้ต้องการจำลองสถานการณ์ หากคนไทยช่วยกันฉีดวัคซีน เบ็ดเสร็จ คือ เราช่วยชาติ เพราะทันทีที่คนไทยมีภูมิคุ้มกันมากพอ COVID-19 ก็อยู่ในประเทศไม่ได้ คนจำนวนหนึ่งกลัวกับการฉีดวัคซีน แต่บางคนอยากฉีดวัคซีนเพราะไม่อยากตายจากไวรัส ฉะนั้นการเลือกวัคซีนที่มาฉีดให้กับประชาชนจะเน้นเรื่องความปลอดภัยและประสิทธิภาพเป็นสำคัญ เนื่องจากไม่มีใครอยากตายจากไวรัส และไม่มีใครอยากตายเพราะวัคซีน ศ.นพ.ประสิทธิ์ กล่าวว่า ข้อมูลล่าสุด วันที่ 14 ม.ค. มีวัคซีนที่ผ่านเข้าสู่ระยะที่ 3เกมส์ ล็ อ ต 777 แล้วใน 20 บริษัท โดยการศึกษาในคนอย่างน้อย 30,000 คน เพื่อดูความปลอดภัยและประสิทธิภาพ และมีด้วยกัน 4 เทคโนโลยี ซึ่งวัคซีนของบริษัทไฟเซอร์และบริษัทโมเดอนา ใช้เทคโนโลยี mRNA ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ และมีราคาแพง แต่ไทยไม่ได้นำเข้า แม้วัคซีนมีประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัสสูงสุดถึงร้อยละ 95 แต่ไม่จำเป็น เพราะร้อยละ 50-60 ก็เพียงพอ อย่างเช่นวัคซีนไข้หวัดใหญ่ที่ฉีดประจำปีมีประสิทธิภาพประมาณร้อยละ 50-60 เท่านั้น ส่วนที่มีผู้สงสัยว่าการรับวัคซีนทำไมต้องเป็นไปตามความสมัครใจ ควรบังคับทุกคนฉีดหรือไม่นั้น ศ.นพ.ประสิทธิ์ กล่าวว่า ส่วนตัวเห็นว่า ไม่ควรบังคับเพราะวัคซีนแต่ละตัวไม่มีการยืนยันว่าจะปลอดภัย 100 เปอร์เซ็นต์ เหมือนการรักษาคนไข้ก็ต้องได้รับความยินยอมจากคนไข้ให้รับการรักษา โดยแพทย์จะต้องอธิบายให้คนไข้เข้าใจว่า การรักษานั้นจะเกิดประโยชน์อย่างไรและมีผลกระทบอย่างไรบ้าง ทั้งนี้ยืนยันว่าวัคซีนมีความจำเป็น และวัคซีนที่นำเข้ามามีเทคโนโลยีที่มีความปลอดภัยสูง การแพ้อาจจะมีบ้างแต่ไม่รุนแรง ก็อยากเชิญชวนให้คนไทยมาฉีดวัคซีน
วันนี้ (12 ก.ค.2565) น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.มีมติ