การปล่อยให้ฝูงควายวิ่งเล่น และกินอาหารตามท้องทุ่งอย่างอิสระ แล้วตอนเย็นพากลับเข้าคอก เป็นกิจวัตรประจำวันของเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์อนุรักษ์วัว-ควายไทย ต.ท่าตุ้ม อ.ป่าซาง จ.ลำพูน ที่นายประสิทธิ์ มณีวรรณ์
วันนี้ (6 ก.ย.66) พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่าจะเดินทางเข้ากระทรวงฯในวันที่ 8 - 11 ก.ย.นี้ ส่วนจะมีนโยบายเร่งด่วนหรือไม่ พล.ต.อ.พัชรวาท กล่า
การปล่อยให้ฝูงควายวิ่งเล่น และกินอาหารตามท้องทุ่งอย่างอิสระ แล้วตอนเย็นพากลับเข้าคอก เป็นกิจวัตรประจำวันของเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์อนุรักษ์วัว-ควายไทย ต.ท่าตุ้ม อ.ป่าซาง จ.ลำพูน ที่นายประสิทธิ์ มณีวรรณ์ ก่อตั้งศูนย์ฯ แห่งนี้ขึ้นมาเมื่อประมาณ 6 ปีก่อน ทั้งนี้เพื่อต้องการอนุรักษ์ควายสายพันธุ์ไทยแท้เอาไว้ให้ลูกหลานได้ชื่นชม ถึงคุณค่าที่คนในอดีตใช้ควายเป็นในการสัญจรเดินทาง รวมถึงเป็นแรงงานไถนาปลูกข้าว และทำการเกษตร นายประสิทธิ์ บอกว่า ปัจจุบันจำนวนควายในประเทศไทยลดลงต่อเนื่อง ส่วนใหญ่เป็นการนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน จึงต้องการอนุรักษ์ควายไทยเอาไว้ ด้วยการหาสายพันธุ์ที่ดีจากต่างจังหวัดเข้ามาผสมพันธุ์ และคัดตัวที่ดีเอาไว้ ไม่ให้ควายไทยต้องสูญพันธุ์ นายสัมพันธ์ มณีวรรณ์ ผู้จัดการศูนย์อนุรักษ์วัว-ควายไทย จ.ลำพูน บอกว่า ควายเป็นสัตว์ที่สามารถรับรู้ถึงควบอลสด นอริชวิเคราะห์บอลยูเครนนอร์ทมาซิโดเนียามรู้สึก คนเลี้ยง ฉลาด และเชื่อฟัง การเลี้ยงที่นี่จะปล่อยให้อยู่อย่างอิสระ ตามทุ่งหญ้าที่เตรียมไว้ เมื่อเลี้ยงไปนานๆ จะมีความรัก และผู้พันธ์เหมือนคนในครอบครัว ปัจจุบันศูนย์อนุรักษ์วัว-ควายไทย จ.ลำพูน เลี้ยงควายอยู่ทั้งหมด 84 ตัว ซึ่งถือเป็นศูนย์ฯ ที่เลี้ยง และอนุรักษ์ควายที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ แต่ละปีสามารถให้ลูกได้ปีละ 20-30 ตัว พอเลี้ยงให้โต ก็จะส่งไปพื้นที่อื่นๆ และนำควายจากต่างจังหวัดเข้ามา เพื่อป้องกันปัญหากรณีเลือดชิด อาจได้สายพันธุ์ที่ไม่ดี โดยไม่มีการส่งเข้าโรงฆ่าสัตว์โดยเด็ดขาด นอกจากนั้น ยังอาสาเลี้ยงควายกลุ่มที่มีการไถ่ชีวิตมาดูแลด้วย ขณะเดียวกันยังมีการเลี้ยงวัว และพัฒนาสายพันธุ์วัวควบคู่ไปด้วย ซึ่งขณะนี้มีวัวที่ดูแลอยู่อีกกว่า 70 ตัว
วันนี้ (13 ม.ค.68 ) นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. แถลงว่า ในวันนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช.ในฐานะองค์คณะในการไต่สวนข้อเท็จจริง ซึ่งมีนายเอกวิทย์ วัชชวัลคุ กรรมการ ป
และแล้ว บรรยากาศ “บ้านจันทร์ส่องหล้า” ในซอยจรัญสนิทวงศ์ 69 ที่เงียบ เหงามานานกว่า 17 ปีก็กลับมามีชีว