วันนี้ (22 พ.ค.2566) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นหนังสือเพื่อขอ

เจ้าหน้าที่คุมเข้ม 3 จ.ชายแดนใต้วันสารทเดือนสิบ ชาวไทยพุทธใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้จำนวนมากออกมาร่วมทำบุญวันสารทเดือนสิบ ท่ามกลางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด เจ้าหน้าที่คุมเข้ม 3 จ.ชายแดนใต้

วันนี้ (22 พ.ค.2566) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นหนังสือเพื่อขอให้ กกต.ตรวจสอบว่า การที่พรรคก้าวไกล ตั้งบุคคล 3 คน ที่เป็นผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกล คือ 1. นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ 2.นายปิยบุตร แสงกนกกุล และ 3.น.ส.พรรณิการ์ วานิช ซึ่งทั้ง 3 คน ปรากฏพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับพรรคก้าวไกล ทั้งมิติการร่วมวางยุทธศาสตร์ ,นโยบาย ดังนั้นการทำกิจกรรมต่างๆ ของพรรคเข้าข่ายผิดกฎหมาย กกต.เกี่ยวกับการครอบงำหรือไม่ หรือเป็นพฤติกรรมเสี่ยงที่ฝ่าฝืนมาตรา 28 และ มาตรา 29 พ.ร.ป.พรรคการเมือง ปี 2560 หรือไม่ นายศรีสุวรรณ ต้องการให้ กกต.ตรวจสอบ ไต่สวนสอบสวนและวินิจฉัยว่าผิดหรือไม่ หาก กกต.วินิจฉัยว่า ผิดตามมาตรา 28 เพราะฉะนั้นมาตรา 29 ก็ต้องวินิจฉัยตามมาด้วย ซึ่งเป็นประเด็นเกี่ยวกับห้ามพรรคการเมืองใด หรือ บุคคลสมาชิกพรรค เข้ามาชี้นำ หรือก้าวก่ายกิจกรรมของพรรคไม่ว่าจะทางตรงหเกมส์ มือ ถือ สล็อตรือทางอ้อม นายศรีสุวรรณ กล่าวด้วยว่า ยังรวมถึงการเลือกตั้ง ส.ส.เมื่อวันที่ 14 พ.ค.2566 ทั้ง 3 คน หลีกเลี่ยงกฎหมายหลังถูกยุบพรรคอนาคตใหม่ และกรรมการบริหารพรรคขณะนั้น ซึ่งรวมทั้ง 3 คนนี้ โดนคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ ต้ดสิทธิห้ามเล่นการเมือง แต่ทั้ง 3 คน ก็มาปรากฏตัวอยู่กับพรรคก้าวไกล ด้วยการสมัครเป็นผู้ช่วยหาเสียงให้พรรคก้าวไกล เดินสายหาเสียงร่วมกันทั่วประเทศ และยังรวมถึงภายหลังการเลือกตั้งผ่านพ้นไปเมื่อวันที่ 14 พ.ค.2566 ทางพรรคก้าวไกล ซึ่งมีเสียงสนับสนุนจากประชาชนเป็นพรรคที่มี ส.ส.มากเป็นลำดับ ที่ 1 ได้นัดหมายพูดคุยกันที่ร้านอาหาร ถ.สุโขทัย เมื่อวันที่ 17 พ.ค.2566 โดยมีภาพที่นายธนาธร, นายปิยบุตร และ น.ส.พรรณิการ์ ปรากฏเข้าไปอยู่ร่วมที่ห้องอาหารดังกล่าวด้วย ซึ่งพฤติกรรมที่ผ่านมาทำให้เห็นว่า ทั้ง 3 คนมีปฏิสัมพันธ์กับพรรคก้าวไกลตลอด อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง เลือกตั้ง2566 : "ทนายอั๋น" ยื่น กกต.ขอตีตกคำร้อง "ศรีสุวรรณ" สอบหุ้น"พิธา"

วันนี้ (1 ก.พ.2564) บรรยากาศวันแรกที่ โรงเรียนไทยนิยมสงเคราะห์ เขตบางเขน สังกัด กทม. ยังคงมาตรการเฝ้าระวัง และป้องกันการแพร่ระบาด COVID-19 เหมือนเช่นการระบาดในรอบแรก ตามมาตรการที่ กทม.กำหนดไว้ แต่จะเพ