วันนี้ (16 พ.ย.2565) เป็นวันที่ 3 ของการเปิดประชุม

วันนี้ (22พ.ย.2565) นายสิทธิ์ วิมาลา หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก จ.เชียงใหม่ ให้สัมภาษณ์ไทยพีบีเอสออนไลน์ว่า เมื่อวานนี้ (21 พ.ย.) เกิดเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ถูกปิดล้อม และชิงปืน HK33 จากกลุ่มชาวเขา
เมื่อวันที่ 6 ก.ค.2564 ผู้ก่อเหตุลอบวางระเบิดทหารชุดปฏิบัติการจรยุทธ์ กองร้อยทหารราบที่ 2531 บริเวณขนำ ตรงข้ามบ่อปลา พื้นที่หมู่ 7 บ้านลางา ต.บ้านนา อ.จะนะ จ.สงขลา ส่งผลให้ทหารเสียชีวิต 1 นาย บาดเจ็บ
ห้องสมุด มธ.เปิดรับบริจาค “หนังสืออนุสรณ์งานศพ” บทเรียนความรู้จากผู้ล่วงลับ มากไปกว่าการแสดงความอาลัยต่อผู้จากไป หนังสืออนุสรณ์งานศพที่บอกเล่าช่วงชีวิตของผู้ล่วงลับ ยังเป็นบันทึกความทรงจำของยุคสมัย คุณค่าทางประวัติศาสตร์ทำให้สำนักหอสมุดมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ริเริ่มโครงการรวบรวมหนังสืองานศพ หวังให้เป็นคลังความรู้ของประเทศ ติดตามจากรายงานท่องโลกอักษร ห้องสมุด มธ.เปิดรับบริจาค “หนังสืออนุสรณ์งานศพ” บทเรียนความรู้จากผู้ล่วงลับ ช่วงเวลาสำคัญในชีวิตของ “สมจิตต์ อมรทัต” ที่ได้รับเกียรติจากผู้ประศาสน์การมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ “ปรีดี พนมยงค์” แนะนำให้ศึกษาต่อที่โรงเรียนเตรียมมหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง ก่อนเข้ารับราชการเป็นครูที่สถาบันแห่งนี้ คือส่วนหนึ่งของความทรงจำตลอด 95 ปี ที่ สินี อมรทัต ผู้เป็นทายาทบันทึกไว้เป็นครั้งสุดท้าย ในหนังสืออนุสรณ์งานศพของมารดา ช่วงชีวิตที่สัมพันธ์กับประวัติศาสตร์การเมืองไทย และยังมีแง่มุมให้คติสอนใจเป็นประโยชน์กับคนรุ่นหลัง นับเป็นความภูมิใจของทายาท จึงนำหนังสืออนุสรณ์เล่มนี้มอบให้กับสำนักหอสมุดมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หลังทราบข่าวการเปิดรับบริจาคหนังสืองานศพจากบุคคลทั่วไป อย่างไรก็ดี การรวบรวมจัดเก็บหนังสืองานศพของสำนักหอสมุดมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หนังสือส่วนหนึ่งยังได้รับมาจากวัดบวรนิเวศวิหาร ที่มีหนังสืองานศพ 24,000 เล่ม ตั้งใจจะจัดเก็บไว้ในรูปแบบไฟล์ดิจิทัล ตอนนี้จึงมีการเริ่มการแสกนหนังสือแต่ละเล่มเก็บไว้แล้ว ปัจจุบันการจัดเก็บหนังสืองานศพในห้องสมุดส่วนใหญ่ รวบรวมไว้ในประเภทหนังสือทั่วไปและหนังสือหายาก หากแนวคิดของสำนักหอสมุดมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ต้องการจัดหมวดหมู่หนังสืองานศพโดยเฉพาะ ซึ่งนอกจากการเปิดรับบริจาคจากบุคคลทั่วไปแล้ว ทางหอสมุดยังสืบค้นหนังสืองานศพเล่มใหม่ ทำให้มีรวบรวมหนังสือต้นฉบับไว้กว่า 5000 เล่มในปัจจุบัน การพิมพ์หนังสืออนุสรณ์แจกในงานศพเกิดขึ้นครั้งแรกในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยเป็นการจัดพิมพ์หนังสือสวดมนต์อักษรไทยแทนอักษรขอมในใบลาน ก่อนจะแพร่หลายในหมู่เจ้านายชั้นสูงสมัยรัชกาลที่ 6 ที่เริ่มมีการบันทึกประวัติผู้วายชนม์ และสมเด็จกรมพระยาดำรงราชนุภาพ ทรงนิพนธ์คำอธิบายประกอบ ทั้งยังมีการเพิ่มเติมเนื้อหาด้านประวัติศาสตร์หรือพงศาวดารไว้ด้วย หนังสืออนุสรณ์งานศพจึงเป็นมากกว่าการแสดงความอาลัย หากยังได้บันทึกกาลเวลาของยุคสมัย ให้คุณค่าต่อผู้มีลมหายใจ ช่วงเวลาสำคัญในชีวิตของ “สมจิตต์ อมรทัต” ที่ได้รับเกียรติจากผู้ประศาสน์การมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ “ปรีดี พนมยงค์” แนะนำให้ศึกษาต่อที่โรงเรียนเตรียมมหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง ก่อนเข้ารับราชการเป็นครูที่สถาบันแห่งนี้ คือส่วนหนึ่งของความทรงจำตลอด 95 ปี ที่ สินี อมรทัต ผู้เป็นทายาทบันทึกไว้เป็นครั้งสุดท้าย ในหนังสืออนุสรณ์งานศพของมารดา ช่วงชีวิตที่สัมพันธ์กับประวัติศาสตร์การเมืองไทย และยังมีแง่มุมให้คติสอนใจเป็นประโยชน์กับคนรุ่นหลัง นับเป็นความภูมิใจของทายาท จึงนำหนังสืออนุสรณ์เล่มนี้มอบให้กับสำนักหอสมุดมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หลังทราบข่าวการเปิดรับบริจาคหนังสืองานศพจากบุคคลทั่วไป อย่างไรก็ดี การรวบรวมจัดเก็บหนังสืองานศพของสำนักหอสมุดมหาวิทยาลัยธรรสมัคร สมาชิก xoมศาสตร์ หนังสือส่วนหนึ่งยังได้รับมาจากวัดบวรนิเวศวิหาร ที่มีหนังสืองานศพ 24,000 เล่ม ตั้งใจจะจัดเก็บไว้ในรูปแบบไฟล์ดิจิทัล ตอนนี้จึงมีการเริ่มการแสกนหนังสือแต่ละเล่มเก็บไว้แล้ว ปัจจุบันการจัดเก็บหนังสืองานศพในห้องสมุดส่วนใหญ่ รวบรวมไว้ในประเภทหนังสือทั่วไปและหนังสือหายาก หากแนวคิดของสำนักหอสมุดมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ต้องการจัดหมวดหมู่หนังสืองานศพโดยเฉพาะ ซึ่งนอกจากการเปิดรับบริจาคจากบุคคลทั่วไปแล้ว ทางหอสมุดยังสืบค้นหนังสืองานศพเล่มใหม่ ทำให้มีรวบรวมหนังสือต้นฉบับไว้กว่า 5000 เล่มในปัจจุบัน การพิมพ์หนังสืออนุสรณ์แจกในงานศพเกิดขึ้นครั้งแรกในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยเป็นการจัดพิมพ์หนังสือสวดมนต์อักษรไทยแทนอักษรขอมในใบลาน ก่อนจะแพร่หลายในหมู่เจ้านายชั้นสูงสมัยรัชกาลที่ 6 ที่เริ่มมีการบันทึกประวัติผู้วายชนม์ และสมเด็จกรมพระยาดำรงราชนุภาพ ทรงนิพนธ์คำอธิบายประกอบ ทั้งยังมีการเพิ่มเติมเนื้อหาด้านประวัติศาสตร์หรือพงศาวดารไว้ด้วย หนังสืออนุสรณ์งานศพจึงเป็นมากกว่าการแสดงความอาลัย หากยังได้บันทึกกาลเวลาของยุคสมัย ให้คุณค่าต่อผู้มีลมหายใจ
"สงกรานต์ 2568" นี้ ใครได้หยุดยาว กลับบ้านเจอพ่อแม่ ญาติผู้ใหญ่ อย่าลืม "รดน้ำ ดำหัว" ธรรมเนียมดีดี
ห้องสมุด มธ.เปิดรับบริจาค “หนังสืออนุสรณ์งานศพ” บทเรียนความรู้จากผู้ล่วงลับ มากไปกว่าการแสดงความอาลั
วันนี้ (30 ส.ค.2567) นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมการเลือกต
ห้องสมุด มธ.เปิดรับบริจาค “หนังสืออนุสรณ์งานศพ” บทเรียนความรู้จากผู้ล่วงลับ มากไปกว่าการแสดงความอาลัยต่อผู้จากไป หนังสืออนุสรณ์งานศพที่บอกเล่าช่วงชีวิตของผู้ล่วงลับ ยังเป็นบันทึกความทรงจำของยุคสมัย คุณค่าทางประวัติศาสตร์ทำให้สำนักหอสมุดมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ริเริ่มโครงการรวบรวมหนังสืองานศพ หวังให้เป็นคลังความรู้ของประเทศ ติดตามจากรายงานท่องโลกอักษร ห้องสมุด มธ.เปิดรับบริจาค “หนังสืออนุสรณ์งานศพ” บทเรียนความรู้จากผู้ล่วงลับ ช่วงเวลาสำคัญในชีวิตของ “สมจิตต์ อมรทัต” ที่ได้รับเกียรติจากผู้ประศาสน์การมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ “ปรีดี พนมยงค์” แนะนำให้ศึกษาต่อที่โรงเรียนเตรียมมหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง ก่อนเข้ารับราชการเป็นครูที่สถาบันแห่งนี้ คือส่วนหนึ่งของความทรงจำตลอด 95 ปี ที่ สินี อมรทัต ผู้เป็นทายาทบันทึกไว้เป็นครั้งสุดท้าย ในหนังสืออนุสรณ์งานศพของมารดา ช่วงชีวิตที่สัมพันธ์กับประวัติศาสตร์การเมืองไทย และยังมีแง่มุมให้คติสอนใจเป็นประโยชน์กับคนรุ่นหลัง นับเป็นความภูมิใจของทายาท จึงนำหนังสืออนุสรณ์เล่มนี้มอบให้กับสำนักหอสมุดมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หลังทราบข่าวการเปิดรับบริจาคหนังสืองานศพจากบุคคลทั่วไป อย่างไรก็ดี การรวบรวมจัดเก็บหนังสืองานศพของสำนักหอสมุดมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หนังสือส่วนหนึ่งยังได้รับมาจากวัดบวรนิเวศวิหาร ที่มีหนังสืองานศพ 24,000 เล่ม ตั้งใจจะจัดเก็บไว้ในรูปแบบไฟล์ดิจิทัล ตอนนี้จึงมีการเริ่มการแสกนหนังสือแต่ละเล่มเก็บไว้แล้ว ปัจจุบันการจัดเก็บหนังสืองานศพในห้องสมุดส่วนใหญ่ รวบรวมไว้ในประเภทหนังสือทั่วไปและหนังสือหายาก หากแนวคิดของสำนักหอสมุดมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ต้องการจัดหมวดหมู่หนังสืองานศพโดยเฉพาะ ซึ่งนอกจากการเปิดรับบริจาคจากบุคคลทั่วไปแล้ว ทางหอสมุดยังสืบค้นหนังสืองานศพเล่มใหม่ ทำให้มีรวบรวมหนังสือต้นฉบับไว้กว่า 5000 เล่มในปัจจุบัน การพิมพ์หนังสืออนุสรณ์แจกในงานศพเกิดขึ้นครั้งแรกในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยเป็นการจัดพิมพ์หนังสือสวดมนต์อักษรไทยแทนอักษรขอมในใบลาน ก่อนจะแพร่หลายในหมู่เจ้านายชั้นสูงสมัยรัชกาลที่ 6 ที่เริ่มมีการบันทึกประวัติผู้วายชนม์ และสมเด็จกรมพระยาดำรงราชนุภาพ ทรงนิพนธ์คำอธิบายประกอบ ทั้งยังมีการเพิ่มเติมเนื้อหาด้านประวัติศาสตร์หรือพงศาวดารไว้ด้วย หนังสืออนุสรณ์งานศพจึงเป็นมากกว่าการแสดงความอาลัย หากยังได้บันทึกกาลเวลาของยุคสมัย ให้คุณค่าต่อผู้มีลมหายใจ ช่วงเวลาสำคัญในชีวิตของ “สมจิตต์ อมรทัต” ที่ได้รับเกียรติจากผู้ประศาสน์การมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ “ปรีดี พนมยงค์” แนะนำให้ศึกษาต่อที่โรงเรียนเตรียมมหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง ก่อนเข้ารับราชการเป็นครูที่สถาบันแห่งนี้ คือส่วนหนึ่งของความทรงจำตลอด 95 ปี ที่ สินี อมรทัต ผู้เป็นทายาทบันทึกไว้เป็นครั้งสุดท้าย ในหนังสืออนุสรณ์งานศพของมารดา ช่วงชีวิตที่สัมพันธ์กับประวัติศาสตร์การเมืองไทย และยังมีแง่มุมให้คติสอนใจเป็นประโยชน์กับคนรุ่นหลัง นับเป็นความภูมิใจของทายาท จึงนำหนังสืออนุสรณ์เล่มนี้มอบให้กับสำนักหอสมุดมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หลังทราบข่าวการเปิดรับบริจาคหนังสืองานศพจากบุคคลทั่วไป อย่างไรก็ดี การรวบรวมจัดเก็บหนังสืองานศพของสำนักหอสมุดมหาวิทยาลัยธรรสมัคร สมาชิก xoมศาสตร์ หนังสือส่วนหนึ่งยังได้รับมาจากวัดบวรนิเวศวิหาร ที่มีหนังสืองานศพ 24,000 เล่ม ตั้งใจจะจัดเก็บไว้ในรูปแบบไฟล์ดิจิทัล ตอนนี้จึงมีการเริ่มการแสกนหนังสือแต่ละเล่มเก็บไว้แล้ว ปัจจุบันการจัดเก็บหนังสืองานศพในห้องสมุดส่วนใหญ่ รวบรวมไว้ในประเภทหนังสือทั่วไปและหนังสือหายาก หากแนวคิดของสำนักหอสมุดมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ต้องการจัดหมวดหมู่หนังสืองานศพโดยเฉพาะ ซึ่งนอกจากการเปิดรับบริจาคจากบุคคลทั่วไปแล้ว ทางหอสมุดยังสืบค้นหนังสืองานศพเล่มใหม่ ทำให้มีรวบรวมหนังสือต้นฉบับไว้กว่า 5000 เล่มในปัจจุบัน การพิมพ์หนังสืออนุสรณ์แจกในงานศพเกิดขึ้นครั้งแรกในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยเป็นการจัดพิมพ์หนังสือสวดมนต์อักษรไทยแทนอักษรขอมในใบลาน ก่อนจะแพร่หลายในหมู่เจ้านายชั้นสูงสมัยรัชกาลที่ 6 ที่เริ่มมีการบันทึกประวัติผู้วายชนม์ และสมเด็จกรมพระยาดำรงราชนุภาพ ทรงนิพนธ์คำอธิบายประกอบ ทั้งยังมีการเพิ่มเติมเนื้อหาด้านประวัติศาสตร์หรือพงศาวดารไว้ด้วย หนังสืออนุสรณ์งานศพจึงเป็นมากกว่าการแสดงความอาลัย หากยังได้บันทึกกาลเวลาของยุคสมัย ให้คุณค่าต่อผู้มีลมหายใจ
วันนี้ (25 ม.ค.2564) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยภายห