UID: 50838

วันนี้ (26 ม.ค.2565) นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)กล่าวว่า

ผลผลิตมีมากกว่าความต้องการ ปกติบางส่วนเเบ่งส่งออก เเต่ปีนี้ไม่ได้ง่ายนัก ทางหน่วยงานรัฐจึงเข้ามาช่วย

วันนี้ (9 ต.ค.2567) นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า ทีมนักวิจัยจากกรมอุทยานฯ ได้ค้นพบพืชชนิดใหม่ของโลกในสกุลหยาด (Microchirita) จำนวน 4 ชนิด ซึ่งพบในพื้นที่จำกัดบนระบบนิเวศเขาหินปูน ใน จ.สระบุรี ระยอง และลพบุรี หนึ่งในพืชชนิดใหม่ที่น่าสนใจ คือ "หยาดวานรพักตร์" พบที่ จ.ลพบุรี มีลักษณะเด่น คือ ดอกมีรูปร่างคล้ายหน้าลิง การค้นพบครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการพรรณพฤกษชาติประเทศไทย (Flora of Thailand) โดยนักวิจัยกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ประกอบด้วย น.ส.นัยนา เทศนา นายพาโชค พูดจา นายธีรวัฒน์ ทะนันไธสง นายคุณานนต์ ดาวนุไร และนายสมราน สุดดี หน่วยงานหอพรรณไม้ สำนักวิจัยการอนุรักษ์ป่าไม้และพันธุ์พืช และนายเกริกวิทย์ ภูมิพยัคฆ์ หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาสมโภชน์ จ.ลพบุรี ได้สำรวจและเก็บตัวอย่างตามวิธีการด้านพฤกษศาสตร์ ร่วมมือกับ Dr. David Middleton ผู้เชี่ยวชาญด้านพืชวงศ์ชาฤๅษี (Gesneriaceae) ในการตรวจสอบและยืนยันชนิด ผลการศึกษาได้รับการตีพิมพ์ในวารสารนานาชาติ Thai Forest Bulletin (Botany) ประจำปี 2024 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการกระจายพันธุ์ของพืชสกุลหยาด โดยพบถึง 41 ชนิด จากทั้งหมด 51-55 ชนิดทั่วโลก อย่างไรก็ตาม พืชชนิดใหม่ที่ค้นพบทั้ง 4 ชนิดนี้อยู่ในภาวะถูกคุกคามและใกล้สูญพันธุ์ เนื่องจากมีถิ่นที่อยู่อาศัยจำกัด ซึ่งเน้นย้ำถึงความสำคัญของการอนุรักษ์ระบบนิเวศเขาหินปูนในประเทศไทย การค้นพบครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายทางชีวภาพที่สำคัญของประเทศไทย และความจำเป็นในการศึกษาวิจัยเพื่อการอนุรักษ์พันธุ์พืชหายากต่อไป พืชชนิดใหม่ของโลกใน สกุลหยาด (Microchirita) จำนวน 4 ชนิด ที่ค้นพบในครั้งนี้ หยาดวานรพักตร์ Microchirita simia D. J. Middleton, Thananth., Tetsana & Suddee พบบริเวณเขาหินปูน อ.เมือง จ.ลพบุรี หยาดวานรพักตร์ Microchirita simia D. J. Middleton, Thananth., Tetsana & Suddee พบบริเวณเขาหินปูน อ.เมือง จ.ลพบุรี 1. หยาดวานรพักตร์ Microchirita simia D. J. Middleton, Thananth., Tetsana & Suddee พบบริเวณเขาหินปูน อ.เมือง จ.ลพบุรี ไม้ล้มลุก สูงได้ถึง 30 ซม. ลำต้นอวบน้ำ สีม่วงแดงเข้มตลอดต้น มีขนสั้นหนาแน่น ใบเดี่ยว เรียงตรงข้าม ยกเว้นใบที่โคนต้น เรียงเวียน มีขนสั้นนุ่มหนาแน่นทั้ง 2 ด้าน หลอดกลีบดอกด้านนอกส่วนบนสีม่วงแดง ส่วนล่างสีเหลืองสด ด้านในแฉกกลีบดอกและหลอดกลีบดอกส่วนบนสีม่วงแดง ส่วนล่างมีแถบสีเหลืองสดและม่วงแดงเข้มสลับกัน โคนหลอดกลีบดอกด้านในมีเส้นสีม่วงจางและเข้มสลับกัน คำระบุชนิด "Simia" เป็นภาษาละติน ที่หมายถึง ลิง มาจากลักษณะของดอกที่ดูคล้ายหน้าลิงเมื่อมองจากด้านหน้า ตัวอย่างต้นแบบ Tetsana,Puudjaa,Kerdkaew,Hemrat & Jirakorn 2785 เก็บรักษาไว้ที่หอพรรณไม้ หยาดอรทัย Micrichirita orathaiae Suddee, D. J. Middleton, Tetsana & Puudjaa พบบริเวณเขาหินปูน อ.เขาชะเมา จ.ระยอง หยาดอรทัย Micrichirita orathaiae Suddee, D. J. Middleton, Tetsana & Puudjaa พบบริเวณเขาหินปูน อ.เขาชะเมา จ.ระยอง 2. หยาดอรทัย Micrichirita orathaiae Suddee, D. J. Middleton, Tetsana & Puudjaa พบบริเวณเขาหินปูน อ.เขาชะเมา จ.ระยอง ไม้ล้มลุก สูงได้ถึง 40 ซม. ลำต้นอวบน้ำ ส่วนบนสีเขียว โคนสีม่วง เกือบเกลี้ยงถึงมีขนยาวห่างประปราย ใบเดี่ยว เรียงตรงข้าม ยกเว้นใบที่โคนต้น เรียงเวียน มีขนประปรายถึงหนาแน่นทั้ง 2 ด้าน ดอกม่วงแดงอมน้ำเงิน หลอดกลีบดอกค่อนข้างแบน ทำให้ปากหลอดกลีบดกมีความกว้างมากกว่าสูง โคนหลอดกลีบดอกด้านในสีเหลืองอ่อน คำระบุชนิด "orathaiae" ตั้งให้เป็นเกียรติแก่นางอรทัย เกิดแก้ว ช่างศิลป์ประจำหอพรรณไม้ ซึ่งวาดภาพทางพฤกษศาสตร์ให้กับโครงการพรรณพฤกษชาติประเทศไทย (Flora of Thailand) มาอย่างยาวนาน ตัวอย่างต้นแบบ Tetsana, Suddee, Puudjaa, Thananthaisong, Hemrat, Phankien & Daonurai 2256 เก็บรักษาไว้ที่หอพรรณไม้ หยาดพระโพธิสัตว์ Microchirita radiata D. J. Middleton, Daonurai, Poompayak & Suddee พบบริเวณเขาหินปูน อ.แก่งคอย จ.สระบุรี หยาดพระโพธิสัตว์ Microchirita radiata D. J. Middleton, Daonurai, Poompayak & Suddee พบบริเวณเขาหินปูน อ.แก่งคอย จ.สระบุรี 3.หยาดพระโพธิสัตว์ Microchirita radiata D. J. Middleton, Daoทำ ลูกเต๋าnurai, Poompayak & Suddee พบบริเวณเขาหินปูน อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ไม้ล้มลุก สูงได้ถึง 50 ซม. ลำต้นอวบน้ำ ส่วนบนสีม่วงแดงถึงสีม่วงแดงอมเขียว หรือสีเขียวตลอด โคนสีม่วงแดงเข้ม มีขนยาวห่างประปราย ใบเดี่ยว เรียงตรงข้าม ยกเว้นใบที่โคนต้น เรียงเวียน แผ่นใบบางมาก มีมีขนสั้นนุ่มถึงขนสั้นหนาแน่นทั้ง 2 ด้าน ดอกสีขาว ด้านในหลอดกลีบดอกสีส้ม ด้านล่างสีเข้มกว่า มีเส้นหนาสีน้ำตาลแผ่เป็นรัศมี คำระบุชนิด "radiata" หมายถึงเส้นสีน้ำตาลที่แผ่เป็นรัศมีภายในหลอดกลีบดอก ตัวอย่างต้นแบบ Thananthaissong, Poompayak, Udomsiripong, Khananthong & Daonurai 1000 เก็บรักษาไว้ที่หอพรรณไม้ หยาดถ้ำกระบอก Microchirita puglisiae D. J. Middleton, Daonurai, Poompayak & Suddee พบบริเวณเขาหินปูน อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี หยาดถ้ำกระบอก Microchirita puglisiae D. J. Middleton, Daonurai, Poompayak & Suddee พบบริเวณเขาหินปูน อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี 4.หยาดถ้ำกระบอก Microchirita puglisiae D. J. Middleton, Daonurai, Poompayak & Suddee พบบริเวณเขาหินปูน อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี ไม้ล้มลุก สูงได้ถึง 30 ซม. ลำต้นอวบน้ำ ส่วนบนสีเขียวอมม่วงแดงถึงเขียว ส่วนโคนสีม่วงแดงถึงม่วงแดงเข้ม มีขนสั้นนุ่มถึงขนสั้นหนาแน่น ใบเดี่ยว เรียงเวียน ด้านบนสีเขียวอมเทาเข้ม มีขนสั้นหนาแน่นทั้ง 2 ด้าน ดอกสีขาว คอหลอดดอกและโคนกลีบปากด้านในสีเหลือง คำระบุชนิด "puglisiae" ตั้งให้เป็นเกียรติแก่ Dr. Carmen Puglisi ผู้เชี่ยวชาญพืชวงศ์ชาฤๅษีหลายสกุล ซึ่งได้ช่วยศึกษาวิจัยสำหรับโครงการพรรณพฤกษชาติประเทศไทย ตัวอย่างต้นแบบ Thananthaisong, Poompayak, Udomsiripong, Khananthong, & Daonurai 1001 เก็บรักษาไว้ที่หอพรรณไม้ อ่านข่าว : โอกาส-รายได้-ความเสี่ยง ? เรื่องจริงที่ต้องรู้ก่อนเข้าทีม "ขายตรง" กู้ภัยแจงดรามา "ปลาบึก" โผล่สถานีรถไฟสารภี ยังไม่รู้ชะตากรรม ยัน 2 ซากช้างชื่อ "พลอยทอง" ช้างตาบอด "พังฟ้าใส" จมน้ำตาย

วันนี้ (9 ต.ค.2567) นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า ที