UID: 47859

องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) เปิดรับสมัครบุคคลเพื่อคัดเลือกให้ดำรงตำแหน

วันนี้ (1 ส.ค.2566) สื่อทางการเมียนมา ระบุว่า พล.อ.อาวุโสมิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา มีคำส

องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) เปิดรับสมัครบุคคลเพื่อคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ ส.ส.ท. โดยจะเริ่มรับสมัครตั้งแต่วันที่ 1 – 30 มี.ค.2568 ตามข้อบังคับกระบวนการสรรหาผู้อำนวยการ ส.ส.ท. ปี 2568 ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานคณะกรรมการสรรหาผู้อำนวยการองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) เปิดเผยว่า ในภูมิทัศน์สื่อแห่งอนาคตที่มีการผลิตสื่อหลากหลายบนออนไลน์ บทบาทของสื่อสาธารณะยิ่งมีความสำคัญมากขึ้น โดยสามารถแก้ไขปัญหาหลายด้านของประเทศ เช่น คุณภาพอากาศ สิ่งแวดล้อม และการศึกษา สื่อสาธารณะจะทำให้สังคมเข้าใจสถานการณ์ต่าง ๆ และสามารถร่วมมือในการแก้ปัญหาสำคัญได้ การสรรหาผู้อำนวยการ ส.ส.ท. คนใหม่จะมีความโปร่งใสและเป็นธรรม โดยคณะกรรมการสรรหาฯ กำหนดให้มีการถ่ายทอดสดการแสดงวิสัยทัศน์และแนวคิดในการเปลี่ยนผ่านไทยพีบีเอสไปสู่ภูมิทัศน์สื่อใหม่ ซึ่งจะทำให้ผู้ชมมีส่วนร่วมได้ติดตามรับฟังวิสัยทัศน์ของผู้สมัคร และตรวจสอบการทำงานของคณะกรรมการสรรหาฯ ด้วย โดยผู้สมัครต้องมีแนวคิดและวิสัยทัศน์ที่ตอบโจทย์ท้าทายของ ส.ส.ท. ใน 6 ประเด็นสำคัญ ได้แก่ 1.การทำงานภายใต้ภูมิทัศน์สื่อแห่งอนาคตทั้งระดับโลกและประเทศไทย รวมถึงการปรับตัวเพื่อรับมือสถานการณ์ในยุคหลังสิ้นสุดอายุใบอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์ และการเปลี่ยนผ่านสู่แพลตฟอร์มดิจิทัล2.แนวทางการปรับโครงสร้างและวัฒนธรรมองค์กร3.แนวทางการหารายได้เพิ่มเติม เพื่อสร้างความยั่งยืนให้องค์การ4.แนวทางการพัฒนาคุณภาพข่าวและรายการเพื่อสร้างความยอมรับและความแตกต่างทั้งการเผยแพร่ทางโทรทัศน์และแพลตฟอร์มออนไลน์5.แนวทางการขยายฐานผู้ชมและผู้ฟังโดยยังคงรักษาความเป็นสื่อสาธารณะอย่างเข้มข้น6.แนวทางการใช้สื่อสาธารณะอย่างคุ้มค่าเต็มศักยภาพในการสร้างความเปลี่ยนแปลงในสังคม คณะกรรมการสรรหาฯ จะพิจารณาผู้สมัครที่เหมาะสมตามคุณสมบัติที่กฎหมายกำหนด และนำเสนอรายชื่อผู้ได้รับการคัดเลือกให้คณะกรรมการนโยบายพิจารณาภายใน 45 วัน โดยกระบวนการสรรหาจะเสร็จสิ้นภายในเดือน มิ.ย.2568 และผู้อำนวยการคนใหม่จะเริ่มปฏิบัติงานในเดือน ก.ค.2568 ทั้งนี้ คณะกรรมการสรรหาฯ แต่งตั้งโดยคณะกรรมการนโยบาย ส.ส.ท. ซึ่งพิจารณาคัดเลือกบุคคลที่มีความสามารถและเชี่ยวชาญในด้านต่าง ๆ ประกอบด้วย 1.ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์2.นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ3.นางทิชา ณ นคร4.ศาสตราจารย์ ดร.บัณฑิต เอื้ออาภรณ์5.ผู้ช่วยศาสตราจารย์ปกป้อง จันวิทย์6.ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พจน์ ใจชาญสุขกิจ7.น.ส.สฤณี อาชวานันทกุล8.น.ส.สารี อ๋องสมหวัง9.นายอภิรัตน์ หวานชะเอม 1. มีสัญชาติไทย2. มีอายุไม่เกินหกสิบห้าปีบริบูรณ์ ในวันที่ได้รับการแต่งตั้ง3. มีความรู้ความเข้าใจและมีความเชี่ยวชาญหรือมีประสบการณ์ในกิจการวิทยุกระจายเสียงกิจการวิทยุโทรทัศน์หรือการสื่อสารเล่น บา คา ร่า ผ่าน เว็บ1234superslotมวลชนหรือเผยแพร่รายการในระบบอื่นหรือเทคโนโลยีทันสมัยอื่น4. ไม่มีลักษณะต้องห้ามอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้    - ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ    - ไม่เป็นบุคคลที่เคยต้องคำพิพากษาให้จำคุกตั้งแต่สองปีขึ้นไป โดยได้พ้นโทษมายังไม่ถึงห้าปีในวันที่ได้รับการเสนอชื่อ เว้นแต่ในความผิดอันได้กระทำโดยประมาท    - ไม่เคยถูกไล่ออก ปลดออก หรือให้ออกจากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือ รัฐวิสาหกิจ เพราะทุจริตต่อหน้าที่หรือประพฤติชั่วอย่างร้ายแรงหรือถือว่ากระทำการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ    - ไม่เคยถูกไล่ออก ปลดออก หรือให้ออกจากงาน เพราะทุจริตต่อหน้าที่หรือถือว่ากระทำการทุจริตและประพฤติมิชอบในการปฏิบัติงาน- ไม่เคยต้องคำพิพากษา หรือคำสั่งของศาลให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินเพราะร่ำรวยผิดปกติ หรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ 5. ไม่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น กรรมการหรือผู้ดำรงตำแหน่งซึ่งรับผิดชอบการบริหารพรรคการเมือง ที่ปรึกษาพรรคการเมืองหรือเจ้าหน้าที่พรรคการเมือง 6. ไม่เป็นกรรมการในรัฐวิสาหกิจหรือหน่วยงานอื่นของรัฐ เจ้าหน้าที่ หรือลูกจ้างขององค์การ หรือที่ปรึกษาหรือผู้เชี่ยวชาญที่มีสัญญาจ้างกับองค์การ 7. ไม่เป็นผู้มีส่วนได้เสียในกิจการที่กระทำกับองค์การ หรือในกิจการที่เป็นการแข่งขันกับกิจการขององค์การ ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม เว้นแต่การเข้าบริหารหรือเข้าร่วมดำเนินกิจการร่วมทุนกับบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นตามที่คณะกรรมการนโยบาย หรือคณะกรรมการบริหารมอบหมาย ในการบริหารกิจการขององค์การ ผู้อำนวยการต้องรับผิดชอบต่อคณะกรรมการนโยบาย 1. เป็นผู้มีความรู้ ประสบการณ์ และผลงานการบริหารเป็นที่ประจักษ์2. มีประสบการณ์ในการบริหารองค์กร ดังนี้    - กรณีหน่วยงานของรัฐ ต้องเคยดำรงตำแหน่งหรือดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่ารองอธิบดี หรือเทียบเท่า หรือรองผู้บริหารระดับสูงสุดขององค์กรหรือเทียบเท่า    - กรณีเป็นผู้บริหารสถาบันวิชาการ ต้องเคยดำรงตำแหน่งหรือดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าคณบดีหรือเทียบเท่าขึ้นไป    - กรณีหน่วยงานเอกชน ต้องเคยดำรงตำแหน่งหรือดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่ารองผู้บริหารสูงสุดขององค์กร โดยมีทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้วไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท3. มีความรู้ความเข้าใจเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2551 เข้าใจภูมิทัศน์สื่อ ความเป็นสื่อสาธารณะ และมีประสบการณ์การบริหารเชิงกลยุทธ์ ผู้อำนวยการอยู่ในตำแหน่งตามระยะเวลาที่กำหนดในสัญญาจ้าง ซึ่งต้องไม่เกินคราวละสี่ปี แต่อาจได้รับแต่งตั้งอีกได้ ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดและดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่เว็บไซต์ www.thaipbs.or.th/NewDirector หรือสอบถามเพิ่มเติมที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-790-2117, 02-790-2119, 02-790-2137 และ 02-790-2147 ทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น. (เว้นวันหยุดราชการ) อ่านข่าว : 17 ปี ไทยพีบีเอส กับการสร้างพลังพลเมือง

วันนี้ (22 ม.ค.2567) ความคืบหน้ากรณีพบศพนาย อาเซ ไค (A SAY KYI) ชาวเมียนมา ถูกฆาตกรรมตัดหัวแยกชิ้นส่