วานนี้ (5 เม.ย.2567) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่

วันนี้ (4 พ.ค.2565) มีรายงานข่าวแจ้งว่า ทางคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ได้มอบอำนาจให้ พ.ต.ท. พชต วงศ์ประณุฑ รองผกก.สอบสวนสภ.รัตนาธิเบศร์ มาดำเนินคดีต่อนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาช
สิงคโปร์ตกอยู่ภายใต้แรงกดดันให้ยกเลิกกฎหมายความมั่นคงภายใน หลังจากมาเลเซียประกาศจะยกเลิกกฎหมายนี้ รวมทั้งจะผ่อนปรนกฎเกณฑ์เกี่ยวกับการประท้วง และการรายงานข่าวของสื่อมวลชน กลุ่มสิทธิมนุษยชน และกลุ่มฝ่าย
สิงคโปร์ตกอยู่ภายใต้แรงกดดันให้ยกเลิกกฎหมายความมั่นคงภายใน หลังจากมาเลเซียประกาศจะยกเลิกกฎหมายนี้ รวมทั้งจะผ่อนปรนกฎเกณฑ์เกี่ยวกับการประท้วง และการรายงานข่าวของสื่อมวลชน กลุ่มสิทธิมนุษยชน และกลุ่มฝ่ายค้านระสล็อต เครดิต ฟรี ยืนยัน ตัว ตน เบอร์xo ฝาก ถอน ไม่มี ขั้น ต่ําบุว่าสิงคโปร์จำเป็นต้องยกเลิกกฎหมายความมั่นคงภายใน หรือ ไอเอสเอ ซึ่งอนุญาตให้มีการควบคุมตัวโดยปราศจากการไต่สวนได้ และนักวิจารณ์มองว่ากฎหมายนี้เป็นเครื่องมือในการกำจัดผู้ที่แข็งข้อต่อรัฐบาล สิงคโปร์ตกอยู่ภายใต้แรงกดดันนี้ หลังจากนายนาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ประเทศเพื่อนบ้านได้ประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าจะยกเลิกกฎหมายไอเอสเอ และจะผ่อนปรนกฎหมายอื่นๆ ที่ถูกมองว่าเป็นการจำกัดสิทธิพลเมือง รวมถึงกฎเกณฑ์ในการประท้วงและการต่อใบอนุญาตของสื่อมวลชน แต่สิงคโปร์ยังคงยืนกรานที่จะคงไอเอสเอไว้ต่อไป เพื่อรักษาความเป็นเอกภาพของสังคม เดิมที กฎหมายนี้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้จัดการกับกองโจรคอมมิวนิสต์ในสมัยที่ทั้งสิงคโปร์ และมาเลเซียตกอยู่ภายใต้อาณานิคมของอังกฤษในช่วงทศวรรษที่ 1960 ต่อมาสิงคโปร์เป็นอิสระจากมาเลเซียในปี 2508 และทั้ง 2 ประเทศยังบังคับใช้กฎหมายนี้ต่อไป รัฐมนตรีมหาดไทยของสิงคโปร์ระบุในแถลงการณ์เมื่อวันศุกร์ว่า ไอเอสเอถูกใช้เพื่อต่อสู้กับภัยคุกคามที่เกี่ยวข้องกับบ่อนทำลายประเทศ ความรุนแรงด้านเชื้อชาติและศาสนา การก่อการร้าย และสายลับ แต่ไม่ได้ใช้เพื่อกำจัดผู้แข็งข้อทางการเมือง และไม่เคยมีใครถูกควบคุมตัวเพราะเหตุผลความเชื่อทางการเมือง โดยผู้ต้องสงสัยว่าเป็นผู้ก่อการร้ายอิสลาม 3 คน ซึ่งถูกส่งตัวกลับมาดำเนินคดีที่สิงคโปร์ ก็กำลังถูกควบคุมตัวด้วยกฎหมายนี้ ขณะที่ผลการสำรวจความคิดเห็น และเว็บไซต์ทางการเมืองอิสระต่างๆเริ่มเรียกร้องให้มีการยกเลิกกฎหมายนี้ โดยเห็นว่าสิงคโปร์จะพัฒนาด้านสิทธิมนุษยชน์อย่างก้าวกระโดด หากเลียนแบบมาเลเซียในการยกเลิกกฎหมายนี้ กลุ่มสิทธิมนุษยชน และกลุ่มฝ่ายค้านระบุว่าสิงคโปร์จำเป็นต้องยกเลิกกฎหมายความมั่นคงภายใน หรือ ไอเอสเอ ซึ่งอนุญาตให้มีการควบคุมตัวโดยปราศจากการไต่สวนได้ และนักวิจารณ์มองว่ากฎหมายนี้เป็นเครื่องมือในการกำจัดผู้ที่แข็งข้อต่อรัฐบาล สิงคโปร์ตกอยู่ภายใต้แรงกดดันนี้ หลังจากนายนาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ประเทศเพื่อนบ้านได้ประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าจะยกเลิกกฎหมายไอเอสเอ และจะผ่อนปรนกฎหมายอื่นๆ ที่ถูกมองว่าเป็นการจำกัดสิทธิพลเมือง รวมถึงกฎเกณฑ์ในการประท้วงและการต่อใบอนุญาตของสื่อมวลชน แต่สิงคโปร์ยังคงยืนกรานที่จะคงไอเอสเอไว้ต่อไป เพื่อรักษาความเป็นเอกภาพของสังคม เดิมที กฎหมายนี้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้จัดการกับกองโจรคอมมิวนิสต์ในสมัยที่ทั้งสิงคโปร์ และมาเลเซียตกอยู่ภายใต้อาณานิคมของอังกฤษในช่วงทศวรรษที่ 1960 ต่อมาสิงคโปร์เป็นอิสระจากมาเลเซียในปี 2508 และทั้ง 2 ประเทศยังบังคับใช้กฎหมายนี้ต่อไป รัฐมนตรีมหาดไทยของสิงคโปร์ระบุในแถลงการณ์เมื่อวันศุกร์ว่า ไอเอสเอถูกใช้เพื่อต่อสู้กับภัยคุกคามที่เกี่ยวข้องกับบ่อนทำลายประเทศ ความรุนแรงด้านเชื้อชาติและศาสนา การก่อการร้าย และสายลับ แต่ไม่ได้ใช้เพื่อกำจัดผู้แข็งข้อทางการเมือง และไม่เคยมีใครถูกควบคุมตัวเพราะเหตุผลความเชื่อทางการเมือง โดยผู้ต้องสงสัยว่าเป็นผู้ก่อการร้ายอิสลาม 3 คน ซึ่งถูกส่งตัวกลับมาดำเนินคดีที่สิงคโปร์ ก็กำลังถูกควบคุมตัวด้วยกฎหมายนี้ ขณะที่ผลการสำรวจความคิดเห็น และเว็บไซต์ทางการเมืองอิสระต่างๆเริ่มเรียกร้องให้มีการยกเลิกกฎหมายนี้ โดยเห็นว่าสิงคโปร์จะพัฒนาด้านสิทธิมนุษยชน์อย่างก้าวกระโดด หากเลียนแบบมาเลเซียในการยกเลิกกฎหมายนี้
วันนี้ (17 ม.ค.2568) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำเอกสารหลักฐานที่
วันนี้ (25 เม.ย.2565) นายวสันต์ บุญหมื่นไวย์ ผู้อำนวยการเขตพระนคร (กทม.) เปิดเผยถึงการรื้อถอนห้างบาง
วันนี้ (22 มี.ค.2565) จากกรณีที่พรรคเพื่อไทยสนับสนุนบทบาทของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร จะมีผลต่อการตัดสิน
สิงคโปร์ตกอยู่ภายใต้แรงกดดันให้ยกเลิกกฎหมายความมั่นคงภายใน หลังจากมาเลเซียประกาศจะยกเลิกกฎหมายนี้ รวมทั้งจะผ่อนปรนกฎเกณฑ์เกี่ยวกับการประท้วง และการรายงานข่าวของสื่อมวลชน กลุ่มสิทธิมนุษยชน และกลุ่มฝ่ายค้านระสล็อต เครดิต ฟรี ยืนยัน ตัว ตน เบอร์xo ฝาก ถอน ไม่มี ขั้น ต่ําบุว่าสิงคโปร์จำเป็นต้องยกเลิกกฎหมายความมั่นคงภายใน หรือ ไอเอสเอ ซึ่งอนุญาตให้มีการควบคุมตัวโดยปราศจากการไต่สวนได้ และนักวิจารณ์มองว่ากฎหมายนี้เป็นเครื่องมือในการกำจัดผู้ที่แข็งข้อต่อรัฐบาล สิงคโปร์ตกอยู่ภายใต้แรงกดดันนี้ หลังจากนายนาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ประเทศเพื่อนบ้านได้ประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าจะยกเลิกกฎหมายไอเอสเอ และจะผ่อนปรนกฎหมายอื่นๆ ที่ถูกมองว่าเป็นการจำกัดสิทธิพลเมือง รวมถึงกฎเกณฑ์ในการประท้วงและการต่อใบอนุญาตของสื่อมวลชน แต่สิงคโปร์ยังคงยืนกรานที่จะคงไอเอสเอไว้ต่อไป เพื่อรักษาความเป็นเอกภาพของสังคม เดิมที กฎหมายนี้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้จัดการกับกองโจรคอมมิวนิสต์ในสมัยที่ทั้งสิงคโปร์ และมาเลเซียตกอยู่ภายใต้อาณานิคมของอังกฤษในช่วงทศวรรษที่ 1960 ต่อมาสิงคโปร์เป็นอิสระจากมาเลเซียในปี 2508 และทั้ง 2 ประเทศยังบังคับใช้กฎหมายนี้ต่อไป รัฐมนตรีมหาดไทยของสิงคโปร์ระบุในแถลงการณ์เมื่อวันศุกร์ว่า ไอเอสเอถูกใช้เพื่อต่อสู้กับภัยคุกคามที่เกี่ยวข้องกับบ่อนทำลายประเทศ ความรุนแรงด้านเชื้อชาติและศาสนา การก่อการร้าย และสายลับ แต่ไม่ได้ใช้เพื่อกำจัดผู้แข็งข้อทางการเมือง และไม่เคยมีใครถูกควบคุมตัวเพราะเหตุผลความเชื่อทางการเมือง โดยผู้ต้องสงสัยว่าเป็นผู้ก่อการร้ายอิสลาม 3 คน ซึ่งถูกส่งตัวกลับมาดำเนินคดีที่สิงคโปร์ ก็กำลังถูกควบคุมตัวด้วยกฎหมายนี้ ขณะที่ผลการสำรวจความคิดเห็น และเว็บไซต์ทางการเมืองอิสระต่างๆเริ่มเรียกร้องให้มีการยกเลิกกฎหมายนี้ โดยเห็นว่าสิงคโปร์จะพัฒนาด้านสิทธิมนุษยชน์อย่างก้าวกระโดด หากเลียนแบบมาเลเซียในการยกเลิกกฎหมายนี้ กลุ่มสิทธิมนุษยชน และกลุ่มฝ่ายค้านระบุว่าสิงคโปร์จำเป็นต้องยกเลิกกฎหมายความมั่นคงภายใน หรือ ไอเอสเอ ซึ่งอนุญาตให้มีการควบคุมตัวโดยปราศจากการไต่สวนได้ และนักวิจารณ์มองว่ากฎหมายนี้เป็นเครื่องมือในการกำจัดผู้ที่แข็งข้อต่อรัฐบาล สิงคโปร์ตกอยู่ภายใต้แรงกดดันนี้ หลังจากนายนาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ประเทศเพื่อนบ้านได้ประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าจะยกเลิกกฎหมายไอเอสเอ และจะผ่อนปรนกฎหมายอื่นๆ ที่ถูกมองว่าเป็นการจำกัดสิทธิพลเมือง รวมถึงกฎเกณฑ์ในการประท้วงและการต่อใบอนุญาตของสื่อมวลชน แต่สิงคโปร์ยังคงยืนกรานที่จะคงไอเอสเอไว้ต่อไป เพื่อรักษาความเป็นเอกภาพของสังคม เดิมที กฎหมายนี้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้จัดการกับกองโจรคอมมิวนิสต์ในสมัยที่ทั้งสิงคโปร์ และมาเลเซียตกอยู่ภายใต้อาณานิคมของอังกฤษในช่วงทศวรรษที่ 1960 ต่อมาสิงคโปร์เป็นอิสระจากมาเลเซียในปี 2508 และทั้ง 2 ประเทศยังบังคับใช้กฎหมายนี้ต่อไป รัฐมนตรีมหาดไทยของสิงคโปร์ระบุในแถลงการณ์เมื่อวันศุกร์ว่า ไอเอสเอถูกใช้เพื่อต่อสู้กับภัยคุกคามที่เกี่ยวข้องกับบ่อนทำลายประเทศ ความรุนแรงด้านเชื้อชาติและศาสนา การก่อการร้าย และสายลับ แต่ไม่ได้ใช้เพื่อกำจัดผู้แข็งข้อทางการเมือง และไม่เคยมีใครถูกควบคุมตัวเพราะเหตุผลความเชื่อทางการเมือง โดยผู้ต้องสงสัยว่าเป็นผู้ก่อการร้ายอิสลาม 3 คน ซึ่งถูกส่งตัวกลับมาดำเนินคดีที่สิงคโปร์ ก็กำลังถูกควบคุมตัวด้วยกฎหมายนี้ ขณะที่ผลการสำรวจความคิดเห็น และเว็บไซต์ทางการเมืองอิสระต่างๆเริ่มเรียกร้องให้มีการยกเลิกกฎหมายนี้ โดยเห็นว่าสิงคโปร์จะพัฒนาด้านสิทธิมนุษยชน์อย่างก้าวกระโดด หากเลียนแบบมาเลเซียในการยกเลิกกฎหมายนี้
วันนี้ (12 ก.พ.2567) นายสมศักดิ์ วัฒนปฤดา ผอ.กองธรณีวิทยาสิ่งแวดล้อมกรมทรัพยากรธรณี กล่าวว่า กรณีเกิ