ปมร้อนช่วงต้นสัปดาห์นี้ มีข่าวทั้งลือสะพัดวงนอก แล

ตั้งแต่ปี 2012 ที่แอปเปิลเปิดตัวระบบไอคลาวด์ ซึ่งอนุญาตให้ผค่า สิ โน ในยุโรปู้ใช้งานสามารถนำข้อมูลส่วนตัว เช่น ภาพถ่าย วิดีโอ หรือรายชื่อผู้ติดต่อขึ้นไปเก็บไว้บนคลาวด์ได้ ก็ได้มีเสียงเรียกร้องมาว่า แอปเปิลสา
ถึงเวลาฮอลลีวูดหั่นงบหนังใหญ่ ความคาดหวังของผู้ชมที่มีต่อหนังฮอลลีวูดฟอร์มยักษ์อาจทำให้ค่ายใหญ่ต่างทุ่มงบสร้างหนังอลังการอยู่หลายปี แต่เมื่อต้องพบกับตัวเลขที่ไม่น่าพอใจอยู่หลายเรื่อง บวกกับยอดขายดีวีด
ตั้งแต่ปี 2012 ที่แอปเปิลเปิดตัวระบบไอคลาวด์ ซึ่งอนุญาตให้ผค่า สิ โน ในยุโรปู้ใช้งานสามารถนำข้อมูลส่วนตัว เช่น ภาพถ่าย วิดีโอ หรือรายชื่อผู้ติดต่อขึ้นไปเก็บไว้บนคลาวด์ได้ ก็ได้มีเสียงเรียกร้องมาว่า แอปเปิลสามารถใช้โอกาสนี้ในการตรวจสอบเนื้อหาที่ผิดกฎหมายโดยเฉพาะเนื้อหากลุ่มการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็ก อย่างไรก็ตาม แอปเปิลนั้นเรียกได้ว่ามีชื่อเสียงด้านการปกป้องข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งาน ซีอีโอ ทิม คุก ยืนยันว่า แอปเปิลไม่อ่านข้อมูลบนคลาวด์ของผู้ใช้งานและไม่ได้มีการนำข้อมูลไปประมวลผลใด ๆ ทั้งสิ้น (โดยปกติ การประมวลผลต่าง ๆ จะถูกทำบนไอโฟนหรือแมคเท่านั้น) ซึ่งข้อมูลทุกอย่างจะต้องผ่านขั้นตอนการเข้ารหัสข้อมูลไว้อย่างปลอดภัย การพัฒนาระบบสำหรับตรวจจับการล่วงละเมิดทางเพศเด็ก จึงนับว่าเป็นการขัดกับนโยบายด้านความเป็นส่วนตัวดังกล่าว เพราะจำเป็นจะต้องประมวลผลข้อมูลบนคลาวด์ หรือมีการถอดรหัสข้อมูลบางส่วนออกมา แม้ขั้นตอนทุกอย่างจะทำโดยคอมพิวเตอร์ที่ไม่ผ่านสายตาของมนุษย์ แต่นี่ก็อาจเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผู้ใช้งานไม่เชื่อมั่นต่อการรักษาข้อมูลของผู้ใช้ สำนักข่าว Wired ได้รายงานกรณีดังกล่าวว่า ระบบตรวจเนื้อหาการล่วงละเมิดทางเพศเด็ก (Child Sexual Abuse Material หรือ CSAM) ได้ถูกพัฒนามาตั้งแต่ปี 2012 และมีการแถลงข่าวอีกครั้งในปี 2021 ว่าแอปเปิลจะไม่นำระบบดังกล่าวมาใช้ สิ่งนี้ทำให้กลุ่ม Heat Initiative ออกมากล่าวว่า การกระทำของแอปเปิลนั้น “น่าผิดหวัง” อย่างไรก็ตาม ตัวแทนจากแอปเปิลได้ให้สัมภาษณ์กับ Wired ว่า แอปเปิลเองไม่สนับสนุน และมีความต้องการที่จะตัดห่วงโซ่ของพฤติกรรมดังกล่าว แต่หลังจากที่ได้มีการศึกษาถึงผลกระทบร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิบนโลกดิจิทัล ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัย และนักสิทธิเด็กแล้ว แอปเปิลได้มาซึ่งข้อสรุปว่าการพัฒนาระบบดังกล่าวจะไม่สามารถรักษาไว้ซึ่งสิทธิความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานได้ เหตุการณ์ที่คล้ายกันนี้อาจทำให้เรานึกถึงกรณีการที่แอปเปิลไม่ยอมปลดล็อกโทรศัพท์ไอโฟนของผู้ต้องสงสัยคดีกราดยิงในสถานบันเทิง ที่แคลิฟอร์เนียในปี 2015 ให้กับสำนักงานสืบสวนของสหรัฐอเมริกา (FBI) จนเกิดเป็นกระแสสังคมใหญ่โต ท่าทีของแอปเปิลนี้ยังคงถูกจับตามองต่อไป ซึ่งก็อาจเป็นทั้งจุดแข็งและจุดอ่อนของแอปเปิลในเวลาเดียวกัน ที่มาข้อมูล: wired --------------------------“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech
วันนี้ (26 ต.ค.2566) นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า คณะกรรมการนโยบายและบริห
วันนี้ (7 ก.ค.2566) คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดรับฟังความคิดเห็น ค่าไฟฟ้าผันแปร งวดสุดท
สถานการณ์ในเยเมนเลวร้ายลง หลัง ปธน. เหตุการณ์ในเยเมน ชี้ชัดว่า ประธานาธิบดีเดินทางกลับประเทศเพื่อมาก
ตั้งแต่ปี 2012 ที่แอปเปิลเปิดตัวระบบไอคลาวด์ ซึ่งอนุญาตให้ผค่า สิ โน ในยุโรปู้ใช้งานสามารถนำข้อมูลส่วนตัว เช่น ภาพถ่าย วิดีโอ หรือรายชื่อผู้ติดต่อขึ้นไปเก็บไว้บนคลาวด์ได้ ก็ได้มีเสียงเรียกร้องมาว่า แอปเปิลสามารถใช้โอกาสนี้ในการตรวจสอบเนื้อหาที่ผิดกฎหมายโดยเฉพาะเนื้อหากลุ่มการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็ก อย่างไรก็ตาม แอปเปิลนั้นเรียกได้ว่ามีชื่อเสียงด้านการปกป้องข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งาน ซีอีโอ ทิม คุก ยืนยันว่า แอปเปิลไม่อ่านข้อมูลบนคลาวด์ของผู้ใช้งานและไม่ได้มีการนำข้อมูลไปประมวลผลใด ๆ ทั้งสิ้น (โดยปกติ การประมวลผลต่าง ๆ จะถูกทำบนไอโฟนหรือแมคเท่านั้น) ซึ่งข้อมูลทุกอย่างจะต้องผ่านขั้นตอนการเข้ารหัสข้อมูลไว้อย่างปลอดภัย การพัฒนาระบบสำหรับตรวจจับการล่วงละเมิดทางเพศเด็ก จึงนับว่าเป็นการขัดกับนโยบายด้านความเป็นส่วนตัวดังกล่าว เพราะจำเป็นจะต้องประมวลผลข้อมูลบนคลาวด์ หรือมีการถอดรหัสข้อมูลบางส่วนออกมา แม้ขั้นตอนทุกอย่างจะทำโดยคอมพิวเตอร์ที่ไม่ผ่านสายตาของมนุษย์ แต่นี่ก็อาจเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผู้ใช้งานไม่เชื่อมั่นต่อการรักษาข้อมูลของผู้ใช้ สำนักข่าว Wired ได้รายงานกรณีดังกล่าวว่า ระบบตรวจเนื้อหาการล่วงละเมิดทางเพศเด็ก (Child Sexual Abuse Material หรือ CSAM) ได้ถูกพัฒนามาตั้งแต่ปี 2012 และมีการแถลงข่าวอีกครั้งในปี 2021 ว่าแอปเปิลจะไม่นำระบบดังกล่าวมาใช้ สิ่งนี้ทำให้กลุ่ม Heat Initiative ออกมากล่าวว่า การกระทำของแอปเปิลนั้น “น่าผิดหวัง” อย่างไรก็ตาม ตัวแทนจากแอปเปิลได้ให้สัมภาษณ์กับ Wired ว่า แอปเปิลเองไม่สนับสนุน และมีความต้องการที่จะตัดห่วงโซ่ของพฤติกรรมดังกล่าว แต่หลังจากที่ได้มีการศึกษาถึงผลกระทบร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิบนโลกดิจิทัล ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัย และนักสิทธิเด็กแล้ว แอปเปิลได้มาซึ่งข้อสรุปว่าการพัฒนาระบบดังกล่าวจะไม่สามารถรักษาไว้ซึ่งสิทธิความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานได้ เหตุการณ์ที่คล้ายกันนี้อาจทำให้เรานึกถึงกรณีการที่แอปเปิลไม่ยอมปลดล็อกโทรศัพท์ไอโฟนของผู้ต้องสงสัยคดีกราดยิงในสถานบันเทิง ที่แคลิฟอร์เนียในปี 2015 ให้กับสำนักงานสืบสวนของสหรัฐอเมริกา (FBI) จนเกิดเป็นกระแสสังคมใหญ่โต ท่าทีของแอปเปิลนี้ยังคงถูกจับตามองต่อไป ซึ่งก็อาจเป็นทั้งจุดแข็งและจุดอ่อนของแอปเปิลในเวลาเดียวกัน ที่มาข้อมูล: wired --------------------------“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech
18 ชีวิต บาดเจ็บ 31 คน เป็นตัวเลขความสูญเสียจากอุบัติเหตุรถบัส ของคณะรถทัวร์ดูงานจากเทศบาลพรเจริญ จ.