ภารกิจท้าทายงานแรกสำหรับผู้ว่าฯ กทม.จากเลือกตั้ง 2

วันนี้ (12 ก.ย.2567) พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ สั่งการให้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพอากาศ ส่งกำลังพลชุดปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัย (ส่วนหน้า) จากที่ตั้งดอนเมือง เข้าเสริมทัพเพิ่
วันนี้ (18 ม.ค.2566) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยภายหลังการประชุมกรณีขอรับการสนับสนุนงบประมาณค่าใช้จ่ายในการบรรเทา แก้ไขปัญหา และเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบโรคโควิด-19 (ส่วนค้
วันนี้ (12 ก.ค.2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ที่มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข เป็นประธาน พร้อมด้วย นพ.เกียรติภูมิ วงศ์ขรจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการแพทย์และสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ประชุมมีมติมติเห็นชอบ 4 ประเด็น คือ 1.การฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิคุ้มกัน (Booster dose) สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า 2.การให้ฉีดวัคซีนสลับ 2 ชนิด 3.แนวทางการใช้ Antigen Test Kit ในการตรวจหาเชื้อ และ 4.แนวทางการแยกกักที่บ้าน (Home isolation) และการแยกกักในชุมชน (Community isolation) สำหรับผู้ป่วย COVID-19 สำหรับประเด็นการฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิคุ้มกัน (Booster dose) สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้านั้น จะฉีดห่างจากเข็ม 2 นาน 3-4 สัปดาห์ เพื่อกระตุ้นให้เกิดภูมิคุ้มกันสูงและเร็วที่สุด เนื่องจากส่วนใหญ่ได้รับวัคซีนซิโนแวคครบแล้วนานกว่า 3 เดือน จึงควรได้รับการกระตุ้นในเดือน ก.ค.ได้ทันที ซึ่งอาจเป็นวัคซีนแอสตราเซนเนกา หรือไฟเซอร์ นอกจากนี้ที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ยังเห็นชอบการฉีดวัคซีน COVID-19 สลับชนิด โดยเข็ม 1 เป็นวัคซีนซิโนแวค และเข็ม 2 เป็นแอสตราเซเนกา นพ.โอภาส กาส ล๊ อ ต ไม่มี ขั้น ต่ำรย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า มีข้อมูลอ้างอิงอย่างน้อย 3 แหล่ง คือ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ซึ่งมีข้อมูลตรงกันว่า การฉีดวัคซีนสลับชนิดกัน จะมีประโยชน์ในการเพิ่มภูมิคุ้มกันให้สูงขึ้น และเชื่อว่าจะสามารถป้องกันเชื้อกลายพันธุ์ได้ ทั้งนี้มีการศึกษาว่า หากฉีดวัคซีนเข็ม 1 เป็นซิโนแวค หลังจากนั้น 3-4 สัปดาห์ ฉีดวัคซีนเข็ม 2 เป็นแอสตราเซเนกา เนื่องจากภูมิคุ้มกันจะอยู่ในระดับสูงได้เร็ว ใกล้เคียงกับผู้ที่ได้รับวัคซีนแอสตราเซเนกา 2 เข็ม แต่หากฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกา เป็นเข็มแรก ก็ยังมีข้อแนะนำให้ใช้วัคซีนแอสตราเซเนกาเป็นเข็มที่ 2 โดยไม่ต้องสลับชนิดกัน ขณะที่ รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงสถานการณ์ COVID-19 ในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล ว่า พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เป็นการระบาดที่เกิดจากไวรัสกลายพันธุ์สายพันธุ์เดลตา และมีแนวโน้มแพร่ระบาดมากขึ้น จึงได้ปรับแผนการฉีดวัคซีน ระดมฉีดให้กับกลุ่มผู้สูงอายุ และผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรคทั่วประเทศ โดยตั้งเป้าฉีดวัคซีนผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปในพื้นที่ระบาดรุนแรง เช่น กทม.และปริมณฑล ให้ได้ 1 ล้านคน ภายใน 1-2 สัปดาห์ เพื่อให้มีภูมิคุ้มกันมากกว่า 80 % เนื่องจากกลุ่มดังกล่าวหากติดเชื้อมีความเสี่ยงเสียชีวิตสูง ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.-11 ก.ค.2564 ฉีดวัคซีนไปแล้ว 12,569,213 โดส แบ่งเป็นเข็ม 1 จำนวน 9,301,407 คน และเข็ม 2 จำนวน 3,267,806 คน ข่าวที่เกี่ยวข้อง ข่าวดี! ซื้อได้แล้วเร็วๆ นี้ "ชุดตรวจโควิด"ตรวจเองที่บ้าน อย.รับรอง 24 บริษัท นำเข้า "Rapid Antigen Test" ชุดตรวจเร่งด่วน กทม.จัด 200 ชุดเคลื่อนที่เร็วสกัดโควิด-ศบค.พบ 7 คลัสเตอร์ใหม่
ผ่านมาเกือบ 2 สัปดาห์แล้ว นับตั้งแต่กองขยะอุตสาหกรรมที่ ต.ดีลัง อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี ถูกเปิดเผยต่อสา
"กล่องดวงใจ" เป็นเรื่องใหญ่ของผู้ชายทั่วโลก ในอดีตกาลไม่เคยมีการศึกษาว่า ในยามใช้ชีวิตปกติ หรือออกรบ
10 สิงหาคม 2565 วันนัดประชุมรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขกฎหมายลูก ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ซึ่งจะเป็
วันนี้ (12 ก.ค.2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ที่มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข เป็นประธาน พร้อมด้วย นพ.เกียรติภูมิ วงศ์ขรจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการแพทย์และสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ประชุมมีมติมติเห็นชอบ 4 ประเด็น คือ 1.การฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิคุ้มกัน (Booster dose) สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า 2.การให้ฉีดวัคซีนสลับ 2 ชนิด 3.แนวทางการใช้ Antigen Test Kit ในการตรวจหาเชื้อ และ 4.แนวทางการแยกกักที่บ้าน (Home isolation) และการแยกกักในชุมชน (Community isolation) สำหรับผู้ป่วย COVID-19 สำหรับประเด็นการฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิคุ้มกัน (Booster dose) สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้านั้น จะฉีดห่างจากเข็ม 2 นาน 3-4 สัปดาห์ เพื่อกระตุ้นให้เกิดภูมิคุ้มกันสูงและเร็วที่สุด เนื่องจากส่วนใหญ่ได้รับวัคซีนซิโนแวคครบแล้วนานกว่า 3 เดือน จึงควรได้รับการกระตุ้นในเดือน ก.ค.ได้ทันที ซึ่งอาจเป็นวัคซีนแอสตราเซนเนกา หรือไฟเซอร์ นอกจากนี้ที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ยังเห็นชอบการฉีดวัคซีน COVID-19 สลับชนิด โดยเข็ม 1 เป็นวัคซีนซิโนแวค และเข็ม 2 เป็นแอสตราเซเนกา นพ.โอภาส กาส ล๊ อ ต ไม่มี ขั้น ต่ำรย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า มีข้อมูลอ้างอิงอย่างน้อย 3 แหล่ง คือ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ซึ่งมีข้อมูลตรงกันว่า การฉีดวัคซีนสลับชนิดกัน จะมีประโยชน์ในการเพิ่มภูมิคุ้มกันให้สูงขึ้น และเชื่อว่าจะสามารถป้องกันเชื้อกลายพันธุ์ได้ ทั้งนี้มีการศึกษาว่า หากฉีดวัคซีนเข็ม 1 เป็นซิโนแวค หลังจากนั้น 3-4 สัปดาห์ ฉีดวัคซีนเข็ม 2 เป็นแอสตราเซเนกา เนื่องจากภูมิคุ้มกันจะอยู่ในระดับสูงได้เร็ว ใกล้เคียงกับผู้ที่ได้รับวัคซีนแอสตราเซเนกา 2 เข็ม แต่หากฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกา เป็นเข็มแรก ก็ยังมีข้อแนะนำให้ใช้วัคซีนแอสตราเซเนกาเป็นเข็มที่ 2 โดยไม่ต้องสลับชนิดกัน ขณะที่ รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงสถานการณ์ COVID-19 ในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล ว่า พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เป็นการระบาดที่เกิดจากไวรัสกลายพันธุ์สายพันธุ์เดลตา และมีแนวโน้มแพร่ระบาดมากขึ้น จึงได้ปรับแผนการฉีดวัคซีน ระดมฉีดให้กับกลุ่มผู้สูงอายุ และผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรคทั่วประเทศ โดยตั้งเป้าฉีดวัคซีนผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปในพื้นที่ระบาดรุนแรง เช่น กทม.และปริมณฑล ให้ได้ 1 ล้านคน ภายใน 1-2 สัปดาห์ เพื่อให้มีภูมิคุ้มกันมากกว่า 80 % เนื่องจากกลุ่มดังกล่าวหากติดเชื้อมีความเสี่ยงเสียชีวิตสูง ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.-11 ก.ค.2564 ฉีดวัคซีนไปแล้ว 12,569,213 โดส แบ่งเป็นเข็ม 1 จำนวน 9,301,407 คน และเข็ม 2 จำนวน 3,267,806 คน ข่าวที่เกี่ยวข้อง ข่าวดี! ซื้อได้แล้วเร็วๆ นี้ "ชุดตรวจโควิด"ตรวจเองที่บ้าน อย.รับรอง 24 บริษัท นำเข้า "Rapid Antigen Test" ชุดตรวจเร่งด่วน กทม.จัด 200 ชุดเคลื่อนที่เร็วสกัดโควิด-ศบค.พบ 7 คลัสเตอร์ใหม่
วันนี้ (12 ก.ค.2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ที่มีนายอนุทิน ชาญวีร