วันนี้ (9 เม.ย.2565) ตำรวจสอบสวนกลาง โดยกองปราบปรา

วันนี้ (13 มี.ค.2564) มีภาพคลิปวิดีโอจากโทรศัพท์มือถือ แสดงให้เห็นภาพการปะทะระหว่างกลุ่มผู้ประท้วงกับเจ้าหน้าที่ความมั่นคงเมียนมา ในนครย่างกุ้ง หลังเจ้าหน้าที่พยายามเข้าจับกุมตัวสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรขอ
วันนี้ (26 ต.ค.2566) สำนักข่าว CNN รายงานว่า เกิดเหตุกราดยิงในเมืองลูอิสตัน รัฐเมน สหรัฐอเมริกา เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 22 คน ล่าสุดตำรวจยังเร่งติดตามผู้ก่อเหตุและแจ้งเตือนประชาชนในพื้น
Acoustic Kitty เป็นหนึ่งในโครงการลับของหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ หรือ ซีไอเอ (Central Intelligence Agency: CIA) ที่เกิดขึ้นในช่วงทศวรรษ 1960 เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีในการสอดแนมสหภาพโซเวียตในยุคสงครามเย็น โครงการนี้ฟังดูเหมือนเรื่องล้อเล่น แต่ความจริงแล้วเป็นความพยายามของ CIA ในการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อการสอดแนมในรูปแบบที่แปลกใหม่และไม่เคยมีมาก่อน โครงการนี้มีแนวคิดหลักใช้ "แมว" เป็นสายลับเข้าไปดักฟังข้อมูลลับ CIA เชื่อว่าแมวสามารถเดินไปมาได้โดยไม่เป็นที่สังเกต ทำให้เหมาะสมในการนำไปใช้สอดแนมในพื้นที่ของศัตรู โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเข้าใกล้สถานที่สำคัญ เช่น สถาฝาก 20 รับ 100 joker วอ เลทนทูตหรือที่ประชุมลับ แต่โครงการนี้ไม่ได้จับแมวมาฝึกสอนทักษะการเป็นสายลับ หรือเปลี่ยนพฤติกรรมแมวให้เคร่งขรึม ตีเนียนได้มากพอเข้ากับความเป็นสปายแมว นักวิทยาศาสตร์กลับทำการฝังไมโครโฟนขนาดเล็กไว้ในหูของแมว พร้อมกับเครื่องส่งสัญญาณไมโครโฟน ให้เชื่อมต่อกับเส้นประสาทที่หู ที่ฝังไว้ในช่องท้องแมว และใช้หางเป็นสายอากาศเพื่อส่งสัญญาณเสียงไปยังเจ้าหน้าที่ CIA ที่คอยดักฟัง มนุษย์เลือกจะเปลี่ยนร่างกายให้เป็น "แมวจักรกล" เหตุผลที่ CIA เลือกใช้แมว เพราะความเป็นแมวของแมวเอง การเดินไปในพื้นที่เป้าหมายโดยไม่เป็นที่สงสัย มนุษย์ก็ไม่ได้มองว่าเจ้าเหมียวเป็นภัยคุกคามหรือสิ่งผิดปกติอะไร เมื่อเทียบกับมนุษย์หรือเทคโนโลยีสอดแนมในรูปแบบอื่น ๆ "แมว" ก็เลยกลายเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในเวลานั้น ที่จะใช้สำหรับการสอดแนมสถานที่ต่าง ๆ โดยเฉพาะในสภาวะแวดล้อมที่เข้าถึงได้ยากหรือมีความปลอดภัยสูง แต่กลับกลายเป็นว่าโครงการนี้มีความซับซ้อนและมีความท้าทายมากกว่าที่คิด มีการลงทุนใน "แอนิมอล โปรเจค" นี้ไปมากกว่า 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่โครงการนี้กลับประสบความล้มเหลว แมวหลายตัวถูกผ่าตัดเพื่อฝังอุปกรณ์สอดแนม แต่ด้วยสภาพร่างกายของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม อุปกรณ์ที่ฝังใช้การไม่ได้ เพราะอยู่ในที่อับ ชื้น อุณหภูมิสูง ส่วนร่างกายของแมวเอง ก็ไม่ตอบสนองกับอุปกรณ์ที่ถูกฝัง บางตัวตาย บางตัวพิการ ส่วนตัวที่รอด ฟื้นตัวได้ ก็ถูกส่งไปปฏิบัติภารกิจ แต่ก็ตายในหน้าที่ เช่น โดนรถทับ นอกจากนี้ ทีมงานผู้วิจัยยังพบว่าการฝึกแมวให้ทำงานตามที่ต้องการ "เป็นสิ่งที่ยากมาก" เพราะแมวก็คือแมว สัญชาตญาณแมวที่ไม่มีใครสามารถควบคุมได้ แม้จะฝึกฝนแล้วก็ตาม แต่เมื่อปล่อยปฏิบัติงาน "มักหลงทาง" ไปยังจุดที่ไม่เกี่ยวข้องกับเป้าหมาย บ้างก็ละเลยคำสั่งที่ได้รับ สุดท้ายก็สอดแนมอะไรไม่ได้เลย ในที่สุด โครงการ Acoustic Kitty ก็ถูกสั่งยกเลิก ถือว่าเป็นความล้มเหลวทางเทคนิคและการสูญเงินไปกับ "แมว" ที่ไม่เคยเป็นทาสมนุษย์เลยมาแต่ไหนแต่ไร แม้ว่าโครงการ Acoustic Kitty จะจบลงด้วยความล้มเหลว แต่โครงการนี้ได้ทิ้งมรดกทางวิชาการและเทคโนโลยีไว้มากมายในวงการข่าวกรองและวิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะในเรื่องของการพัฒนาเทคโนโลยีสอดแนมในรูปแบบที่ล้ำสมัยและการใช้สิ่งมีชีวิตเป็นเครื่องมือในการปฏิบัติภารกิจ บทเรียนจากโครงการนี้สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามของมนุษย์กับการทดลองสัตว์ ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นกับสัตว์ และแน่นอนว่าถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในแง่ของจริยธรรม สวัสดิภาพของสัตว์ แม้ว่าผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง แต่การทดลองและการคิดนอกกรอบของมนุษย์เช่นนี้ ยังคงเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนานวัตกรรม และเป็นเรื่องสร้างแรงบันดาลใจในการค้นหาวิธีการที่ดีอื่น ๆ ในการเผชิญกับความท้าทายใหม่ ๆ ในอนาคตได้ จากยุคสงครามเย็น เทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในปฏิบัติลับต่าง ๆ ทำให้การรวบรวมข่าวกรองมีความซับซ้อนมากขึ้น ดังนั้นการสอดแนมด้วยสปายก็ต้องพัฒนาตามไปด้วย เช่น ย้อนกลับไปที่ ฮวาลดิเมียร์ อีกหน่อย แม้กระทั่งตอนนี้ เบลูกาวัย 15 ปีตัวนี้จะลากลับดาววาฬเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ "รัสเซีย" เองก็ไม่เคยออกมายอมรับหรือมีการตอบโต้ใด ๆ ทั้งสิ้น ว่าเบลูกาขาวตัวนี้เป็นหนึ่งในกำลังพลของกองทัพหมีขาวหรือไม่ คงทิ้งไว้ซึ่งปริศนาที่ยังไม่มีใครไขคำตอบได้ว่า เหตุใด ฮวาลดิเมียร์จึงว่ายน้ำมาถึงนอร์เวย์และอาศัยอยู่ที่นั่นมาตลอด 5 ปี รวมถึง คำถามที่ไม่เคยตอบของรัสเซีย ที่อาจหมายถึงการปฏิเสธว่านี่ไม่ใช่วาฬของฉัน หรืออาจหมายถึงความลับเรื่องการฝึกสัตว์เป็นสปายอาจถูกเปิดเผย ก็เป็นไปได้หมดทั้งสิ้น อ่านข่าวอื่น : กลับดาวเบลูกา "Hvaldimir" วาฬสอดแนมรัสเซียชื่อดังตายแล้ว เปิดหน้า "ซาบีดา ไทยเศรษฐ์" นอมินีเจ้าพ่อลุ่มน้ำสะแกกรัง อ้างรอหมอนาน! พกมีดอาละวาด รพ. เดินกลางตลาด
วันนี้ (3 ม.ค.2567) น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.ก้าวไกล อภิปรายร่างงบประมาณรายจ่ายปี 2567 ตั้งคำถามว่า
Acoustic Kitty เป็นหนึ่งในโครงการลับของหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ หรือ ซีไอเอ (Central Intelligence Agency:
วันนี้ (27 เม.ย.2567) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง พร้อมด้วย น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล
Acoustic Kitty เป็นหนึ่งในโครงการลับของหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ หรือ ซีไอเอ (Central Intelligence Agency: CIA) ที่เกิดขึ้นในช่วงทศวรรษ 1960 เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีในการสอดแนมสหภาพโซเวียตในยุคสงครามเย็น โครงการนี้ฟังดูเหมือนเรื่องล้อเล่น แต่ความจริงแล้วเป็นความพยายามของ CIA ในการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อการสอดแนมในรูปแบบที่แปลกใหม่และไม่เคยมีมาก่อน โครงการนี้มีแนวคิดหลักใช้ "แมว" เป็นสายลับเข้าไปดักฟังข้อมูลลับ CIA เชื่อว่าแมวสามารถเดินไปมาได้โดยไม่เป็นที่สังเกต ทำให้เหมาะสมในการนำไปใช้สอดแนมในพื้นที่ของศัตรู โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเข้าใกล้สถานที่สำคัญ เช่น สถาฝาก 20 รับ 100 joker วอ เลทนทูตหรือที่ประชุมลับ แต่โครงการนี้ไม่ได้จับแมวมาฝึกสอนทักษะการเป็นสายลับ หรือเปลี่ยนพฤติกรรมแมวให้เคร่งขรึม ตีเนียนได้มากพอเข้ากับความเป็นสปายแมว นักวิทยาศาสตร์กลับทำการฝังไมโครโฟนขนาดเล็กไว้ในหูของแมว พร้อมกับเครื่องส่งสัญญาณไมโครโฟน ให้เชื่อมต่อกับเส้นประสาทที่หู ที่ฝังไว้ในช่องท้องแมว และใช้หางเป็นสายอากาศเพื่อส่งสัญญาณเสียงไปยังเจ้าหน้าที่ CIA ที่คอยดักฟัง มนุษย์เลือกจะเปลี่ยนร่างกายให้เป็น "แมวจักรกล" เหตุผลที่ CIA เลือกใช้แมว เพราะความเป็นแมวของแมวเอง การเดินไปในพื้นที่เป้าหมายโดยไม่เป็นที่สงสัย มนุษย์ก็ไม่ได้มองว่าเจ้าเหมียวเป็นภัยคุกคามหรือสิ่งผิดปกติอะไร เมื่อเทียบกับมนุษย์หรือเทคโนโลยีสอดแนมในรูปแบบอื่น ๆ "แมว" ก็เลยกลายเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในเวลานั้น ที่จะใช้สำหรับการสอดแนมสถานที่ต่าง ๆ โดยเฉพาะในสภาวะแวดล้อมที่เข้าถึงได้ยากหรือมีความปลอดภัยสูง แต่กลับกลายเป็นว่าโครงการนี้มีความซับซ้อนและมีความท้าทายมากกว่าที่คิด มีการลงทุนใน "แอนิมอล โปรเจค" นี้ไปมากกว่า 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่โครงการนี้กลับประสบความล้มเหลว แมวหลายตัวถูกผ่าตัดเพื่อฝังอุปกรณ์สอดแนม แต่ด้วยสภาพร่างกายของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม อุปกรณ์ที่ฝังใช้การไม่ได้ เพราะอยู่ในที่อับ ชื้น อุณหภูมิสูง ส่วนร่างกายของแมวเอง ก็ไม่ตอบสนองกับอุปกรณ์ที่ถูกฝัง บางตัวตาย บางตัวพิการ ส่วนตัวที่รอด ฟื้นตัวได้ ก็ถูกส่งไปปฏิบัติภารกิจ แต่ก็ตายในหน้าที่ เช่น โดนรถทับ นอกจากนี้ ทีมงานผู้วิจัยยังพบว่าการฝึกแมวให้ทำงานตามที่ต้องการ "เป็นสิ่งที่ยากมาก" เพราะแมวก็คือแมว สัญชาตญาณแมวที่ไม่มีใครสามารถควบคุมได้ แม้จะฝึกฝนแล้วก็ตาม แต่เมื่อปล่อยปฏิบัติงาน "มักหลงทาง" ไปยังจุดที่ไม่เกี่ยวข้องกับเป้าหมาย บ้างก็ละเลยคำสั่งที่ได้รับ สุดท้ายก็สอดแนมอะไรไม่ได้เลย ในที่สุด โครงการ Acoustic Kitty ก็ถูกสั่งยกเลิก ถือว่าเป็นความล้มเหลวทางเทคนิคและการสูญเงินไปกับ "แมว" ที่ไม่เคยเป็นทาสมนุษย์เลยมาแต่ไหนแต่ไร แม้ว่าโครงการ Acoustic Kitty จะจบลงด้วยความล้มเหลว แต่โครงการนี้ได้ทิ้งมรดกทางวิชาการและเทคโนโลยีไว้มากมายในวงการข่าวกรองและวิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะในเรื่องของการพัฒนาเทคโนโลยีสอดแนมในรูปแบบที่ล้ำสมัยและการใช้สิ่งมีชีวิตเป็นเครื่องมือในการปฏิบัติภารกิจ บทเรียนจากโครงการนี้สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามของมนุษย์กับการทดลองสัตว์ ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นกับสัตว์ และแน่นอนว่าถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในแง่ของจริยธรรม สวัสดิภาพของสัตว์ แม้ว่าผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง แต่การทดลองและการคิดนอกกรอบของมนุษย์เช่นนี้ ยังคงเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนานวัตกรรม และเป็นเรื่องสร้างแรงบันดาลใจในการค้นหาวิธีการที่ดีอื่น ๆ ในการเผชิญกับความท้าทายใหม่ ๆ ในอนาคตได้ จากยุคสงครามเย็น เทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในปฏิบัติลับต่าง ๆ ทำให้การรวบรวมข่าวกรองมีความซับซ้อนมากขึ้น ดังนั้นการสอดแนมด้วยสปายก็ต้องพัฒนาตามไปด้วย เช่น ย้อนกลับไปที่ ฮวาลดิเมียร์ อีกหน่อย แม้กระทั่งตอนนี้ เบลูกาวัย 15 ปีตัวนี้จะลากลับดาววาฬเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ "รัสเซีย" เองก็ไม่เคยออกมายอมรับหรือมีการตอบโต้ใด ๆ ทั้งสิ้น ว่าเบลูกาขาวตัวนี้เป็นหนึ่งในกำลังพลของกองทัพหมีขาวหรือไม่ คงทิ้งไว้ซึ่งปริศนาที่ยังไม่มีใครไขคำตอบได้ว่า เหตุใด ฮวาลดิเมียร์จึงว่ายน้ำมาถึงนอร์เวย์และอาศัยอยู่ที่นั่นมาตลอด 5 ปี รวมถึง คำถามที่ไม่เคยตอบของรัสเซีย ที่อาจหมายถึงการปฏิเสธว่านี่ไม่ใช่วาฬของฉัน หรืออาจหมายถึงความลับเรื่องการฝึกสัตว์เป็นสปายอาจถูกเปิดเผย ก็เป็นไปได้หมดทั้งสิ้น อ่านข่าวอื่น : กลับดาวเบลูกา "Hvaldimir" วาฬสอดแนมรัสเซียชื่อดังตายแล้ว เปิดหน้า "ซาบีดา ไทยเศรษฐ์" นอมินีเจ้าพ่อลุ่มน้ำสะแกกรัง อ้างรอหมอนาน! พกมีดอาละวาด รพ. เดินกลางตลาด
วันนี้ (28 ก.ย.2564) ที่กรมราชทัณฑ์ นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า ตามที่นายอัจ