วันที่ 10 ธ.ค.2565 ที่สมาคมธรรมศาสตร์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรคสร้างอนาค
วันนี้ (24 พ.ย.2567) จากกรณี ปลัดอำเภอแห่งหนึ่งใน จ.ตาก ขับรถชนเยาวชนชายและหญิงอายุ 17 ปี เสียชีวิต 2 คน และเด็กอายุ 16 ปี บาดเจ็บสาหัส เหตุการร์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา บนถนนสายอุ้มผาง-แม
วันที่ 10 ธ.ค.2565 ที่สมาคมธรรมศาสตร์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรคสร้างอนาคตไทย ในฐานะศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปาฐกถาเรื่อง “โลกเปลี่ยน สถานการณ์เปลี่ยน ประเทศไทยจะเปลี่ยนไหม” ในงาน “วันธรรมศาสตร์ 10 ธันวาคม 2565 งานคืนสู่เหย้า” นายสมคิด ปาฐกถาตอนหนึ่งว่า เศรษฐกิจปีหน้ามีสัญญาณแนวโน้มการเติบโต แต่ไม่ใช่แบบก้าวกระโดผล บอล ลีก นอร์เวย์ เมื่อ คืนด เป็นการเติบโตอย่างช้า ๆ เนื่องจากปัจจัยภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก จากปัญหาสถานการณ์สงครามรัสเซีย ยูเครน วิกฤตราคาพลังงานแพง สินค้าแพง เกิดการแข่งขันการสร้างจีดีพีระหว่างท้องถิ่น ทำให้จีดีพี ประเทศอินโดนีเซียโตอย่างมีเสถียรภาพเฉลี่ย 7 เปอร์เซ็นต์มาหลายปี ส่งผลให้อินโดนีเซียกลายเป็นดาวจรัสแสงในขณะนี้ ซึ่งเกิดจากวิสัยทัศน์ และการเอาจริงเอาจังของผู้นำประเทศ ขณะที่ประเทศไทยก็เริ่มทำพร้อม ๆ กับอินโดนีเซีย แต่หยุดอยู่แค่ในรัฐธรรมนูญไม่ใช่การปฏิบัติ นายสมคิด กล่าวว่า ขณะที่เวียดนามก็เป็นประเทศที่น่าจับตา ก่อนหน้านี้ 3 ปี ตนเคยบอกว่าเวียดนามกำลังหายใจรดต้นคอประเทศไทย แต่มาวันนี้เวียดนามแซงหน้าไปแล้ว มีการเตรียมพร้อมเรื่องเศรษฐกิจดิจิทัล มีการปฏิรูปการศึกษา โดยมีการเปลี่ยนแปลงเนื้อหาการศึกษาให้สอดรับกับความเปลี่ยนแปลงของโลกอนาคต นอกเหนือจากนี้ สิ่งที่ทำให้ทั้ง 2 ประเทศ เป็นดาวจรัสแสงของอาเซียนก็คือการเปลี่ยนแปลงด้านกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการเติบโตของระบบเศรษฐกิจนับร้อยฉบับ และการออกใบอนุญาตให้ง่ายต่อการลงทุนทำธุรกิจและเอื้อต่อการเจริญเติบโตของประเทศอีกด้วย นายสมคิดมองว่า อาเซียนยังเป็นภูมิภาคที่สำคัญ ท่ามกลางการแข่งขันระหว่างจีนกับอเมริกา ซึ่งจะกลายเป็นโอกาสสูงสุดของอาเซียน ในการเติบโตของเศรษฐกิจ ซึ่งขณะนี้ โอกาสสำคัญอยู่ที่ 2 ประเทศ คืออินโดนีเซีย และเวียดนาม อย่างไรก็ตาม ตนมองว่าประเทศไทยยังมีโอกาส ซึ่งหัวใจสำคัญที่จะทำให้ประเทศไทยมีโอกาสคือต้องกระจายอำนาจ กระจายความเจริญสู่ท้องถิ่น ไม่ใช่กระจุกตัวอยู่แค่กระทรวง และส่วนกลาง ต้องสร้างผู้นำใหม่ ๆ ในท้องถิ่น หากไม่จริงจังกับการปฏิรูปนี้ก็ยากที่จะเห็นโอกาส และความเปลี่ยนแปลง อยากให้นายกรัฐมนตรีจริงจัง ใช้เวลาที่มีทำให้ดีที่สุด เพราะประเทศไทยเสียเวลาไปมากแล้ว ให้ลืมเรื่องเลือกตั้งไปก่อน อย่างไรก็ตาม วันนี้ผมไม่ได้มาว่าใคร ไม่มีประเด็นการเมือง ขอให้กำลังใจทุกพรรคการเมืองให้ทำประชาธิปไตยให้เป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง
นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ต่างประเทศ เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาช่วยเหลือตัวประกันคนไทยในอิสราเอลทั้ง 8 คน กลับประเทศไทย ยืนยันรัฐบาลพยายามหาแนวทางช่วยตัวประกันที่เหลือ โด