สั่งระงับก่อสร้างพระราม 2 เริ่ม 8-12 ส.ค.นี้ สแกนความปลอดภัย

ศึกวอลเลย์บอล โคโว วีลีก ของเกาหลีใต้ รอบชิงชนะเลิศ เกมที่ 3 โดยรอบชิงจะแข่งขันระบบ 3 ใน 5 เกม เป็นการเจอกันของ ฮุนได ฮิลสเตรท ต้นสังกัดของ "น้องมด" วิภาวี ศรีทอง หัวเสาทีมชาติไทย ในชุดสีขาว บุกไปเยือ

สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (สดร.) เปิด 10 ปรากฏการณ์ดาราศาสตร์ที่น่าติดตามในปี 2568 มีอะไรที่น่าส

นายยุทธนา บุญอ้อม หรือ "ป๋าเต็ด" โพสต์เฟซบุ๊ก มีข้อความว่า "มีกระแสวัยรุ่นส่วนหนึ่งแอนตี้ไฟเซอร์ เพราะผู้ปกครองห้ามฉีด เพราะข้อความที่ส่งต่อในไลน์ว่า ไฟเซอร์คือการล้างเผ่าพันธุ์" ซึ่งป๋าเต็ดลงท้ายข้อค

ปิดตลาดฯหุ้นดิ่ง 54.10 จุดแตะที่ 904.06 จุด ซื้อขายเกือบ 5 หมื่นล้าน ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งตลาดเอเชีย และ ยุโรป เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สินในสหภาพยุโรป รวมถึงตลาดหุ้นของไทยวันนี้ ( 26 ก.ย.) ระบบซื้อขายตลาดหลักทรัพย์แสดงสถานะหยุดซื้อขายชั่วคราว แต่มีคำชี้แจงว่า เป็นผลจากระบบซื้อขายมีการป้องกันความเสียหายจากการปรับลดลงของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ ปิดตลาดฯหุ้นดิ่ง 54.10 จุดแตะที่ 904.06 จุด ซื้อขายเกือบ 5 หมื่นล้าน ตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงกว่า 100 จุดต่ำที่สุดในรอบกว่า1ปี โดยมีแรงขายหุ้นบลูชิพหุ้นพื้นฐานดีขนาดใหญ่ทั้งพลังงาน และ กลุ่มสถาบันการเงิน ที่เกม มาก ขึ้นปรับตัวขึ้นไปมากก่อนหน้านี้ จากนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนต่างประเทศ ซึ่งเป็นไปตามการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นในเอเชีย ซึ่งเมื่อเวลาประมาณ 14.36 น.วันนี้ ( 26 ก.ย.) ระบบซื้อขายตลาดหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เอ็มเอไอ ได้แสดงสถานะหยุดซื้อขายชั่วคราว โดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ชี้แจงว่า ไม่ใช่มาตรการเซอร์กิตเบรกเกอร์ (Circuit Breaker) แต่เป็นผลจากระบบซื้อขายมีการป้องกันความเสียหายจากการปรับลดลงของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งในเวลาดังกล่าว ได้ปรับลดลงมากกว่าร้อยละ 10 หลังตรวจสอบพบว่า การปรับลดลงยังไม่ถึงระดับที่กำหนดที่จะต้องใช้มาตรการเซอร์กิตเบรกเกอร์ ระบบจึงได้ปรับสถานะตลาดให้สามารถซื้อขายต่อเนื่อง ซึ่งในช่วงเย็นวันนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯได้เรียกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ หรือ สมาคมโบรกเกอร์ เพื่อหามาตรการรับมือตลาดหุ้นผันผวน จากความกังวลปัญหาเศรษฐกิจสหรัฐ และหนี้ยุโรป สำหรับวันนี้ตลาดหลักทรัพย์ของไทยวันนี้ ติดลบอยู่ที่ 54.10 ปิดตลาดที่ 904.06 มูลค่าการซื้อขาย 47,630.62 ล้านบาท ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นทั่วโลกวันนี้ตลาดหุ้นในแถบเอเชีย ปิดปรับตัวลดลงอย่างหนัก ทั้งตลาดหลักทรัพย์นิเคอิของญี่ปุ่น ปรับตัวลดลงร้อยละ 2.2 ต่ำที่สุดในรอบกว่า 2 ปีครึ่ง หลักทรัพย์โซล คอมโพสิท ตลาดหลักทรัพย์ไต้หวัน หลักทรัพย์ออสเตรเลีย ขณะที่ตลาดหลักทรัพย์ฟิลิปินส์ที่ลดลงร้อยละ 4.24 ซึ่งถือว่าติดลบมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนกันยายนปี 2553 ส่วนหลักทรัพย์ในประเทศแถบยุโรป ปรากฏว่า ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงตามการซื้อขายหลักทรัพย์ในเอเชีย ซึ่งสาเหตุหลักเกิดจากความไม่เชื่อมั่นของนักลงทุน ทั้งปัญหาหนี้สินในยุโรป ที่เกรงว่า กรีซจะผิดนัดชำระหนี้ซึ่งจะส่งผลต่อชาติในยูโรโซนเป็นลูกโซ่ ประกอบกับความกังวลเรื่องการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐที่ไม่สู้ดี แม้ว่าที่ประชุมชาติ จี-20 จะออกแถลงการณ์ด่วนเพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนก็ตาม ตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงกว่า 100 จุดต่ำที่สุดในรอบกว่า1ปี โดยมีแรงขายหุ้นบลูชิพหุ้นพื้นฐานดีขนาดใหญ่ทั้งพลังงาน และ กลุ่มสถาบันการเงิน ที่ปรับตัวขึ้นไปมากก่อนหน้านี้ จากนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนต่างประเทศ ซึ่งเป็นไปตามการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นในเอเชีย ซึ่งเมื่อเวลาประมาณ 14.36 น.วันนี้ ( 26 ก.ย.) ระบบซื้อขายตลาดหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เอ็มเอไอ ได้แสดงสถานะหยุดซื้อขายชั่วคราว โดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ชี้แจงว่า ไม่ใช่มาตรการเซอร์กิตเบรกเกอร์ (Circuit Breaker) แต่เป็นผลจากระบบซื้อขายมีการป้องกันความเสียหายจากการปรับลดลงของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งในเวลาดังกล่าว ได้ปรับลดลงมากกว่าร้อยละ 10 หลังตรวจสอบพบว่า การปรับลดลงยังไม่ถึงระดับที่กำหนดที่จะต้องใช้มาตรการเซอร์กิตเบรกเกอร์ ระบบจึงได้ปรับสถานะตลาดให้สามารถซื้อขายต่อเนื่อง ซึ่งในช่วงเย็นวันนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯได้เรียกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ หรือ สมาคมโบรกเกอร์ เพื่อหามาตรการรับมือตลาดหุ้นผันผวน จากความกังวลปัญหาเศรษฐกิจสหรัฐ และหนี้ยุโรป สำหรับวันนี้ตลาดหลักทรัพย์ของไทยวันนี้ ติดลบอยู่ที่ 54.10 ปิดตลาดที่ 904.06 มูลค่าการซื้อขาย 47,630.62 ล้านบาท ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นทั่วโลกวันนี้ตลาดหุ้นในแถบเอเชีย ปิดปรับตัวลดลงอย่างหนัก ทั้งตลาดหลักทรัพย์นิเคอิของญี่ปุ่น ปรับตัวลดลงร้อยละ 2.2 ต่ำที่สุดในรอบกว่า 2 ปีครึ่ง หลักทรัพย์โซล คอมโพสิท ตลาดหลักทรัพย์ไต้หวัน หลักทรัพย์ออสเตรเลีย ขณะที่ตลาดหลักทรัพย์ฟิลิปินส์ที่ลดลงร้อยละ 4.24 ซึ่งถือว่าติดลบมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนกันยายนปี 2553 ส่วนหลักทรัพย์ในประเทศแถบยุโรป ปรากฏว่า ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงตามการซื้อขายหลักทรัพย์ในเอเชีย ซึ่งสาเหตุหลักเกิดจากความไม่เชื่อมั่นของนักลงทุน ทั้งปัญหาหนี้สินในยุโรป ที่เกรงว่า กรีซจะผิดนัดชำระหนี้ซึ่งจะส่งผลต่อชาติในยูโรโซนเป็นลูกโซ่ ประกอบกับความกังวลเรื่องการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐที่ไม่สู้ดี แม้ว่าที่ประชุมชาติ จี-20 จะออกแถลงการณ์ด่วนเพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนก็ตาม

ปิดตลาดฯหุ้นดิ่ง 54.10 จุดแตะที่ 904.06 จุด ซื้อขายเกือบ 5 หมื่นล้าน ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งตลาดเอเชีย และ ยุโรป เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สินในสหภาพยุโรป รวมถึงตลาดหุ้